“ยืนอยู่ข้างกันกูเลือกไม่ถูกเลยว่ะ สวยทั้งคู่”
“...”
“เออ สวยทั้งคู่ ถ้าเป็นกูคงคิดหนัก มึงคิดหนักไหมวะ”
“ไม่” ผมตอบทันทีเพราะหนึ่งในผู้หญิงที่พวกมันถามคือแฟนผม
“หึๆๆ ถ้ากูเป็นน้องควีนมาได้ยินแบบนี้กูคงเสียใจ”
“เขาไม่เสียใจหรอก พวกมึงก็รู้สถานะกูกับเขา” ผมตอบแล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดก พร้อมกับมองไปที่โต๊ะ VIP โต๊ะหนึ่งที่มีผู้หญิงผู้ชายคู่หนึ่งนั่งอยู่ แล้วก็มีนิราที่ยืนรับออเดอร์อยู่ข้างๆ
“หึๆๆ มึงนี่ใกล้เข้าสมาคมรักเมียตามไอ้เปอร์ไอ้ฟาร์แล้วนะไอ้วา” ไอ้ราฟหนึ่งในเพื่อนที่ผมมานั่งดื่มด้วยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยผมก็เลยปลายตามองมัน
“แฟน”
“เออๆ แฟนก็แฟน ลับหลังพวกกูอย่าจับแฟนอึ๊บนะมึง แบบนั้นเขาเรียกเมีย”
“หึๆๆ พวกมึงแม่ง” ผมอดขำไม่ได้ ผมไม่เรียกใครว่าเมียจนกว่าจะแต่งงานกันหรอกครับ แฟนก็คือแฟน ขยับสถานะแต่งงานจดทะเบียนสมรสเมื่อไหร่ค่อยเรียกเมีย แบบนั้นดีกว่าผมไม่อยากมีเมียเยอะ ถึงแม้ว่าผมจะรักนิราแต่เธอก็ยังไม่ใช่เมียผม และผมก็มองว่าไม่ได้เป็นการไม่ให้เกียรติเธอถ้าผมจะไม่เรียกเธอว่าเมียทั้งที่เรามีอะไรกันแล้ว การที่ผมพูดสนุกปากกับทุกคนว่าเธอเป็นเมียผมว่ามันดูไม่ให้เกียรติมากกว่าอีก
“คนนี้ของจริงไหมวะ แต่ท่าทางจะของจริงเพราะกูไม่เคยเห็นมึงตามเฝ้าใครแบบนี้มาก่อน แถมไอ้ห่าวายุตัวร้ายที่ชอบเดินเข้าใส่ผู้หญิงก็ไม่เคยเดินไปหาใครตั้งแต่ตกหลุมรักน้องนิราคนสวย” ไอ้แบงค์ถามขึ้นบ้าง
“มึงว่าไงล่ะ” ผมไม่ตอบมัน แต่ถามความคิดเห็นมันแทนแล้วก็มองไปทางนิราอีกครั้ง
“ก็ดี สวย น่ารัก ขยัน แต่คนละสังคมกับมึงแถมมึงยังมีคู่หมั้นแล้ว กูว่าบอกน้องเขาเผื่อใจหน่อยก็ดีนะเว้ยแม่มึงไม่ยอมง่ายๆ หรอก”
“แต่กูว่าน้องเขาคงเผื่อใจไว้บ้างแล้วล่ะว่ะ ไม่งั้นคงไม่ยอมคบกับมึงทั้งที่มึงมีคู่หมั้นหรอก” ผมยังไม่ได้พูดอะไรหลังจากได้ยินคำแนะนำของไอ้แบงค์มันก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่าว่านิรา ถ้าเลือกได้กูก็ไม่อยากให้นิราต้องตกอยู่ในสถานะนี้” ผมมองไอ้แบงค์หน้าตึงเพราะคำพูดของมันฟังดูก้ำกึ่งการดูถูกนิรา ผมรู้ว่าเธอไม่อยากอยู่ในสถานะนี้ ทุกวันเธอไม่ได้มีความสุขเต็มร้อย ยิ่งรู้ว่าควีนกลับมานิราก็ยิ่งเศร้า เมื่อคืนที่ผมไปงานกับควีนผมก็รู้ว่าเธอเจ็บมากแค่ไหน
