EP : 5

1845 Words
ฉันมองตามหลังพี่วายุที่เดินไปที่รถของเขาที่จอดห่างออกไปประมาณ 30 เมตร เขาเดินไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองฉันกับมาร์คัส เดินตรงไปที่รถแล้วไปหยุดที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างรถ หยุดตรงหน้าเธอแล้วก็ก้มลงไปหอมกันนิดหน่อยจากนั้นก็ขึ้นรถแล้วก็ขับออกไป เหอะ! ให้มันได้อย่างนี้สิ แต่จะว่าเขาไม่ได้ เป็นใครก็ต้องให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ฉันกับมาร์คัสเพื่อนรักก็แค่ต้องดูแลกันในสภาพมึนและเมาทั้งคู่ก็แค่นั้นเองง่ายจะตาย “มาร์คัส” “อืม ว่าไงฮันนี่” เขายืนพิงเสาเหมือนเดิมน้ำเสียงลากยาวยานๆ ตามสภาพความเมาเหมือนเดิม “เดินไปซดโจ๊กร้อนๆ หน้าผับกันดีกว่า” ฉันชวนมาร์คัสด้วยความเซ็ง พานายนี่ไปหาอะไรร้อนๆ ลวกคอลวกลำไส้ให้อาการเมามันดีขึ้นแล้วค่อยกลับดีกว่าค่ะ จะโทรให้คนที่บ้านมารับก็เกรงใจ นี่เวลาพักผ่อน เราเป็นเจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิต นอกเหนือเวลางานก็ไม่ควรไปรบกวนเขา เฮ้อ! ชีวิตคนโสดก็ต้องดูแลตัวเองไปนะควีน -_-! -หลายวันต่อมา- “วันนี้ไปงานทำธุระให้แม่หน่อยสิควีน” ฉันกำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะอาหารคุณแม่ก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงหวานสายตาเต็มไปด้วยความหวังทำให้ฉันหวาดหวั่นในใจว่าธุระที่ว่าคงไม่พ้นการให้ฉันไปกุ๊กกิ๊กกับพี่วายุแน่นอน “ไม่ค่อยว่างเลยค่ะคุณแม่” “แม่ไม่ว่าง ถ้าว่างไม่รบกวนลูกหรอก ลูกบอกว่าไม่ค่อยว่างก็แสดงว่าพอมีเวลาว่างจริงไหมจ้ะ” ฉันทำไมไม่พูดไปเลยว่าไม่ว่างนะ “ก้ำกึ่งค่ะคุณแม่ มีเวลาแค่นิดหน่อยไม่เท่าไหร่ วันนี้จะไปทำธุระไกลด้วย” ฉันพลาดครั้งแรกแต่ไม่มีทางพลาดเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด “ไปไหนจ้ะ” คุณแม่ถามด้วยรอยยิ้มสวยๆ แล้วก็จ้องหน้าฉันเพื่อรอเอาคำตอบ และแน่นอนว่าถ้าฉันคิดคำตอบช้าเกิน 3 วินาทีคุณแม่จับโป๊ะได้แน่นอน “พัทยาค่ะ” ”ว้าว~ พัทยาเหรอคะลูกควีน” คุณแม่ทำหน้าเซอร์ไพรส์กับคำตอบของฉัน ไม่น่าไว้ใจเลยจริงๆ ค่ะ คุณแม่ของฉันเป็นตัวร้ายจริงๆ นะ ท่านใจบุญ รักเด็ก แต่กับฉันท่านเหลี่ยมเยอะมาก ยิ่งโตคุณแม่ยิ่งใช้เหลี่ยมกับฉัน T__T “ค่ะ ไปพัทยา เดี๋ยวทานข้าวเสร็จก็ไปแล้วค่ะแม่ เย็นๆ น่าจะเสร็จธุระถึงบ้านคงดึกๆ นะคะ เผื่อหาอะไรทานผ่อนคลายหน่อย” ไม่ได้อยากไปไหนหรอกค่ะ ขี้เกียจแต่เพื่อหนีแผนการจับคู่ของคุณแม่ได้ฉันยอมไป ให้ขับรถขึ้นเหนือล่องใต้ก็ยอม “อืม~ งั้นดีเลยเลยค่ะลูกขา อยู่ต่อช่วงค่ำกลับวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ” คุณแม่ฉีกยิ้มกว้างซึ่งเต็มไปด้วยความพึงพอใจ มัน...