ไรอันกลับเข้ามาในแผนกอีกครั้งพร้อมกับสรศักดิ์ ชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวามองหาเจ้าของชื่อดาวเหนือที่เขาเพิ่งจะตกตะลึงในความดูดีไปเมื่อครู่ ทว่าในตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่เงาของเธอ
‘มองหาใครน่ะ’ สรศักดิ์จับบ่าของไรอันแล้วเอ่ยถาม พลางมองตามสายตาของเด็กฝึกงานรุ่นน้อง ‘ถ้ามองหาพี่เหนือละก็ น่าจะออกไปพบลูกค้าแล้วละ ไม่รู้รอบนี้ดีลเลอร์เจ้าใหญ่คนไหนเรียกตัวไปคุยด้วย เรียกว่าคิวทองตั้งแต่ต้นเดือนยันปลายเดือนเลยละคนนี้’
‘งั้นหรอครับ…’ ชายหนุ่มพึมพำออกมา ‘คุณเรียกคุณเหนือว่าพี่ ผมขอถามได้ไหมครับว่าคุณเหนืออายุเท่าไหร่’
‘ปีนี้ก็ยี่สิบหกแล้วนะ ถามทำไมล่ะ’ สรศักดิ์ขมวดคิ้ว ส่วนไรอันรีบส่ายหัวปฏิเสธ
‘ไม่มีอะไรครับ ผมแค่รู้สึกชื่นชมที่คุณเหนือเขาเป็นคนทำงานเก่ง ทั้งคุณบีมทั้งคุณหนิงออกปากชมไม่หยุดเลย ผมเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะเป็นอย่างนั้นได้บ้างครับ’
‘ถ้าอยากจะเก่งเหมือนพี่เหนือก็ต้องพยายามหน่อย เอางี้ เดี๋ยวถ้าพี่เหนือกลับมาผมจะให้คุณคุยกับพี่เหนือดูว่าพอจะมีเทคนิคอะไรในการทำงานบ้าง โอเคไหมครับ’
ไรอันนึกลิงโลดอยู่ในใจด้วยการกระทำของสรศักดิ์นั้นไม่ต่างอะไรกับการชี้โพรงให้กระรอกเลย เขาตอบรับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรเหมือนลูกหมาซามอยด์
‘ขอบคุณคุณบีมมาก ๆ นะครับที่ช่วยผม’
วินาทีนี้ไรอันรู้สึกสนใจในตัวของดาวเหนือมาก ๆ เพราะเพียงแค่ปราดเดียวที่ได้สบตากัน เขาก็รู้ทันทีว่าเธอไม่เหมือนใครที่เขาเคยเจอมา
ร่างสูงของชายหนุ่มมากเสน่ห์คนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาภายในบริษัท W&C pub พร้อมกับโปรยรอยยิ้มให้กับสาว ๆ ตั้งแต่หน้าประตู มือหนาคว้าเอาป้ายห้อยคอของตนเองมาสวมเข้า ชื่อที่พิมพ์ติดอยู่คือ ‘กรกัณณ์’ เขาขยับปกสูทสีเทาของตนเองพร้อมทั้งจัดระเบียบร่างกายให้ดูหล่อเหลาผ่านการส่องกระจกที่ติดอยู่ใกล้ลิฟต์ เส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นรับเข้ากับใบหน้าคมคาย ดูเป็นคนหล่อแบบเข้ม ๆ ยืนผิวปากรอเวลาให้ลิฟต์ลงมาถึง และทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ใบหน้าของเขาก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าเดิม
‘อ้าวพี่กัณณ์ กลับมาแล้วเหรอคะ เหนือคิดว่ากำลังจะออกไปเจอกันที่ลานจอดรถอยู่พอดี’ ดาวเหนือเดินออกมาจากลิฟต์ ใบหน้าของเธอนวลผ่องโดดเด่นจากพนักงานสาวคนอื่น ๆ ความสวยเตะตานั้นทำให้กรกัณณ์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมและเมินคำถามไป
‘วันนี้สวยเป็นพิเศษเลยนะครับน้องเหนือ เหมือนรู้ว่าพี่จะชวนเราออกไปทานมื้อเที่ยงข้างนอกด้วยกันอย่างนั้นแหละ’ คนตัวโตกว่าขยับตัวเข้าหาอย่างฉวยโอกาส ดาวเหนือที่ไม่ได้ระวังตัวก็ยังคงอยู่นิ่งด้วยความไว้วางใจ เพราะผู้ชายคนนี้นี่แหละ คือคนที่อยู่ในหัวใจของเธอมาตลอดนับตั้งแต่ทำงานด้วยกัน
หญิงสาวอธิบายไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้สำหรับเธอแล้วมันเรียกว่าอะไร เพราะตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยแอบชอบหรือรู้สึกอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับใครทั้งนั้น ทว่าความแสนดีและความเอาใจใส่ของกรกัณณ์ได้เขย่าบานประตูหัวใจของเธอให้เปิดออก แต่ถึงกระนั้นดาวเหนือก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าเธอรักกรกัณณ์จริง ๆ หรือแค่หลงไปชั่วครู่ชั่วคราวกันแน่
‘ทานมื้อเที่ยงเหรอคะ ได้เลยค่ะ เหนืออยากออกไปทานกับพี่กัณณ์พอดี ถ้างั้นเหนือขอกลับขึ้นไปเอาโทรศัพท์ก่อนได้ไหมคะ พอดีรีบลงมาไปหน่อยก็เลยลืมไว้ค่ะ’ เธอตอบรับคำเชิญของชายหนุ่มด้วยหัวใจที่ฟูไปด้วยความรู้สึกดี
‘ได้สิครับ ถ้างั้นพี่ขึ้นไปด้วยแล้วกัน’ กรกัณณ์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นทั้งสองจึงขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน ระหว่างทางก็มีการพูดคุยถามไถ่เรื่องราวในชีวิตประจำวันของกันและกันไปด้วย ‘ถ้าไม่นับใบหน้าสวย ๆ ของเหนือแล้ว ช่วงนี้เหนือดูไม่ค่อยสดชื่นเลย เป็นเพราะว่านอนไม่พอใช่ไหมครับ พี่บอกแล้วไงว่าอย่าไปซีเรียสกับเรื่องงานมาก เหนือเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ไม่หักโหมก็สำเร็จได้ครับ’
กรกัณณ์ยกยอหญิงสาว และนั่นเป็นสิ่งทำให้ดาวเหนือรู้สึกดีมาตลอด
‘ก็ใกล้ถึงช่วงประเมินรายเดือนแล้วนี่คะ ผู้ใหญ่ในบอร์ดบริหารก็ตั้งความหวังกับเหนือไว้มาก ถ้าพลาดขึ้นมาเสียหน้าเสียงานแน่เลยค่ะ’ เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความรู้สึกหนักอึ้งในใจ
อาจเพราะว่าที่ผ่านมาเธอเป็นคนเก่งมาโดยตลอด ทุกคนที่เคยได้เห็นเธอในมุมนั้นจึงพานคิดว่าเธอจะเก่งทุกเรื่องและเก่งทุกเวลา ทั้งที่ความจริงแล้วดาวเหนือแค่ทำได้ดีที่สุดในเรื่องที่เธอถนัดเท่านั้น ทว่าแรงกดดันมหาศาลทำให้เธอต้องถนัดทุกอย่าง ภาพที่คนอื่นมองเข้ามาจึงกลายเป็นว่า ดาวเหนือเป็นคนเก่งและพร้อมในทุกด้าน ทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ และการทำงาน หลายคนจึงมีเธอเป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ส่วนบางคนก็จ้องแต่จะอิจฉาและคอยที่จะเหยียบซ้ำหากวันใดวันหนึ่งเธอพลาดพลั้งขึ้นมา
‘คนเก่งอย่างเหนือไม่มีทางพลาดแน่นอน ไม่ต้องห่วงครับ’ กรกัณณ์ลูบศีรษะของดาวเหนือขณะที่เดินเข้าแผนกการตลาดมาด้วยกัน
‘แหม ๆ เดินเนื้อแนบเนื้อกันมาขนาดนี้ เห็นทีตอนเที่ยงฉันคงได้ไปกินข้าวกับไอ้บีมสองคนแล้วละมั้งเนี่ย’ เป็นสุกัญญาที่ท้วงขึ้นมาเป็นคนแรก
‘แหนะพี่เหนือ หวานกันออกสื่อไม่เกรงใจผมอีกแล้วนะครับ’ สรศักดิ์ผสมโรงด้วย ทำให้ไรอันที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ต้องเงยหน้าขึ้นมองตาม ภาพที่เห็นคือดาวเหนือกำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งที่เขาเห็นครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตายืนติดกันอยู่ คิ้วหนาของไรอันขมวดเข้าหากันทันทีด้วยความสงสัยในสถานะของทั้งสองคน เพราะดูจากสีหน้าแล้ว ดาวเหนือดูมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้กับผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดภาพที่อยู่ตรงหน้าถึงได้รบกวนจิตใจของเขาเสียเหลือเกิน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยถามสรศักดิ์ว่าไอ้หมอนั่นเป็นใครมาจากไหน เขาก็ถูกแนะนำขึ้นในวงสนทนาเสียก่อน ‘เอ้อ พี่กัณณ์ นี่เด็กฝึกงานคนใหม่ของบริษัทเรา หน้าตาดีใช้ได้ สูสีกับพี่เลยนะเนี่ย สาว ๆ ในแผนกกรี๊ดกันตรึมเลย’
เป็นสรศักดิ์ที่หันมา พร้อมกับใช้แขนสะกิดให้ไรอันพูดแนะนำตัว
‘สวัสดีครับ’ ไรอันทักทายสั้น ๆ พร้อมกับไม่ยกมือไหว้ เขาไม่คิดอยากจะผูกมิตรกับคนคนนี้เลยแม้แต่น้อย
และเมื่อเห็นว่าเด็กฝึกงานในแผนกไม่ยกมือไหว้ตน กรกัณณ์ก็ขมวดคิ้ว เขาเหมือนมีบางอย่างที่อยากจะพูดออกมาแต่ก็ไม่พูด
‘สวัสดีครับน้อง พี่กรกัณณ์นะ มีอะไรก็เรียกถามได้ จะว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนก็ได้ พี่ยินดีให้คำแนะนำทุกเรื่อง’
‘ครับ ขอบคุณครับ’ ไรอันยังมองกรกัณณ์อยู่แม้ว่าบทสนทนาระหว่างพวกเขาจะจบลงแล้ว เขาเห็นหมอนั่นหันไปคุยกับดาวเหนือด้วยสีหน้าแช่มชื่น ต่างจากตอนที่คุยกับเขาสักพักหนึ่งก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกไป
ไรอันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา เขารู้สึกว่าผู้ชายที่ชื่อกรกัณณ์คนนี้จะต้องไม่ใช่คนดีอย่างเปลือกนอกแน่ ๆ หมอนั่นเหมือนคนที่เก็บซ่อนเรื่องไม่ดีของตัวเองเอาไว้มิดชิดจนคนอื่นมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะไว้ใจหรือผูกมิตรกับคนคนนี้เป็นอันขาด คบหาไว้เพื่อทำงานก็เพียงพอแล้ว