“เออๆ กูขอโทษถ้าพูดอะไรผิดหูมึง แต่น้องควีนก็สวยมึงไม่สนใจคู่หมั้นของมึงจริงๆ เหรอวะ” ไอ้แบงค์รีบขอโทษทำให้ผมลดความโมโหที่ครุกรุ่นอยู่ในใจลงไปได้บ้าง ผมไม่ได้ตอบคำถามของมันนอกจากมองไปที่โต๊ะนั้นที่ตอนนี้ไม่มีนิรายืนอยู่แล้ว เหลือก็แค่คู่หมั้นของผมกับไอ้มาร์คัสเพื่อนของเธอ
“นับวันยิ่งสวยว่ะ กูว่าแม่ยายมึงเก่งว่ะ ตั้งชื่อลูกเหมือนเห็นอนาคตว่าโตมาลูกสาวจะสวยสง่าเหมือนควีน” ไอ้ราฟพูดขึ้น ผมก็เห็นด้วยว่าควีนเหมือนควีนจริงๆ เธอสวยสง่า นับวันความสวยความสง่าของเธอก็ยิ่งแผ่กระจายออกมา
แต่ความสวยความสง่าไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ผมควงผู้หญิงสวยมาเยอะ นอนกับดารานางแบบชื่อดังก็เยอะ ทุกคนสวยหมดแต่ไม่มีใครที่เป็นความสบายใจให้ผมได้
ผู้หญิงส่วนมากชอบผมอยากได้ผมเพราะผมคือวายุ ทายาทเจ้าของห้างดังอันดับหนึ่งของเมืองไทยและตอนนี้ผมก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารแล้ว ทุกคนมองผมแค่หน้าตาฐานะ อยู่ด้วยก็มีแค่เซ็กส์ ช้อปปิ้ง แล้วก็เงิน ไม่มีใครเป็นความสบายใจให้ผมได้เลยนอกจากนิราแค่คนเดียว
แต่จะว่านิราเป็นความสบายใจทั้งหมดก็ไม่ใช่หรอกครับ เธอมีเรื่องให้ผมไม่สบายใจต้องคิดถึงอยู่ตลอดเหมือนกันนั่นก็คือความดื้อของเธอ ดื้อจะทำงานทั้งที่ผมให้เงินเธอใช้ได้ แล้วงานของเธอก็ต้องทำตอนกลางคืนเพราะกลางวันเธอต้องเรียนหนังสือมันเลยเป็นสาเหตุให้ผมต้องมานั่งเฝ้าเธอเกือบทุกวันนี่ไง
“มึงไม่ลองคุยกันใหม่วะไอ้วา กูว่าถ้ามึงกับน้องควีนเปิดใจให้กันชีวิตมึงง่ายขึ้นเยอะเลย บอกตามตรงพวกมึงแม่งเหมาะสมกันที่สุดแล้วว่ะ”
“อย่าพูดแบบนี้อีกไอ้แบงค์กูไม่อยากให้นิราได้ยิน” ใครๆ ก็บอกว่าผมกับควีนเหมาะสมกัน ผมไม่เถียงครับว่าเราเหมาะสมกันเพราะผมก็รู้สึก แต่ตอนนี้ผมมีนิราแล้ว ความเหมาะสมอะไรพวกนั้นมันไม่ใช่ตัวการันตีว่าเราจะรักกันได้หรือใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุข เพราะไม่อย่างงั้นป่านนี้เราคงไม่ต่างฝ่ายต่างนั่นโต๊ะตัวเองและมีสถานะไม่ต่างจากคนไม่รู้จักกันแบบนี้หรอก
“โอเคๆ กูขอโทษอีกครั้ง ถ้ามึงคิดว่าคนนี้คือตัวจริงของมึงกูก็ขอให้มึงกับเขาผ่านอุปสรรคทุกอย่างด้วยกันได้”
“อืม ขอบใจ” ผมพยักหน้ารับแล้วปล่อยใจให้อยู่กับความคิดของตัวเอง
ควีนคือผู้หญิงที่สวยและเพียบพร้อมเหมาะสมกับผมทุกอย่าง ไม่มีตรงไหนที่เป็นจุดบกพร่องที่บอกว่าผมกับเธอไม่เหมาะสมกัน ไม่มีอุปสรรคอะไรเลยสำหรับผมกับควีนแต่ตอนนี้เราไม่ได้รักกัน คนสองคนที่ไม่ได้รักกันจะจับมือกันในวันข้างหน้าแล้วมีความสุขได้ยังไง
ส่วนนิราคือผู้หญิงที่แตกต่างกับผมมากด้านฐานทางสังคม แต่อย่างที่ผมบอก เธอคือความสบายใจของผม เธอคือคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่กับนิราผมต้องข้ามผ่านอุปสรรคหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องคู่หมั้น แต่รวมถึงการยอมรับจากครอบครัวของผมหลังจากที่ผมถอนหมั้นสำเร็จ
ครอบครัวผมไม่ได้แบ่งแยกชนชั้นหรือดูถูกคนที่ด้อยกว่า แต่เพราะแม่ผมรักและคาดหวังว่าต้องเป็นควีนเท่านั้นที่มาเป็นสะใภ้คนเดียวของท่าน เพราะฉะนั้นท่านจะไม่มีทางยอมรับคนอื่นได้ง่ายๆ ผมรู้ดี
แต่ไม่ว่ายังไงสุดท้ายผมก็ต้องเลือกคนที่จะมาใช้ชีวิตที่เหลือกับผมด้วยตัวเอง
Line!
NiRa : วันนี้นิรากลับเองได้นะคะ
Wayu : ทำไม?
NiRa : กลัวคนนั้นเห็นค่ะ
Wayu : ควีนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่
NiRa : นิราไม่สบายใจ
Wayu : พี่รอรับกลับเหมือนเดิมครับ ทำงานเถอะไม่ต้องคิดมาก
ผมตอบแค่นั้นก็ไม่มีข้อความจากนิราส่งมาอีก ไม่รู้ว่าป่านนี้ในใจเธอจะคิดอะไรบ้าง เธอชอบคิดมากเรื่องความแตกต่างของเราสองคน และอีกเรื่องคือเรื่องควีน ผมบอกเธอไปแล้วว่าเราไม่ได้รักกันและพยายามจะหาวิธีล้มเลิกการหมั้นเธอก็ไม่เคยเซ้าซี้อะไรอีก แต่ผมรู้ดีว่าเธอยังเก็บเรื่องนี้เอาไว้ให้เป็นความไม่สบายใจอยู่ภายในใจเธอ
-เวลาต่อมา-
“ทีแรกนายไม่เมาไม่ใช่เหรอมาร์คัส” ฉันยืนพิงรถมองเพื่อนตัวดีที่ยืนพิงเสาของลานจอด สีหน้ามึนเมาของนายนี่ทำให้ฉันต้องกรอกตามองบน
“เอาน่า~ ฮันนี่ก็แค่ไปส่งแล้วก็ขับรถกลับ”
“ฉันพกใบขับขี่ที่ไหนกันล่ะมาร์คัส แล้วอีกอย่างฉันก็ดื่มเยอะเหมือนกัน ถ้าขับกลับไม่โดนจับไปโรงพักก็โดนหามไปโรงพยาบาลแน่นอน” ฉันมาเที่ยวเลยใช้กระเป๋าอีกใบ หยิบแค่บัตรประชาชนกับบัตรเครดิตมาเท่านั้น เพราะมารถเขาก็เลยไม่ได้สนใจหยิบใบขับขี่มาด้วย ก็ใครจะคิดว่าอีตานี่จะกล้าดื่มเหล้าจนเมา ฉันดื่มเมาพักใหญ่แต่นายนี่เพิ่งมาเร่งเครื่องตอนท้าย ถ้ารู้ว่าเขาจะเมาฉันไม่มีทางดื่มหรอก
เหอะ! คิดแล้วอยากจะหยิกร่องอกยัยนมโตในผับ เล่นหูเล่นตาให้กันแล้วก็ชูแก้วชนกันไกลๆ ในระยะ 10 เมตรเกือบ10 แก้ว นายเพื่อนตัวดีของฉันก็อยากโชว์เพาเวอร์สาวเลยยกให้กันแล้วก็กระดกหมดแก้วทุกครั้ง แล้วเป็นไงสุดท้ายก็เมาอย่างที่เห็น!
“หึๆๆ ใจเย็นฮันนี่ เราไม่ได้เมาในป่าละเมาะสักหน่อย เดี๋ยวหาทางกลับบ้านให้น่า~”
“ยังไม่สลดอีก! ต่อไปฉันจะไม่มากับนายแล้วมาร์คัส” อยากพุ่งเข้าไปข่วนหน้านายนี่จังเลยค่ะ
“เกิดอะไรขึ้นครับ มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” ระหว่างที่กำลังจะอ้าปากวีนมาร์คัสเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“พี่วายุ” ฉันหันไปตามเสียงก็เห็นหน้าคนถาม เขาเดินตรงมาทางเราสงคนแล้วก็ถามอีกครั้ง
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ก็พอดีมาร์คัสเมาน่ะค่ะ” ฉันตอบไปตามความจริงแล้วก็ทำหน้าเซ็งไปด้วย
“เมานิดหน่อยเฮีย” ยังมีหน้ามาตอบเขาอีกว่าเมานิดหน่อย!
“หึๆๆ กูว่าสภาพมึงไม่นิดแล้ว แล้วจะกลับกันยังไงครับเราขับกลับเหรอ” พี่วายุคุยกับมาร์คัสจบก็หันมาถามฉันด้วยรอยยิ้มและสีหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง ก็ปกติค่ะไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าตัดเรื่องบ่วงคู่หมั้นที่ผูกคอฉันกับเขาออกไป พี่วายุก็ถือเป็นพี่ที่ดีคนหนึ่ง
“ควีน...” / ตื๊ด~
“พี่ขอเวลาแปบนะครับ” ฉันกำลังจะบอกว่าฉันไม่มีใบขับขี่แล้วฉันก็เมาด้วย ถ้าโดนเรียกโดนเป่าฉันโดนจับแน่นอนค่ะ แต่เสียงโทรศัพท์ของพี่วายุดังขึ้นซะก่อนแล้วเขาก็ขอเวลานอกด้วย ก็โอเคค่ะเดี๋ยวค่อยบอกก็ได้
“ครับ”
“อ่อ พี่รอที่ลานจอดเสร็จแล้วลงมาเลยนะ รอที่รถแล้วเหรอ โอเคครับ” เสียงหวานขนาดนี้แสดงว่าคนที่โทรมาต้องเป็นพนักงานเสิร์ฟคนสวยคนนั้นสินะ แต่ฉันก็มีเรื่องจำเป็นคงต้องขอความช่วยเหลือไม่งั้นแย่ทั้งคู่แน่
“พี่วาคะคือ.../ พี่คงต้องขอตัวก่อนนะครับพี่รีบเราก็ขับรถดีๆ นะ ไอ้มาร์คัสถ้ามันเมามากก็ทิ้งมันไว้แถวนี้แหละเดี๋ยวสาวๆ ก็มาลากมันไปดูแลเอง” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็พูดแทรกแถมท่าทางยังดูรีบขึ้นมาทันที
“...ค่ะ โอเคค่ะ” ฉันนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับ
…แต่เขาไม่ได้ฟัง เขาแค่ยิ้มให้แล้วก็หันหลังเดินไปเลย