ยังไงๆ อยู่นะคะ “คะ?”​ “ก็แม่จะให้หนูไปทำธุระแทนแม่ ไปงานเปิดตัวห้างของพี่วาที่พัทยา หนูมีธุระไปที่นั่นพอดีแม่ก็โล่งใจ หนูจะได้ไม่เหนื่อย” อะไรกัน? นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับฉันกัน! จากจะหนีแต่ทำไมมันยิ่งทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นกันนะ! “คุณแม่...ล้อเล่นใช่ไหมคะ” ฉันคิดว่าหน้าฉันคงซีดลงจนคุณแม่จับสังเกตได้แล้วล่ะค่ะ “ไม่จ้ะ เอ๊ะ! หรือที่บอกว่าจะไปธุระนี่หมายถึงไปงานเปิดห้างพี่วา แม่ว่าควีนดูเวลาผิดรึเปล่าลูก งานเริ่ม 1 ทุ่มนะ” เหอะ! สาบานว่าคุณแม่คิดแบบนั้นจริงๆ “ทำไมคุณแม่ไม่ไปเองล่ะคะ” “แม่ติดงานแต่งลูกชายหุ้นส่วนคุณพ่อน่ะ หนูไปนั่นแหละดีแล้ว ไปให้กำลังใจพี่เขา โปรเจ็คใหญ่เลย ไปช้อปปิ้งด้วยแบรนด์ดังๆ เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ฉลองเปิดห้างพี่วาเยอะเลยนะจ้ะ” “...” ฉันเก็บอารมณ์ค่อนข้างเก่งแต่ครั้งนี้ฉันเซ็งจนพูดอะไรไม่ออก “เดี๋ยวพี่แวนดี้จะเตรียมชุดไปให้หนูเลือกที่โรงแรมนะจ้ะคนสวยของคุณแม่ เดินทางปลอดภัยค่ะคนดีของแม่” คุณแม่พูดเองเออเองสรุปทุกอย่างเสร็จสรรพ ส่วนฉันก็เอาแต่หน้านิ่งมองท่าน “แม่รักลูก แม่เลือกทุกอย่างที่ดีให้ควีน พี่วายุไม่ใช่คนเลวร้าย ลูกแม่รู้ดีใช่ไหมจ้ะ” ท่านเห็นฉันเงียบไม่สบอารมณ์คุณแม่ก็เลิกยิ้มอารมณ์ดีเหมือนไม่รู้ใจฉันแล้วท่านก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักความห่วงใย “แต่คนไม่รักก็คือไม่รักค่ะคุณแม่” “คนที่เขารักกันก็เริ่มจากไม่รักนี่ล่ะควีน หรือหนูคิดว่าแม่กับคุณพ่อรักกันตั้งแต่ลืมตาดูโลก”คุณแม่กลับมาทำน้ำเสียงอารมณ์ดีอีกครั้ง พูดจบก็ขยิบตาให้ฉันก่อนจะเดินออกไป เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิควีน -เวลาต่อมา- สุดท้ายฉันก็ต้องมาโผล่ที่ห้างชื่อดังอันดับหนึ่งประเทศที่มีสาขาอยู่หลายที่ และที่ตรงนี้ก็เป็นสาขาล่าสุด หรูหราหมาเห่าหมาหอนมากเลยค่ะ แต่ฉันไม่ชอบงานสังคมและที่สำคัญเป็นงานที่อาจจะมีคนดึงให้ฉันดูโดดเด่นทั้งที่ความจริงทุกคนก็รู้ว่ามันปลอมฉันยิ่งไม่ชอบ “วันนี้น้องควีนสวยที่สุดเลยค่ะ” “พี่แวนดี้แต่งใครไม่สวยบ้างคะ” ฉันหันไปตอบพี่แวนดี้ ช่างแต่งหน้าชื่อดังที่คุณแม่เรียกใช้บริการบ่อยมาก พี่แวนดี้ตามมาแต่งหน้าทำผมและเตรียมชุดให้ฉันถึงพัทยา ฉันไม่มีเพื่อนก็เลยลากเจ้แกมาด้วยเพราะถ้าพี่แวนดี้ไม่มาฉันก็จะไม่ออกจากห้อง ให้มายืนกร่อยคนเดียวฉันไม่เอาด้วยหรอก “สวยทุกคนแต่บางคนก็ปั้นเลือดตาแทบกระเด็นค่ะน้องควีน แต่น้องควีนนี้ของจริง แต่งง่าย ปาดๆ ปัดๆ ก็สวยเหมือนรูปวาด อิอิ” พี่แวนดี้ตอบด้วยน้ำเสียงอารม์ดีก็เลยทำให้ฉันยิ้มตาม เอาน่าควีน มันฝืนใจที่ต้องมาก็จริง แต่ถ้ามัวแต่ทำหน้าเซ็งแล้วใครล่ะที่ไม่มีความสุข ก็เธอไม่ใช่เหรอ สนุกไปกับมันหน่อยก็แล้วกันอย่าเอาแต่เซ็งเลยสงสารสุขภาพจิตตัวเอง “แล้วนี่คุณแม่บรีฟงานมายังไงบ้างคะ พอจะทราบไหม”​ ฉันว่าคุณแม่กับพี่แวนดี้ต้องรู้ว่าฉันต้องลากเจ้แกมา ก็เล่นเตรียมเสื้อผ้ามาเสร็จสรรพพร้อมออกงานซะขนาดนั้น น่าจะมีคุยกันเอาไว้แล้วล่ะค่ะ “ก็...ไม่มีนี่คะ บรีฟอะไรล่ะคะน้องควีน แค่บรีฟให้แต่งน้องควีนให้สวยเลิศที่สุดสุดในโลกาแค่นั้นเองค่า~” “พี่แวนดี้คะ” ฉันมองหน้าพี่แวนดี้แล้วก็เรียกชื่อเท่านั้นพี่แวนดี้ก็ยิ้มอ่อนออกมา “บรีฟยังไงก็ตามแต่สุดท้ายพี่แวนดี้อยู่ข้างน้องควีนค่ะ” พี่แวนดี้ยิ้มอ่อนแล้วก็ทำสีหน้ากรุ้มกริ่มไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ฉันก็เลยแค่กรอกตามองบนใส่ จากนั้นก็เดินเข้าไปดื่มด่ำกับบรรยากาศในงาน งานเปิดตัวห้างของพี่วายุจัดได้หรูมาก หรูแต่ไม่น่าเบื่อ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความทันสมัยดูน่าตื่นเต้น เท่าที่เข้ามาในงานได้ไม่ถึง 20 นาทีฉันว่าไม่มีความน่าเบื่ออย่างที่คิดเลย ได้ข่าวว่าห้างนี้เป็นโปรเจคใหญ่ที่สุดและเป็นโปรเจคแรกในการขึ้นเป็นผู้บริหารของเขาด้วย “คุณวายุนี่เก่งนะคะน้องควีน” “ค่ะ”​ ฉันพยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็ทักทายคนรู้จักตามมารยาท มากับพี่แวนดี้อารมณ์ไม่ต่างจากมากับคุณแม่เลยค่ะ เจ้แกรู้จักผู้คนเยอะมาก แต่การยืนสนทนากับคนรู้จักข้างพี่แวนดี้ไม่ได้นาเบื่อเพราะไม่มีเรื่องธุรกิจ พี่แวนดี้คุยเรื่องความงามเครื่องสำอางโน่นนี่นั่นก็สนุกดี แต่คงสนุกกว่านี้ถ้าทุกคนไม่หันมายิ้มแสดงความยินดีกับฉันประหนึ่งว่าฉันเป็นเมียเจ้าของห้าง -__-! “น้องควีนลูก~” “...สวัสดีค่ะคุณป้า” ฉันหันไปตามเสียงเรียกของใครบางคนที่เรียกชื่อฉันพอหันไปก็ยิ้มกว้างออกมาทันที “สวยจังเลยคนสวยของป้า มาค่ะขอป้ากอดที” คุณป้าสิรินทร์คุณแม่ของพี่วายุค่ะที่เดินเข้ามาทักและตรงเข้ามากอดฉันแน่น “คิดถึงคุณป้ามากเลยค่ะ” พอท่านกอดฉันเสร็จฉันก็บอกด้วยความดีใจ ฉันรักท่านเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเพราะท่านเป็นเพื่อนกับคุณแม่และก็รักเอ็นดูฉันตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก “ป้าก็คิดถึงหนูจ้า แต่เดี๋ยวเราค่อยคุยกันเนาะลูกเนาะ หนูไปหาพี่เขาก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่เขาก็ออกมาแล้วป้าอยากให้หนูเป็นกำลังใจให้พี่เขา” คุณป้าสิรินทร์พูดจบก็ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดอะไรเพราะท่านจูงมือฉันไปเลย พี่แวนดี้ก็ตามมาค่ะ เดินมาที่ประตูบานหนึ่ง “พี่เขาเตรียมตัวอยู่ด้านในหนูเข้าไปหาพี่เขานะจ้ะ น่าจะอยู่คนเดียวเพราะเขาอ่านสคริปอยู่ วันนี้หนูควีนของป้าสวยมากพี่วาต้องมีกำลังใจมากแน่นอน ไปค่ะลูก” คุณป้ามองฉันด้วยสายตาชื่นชมแล้วท่านก็ทำท่าจะเปิดประตู “เอ่อ...คุณป้าคะ / เดี๋ยวป้าไปคุยกับแขกก่อนฝากให้กำลังใจพี่เขาแทนป้าด้วยนะลูกนะ” คุณป้าสิรินทร์พูดจบก็เปิดประตูดันฉันเข้าไปแล้วปิดประตูทันที ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมสนิทและรักกับคุณแม่ฉันมาก นิสัยท่านเหมือนกันแบบนี้นี่เอง ฉันลอบถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเซ็ง พี่วายุไม่ได้ต้องการกำลังใจจากฉันหรอก แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสองคนเข้าใจสถานะของกันและกัน บอกพี่เขาว่าคุณป้าให้เข้ามาแล้วก็แยกกันนั่งต่างคนต่างอยู่ก็จบ ฉันตกลงกับตัวเองได้แล้วก็หันไปด้านในห้องแต่ภาพที่เห็นกลับไม่ใช่พี่วายุนั่งอ่านสคริปหรือเตรียมตัวรอเวลาอะไรสักอย่าง ไม่มีเลยค่ะ “เอ่อ...” ฉันไม่เจอใครสักคนที่เตรียมตัวเรื่องงานสักคนเดียว …ฉันเจอแค่ผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งที่ยืนจูบกันดูดดื่มที่มุมหนึ่งของห้อง ท่าทางดูดดื่มอยู่ในภวังค์จนไม่รู้ตัวว่าประตูห้องถูกเปิดออกและปิดลงพร้อมกับมีฉันที่ยืนชมการจูบดูดดื่มอยู่ตรงนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD