เมื่อเดินมาถึงเรือนหลัก ก็พบว่า ทั้งสามคนได้รออยู่ก่อนแล้ว “ขออภัยเจ้าคะ แม่รองที่ให้ทำท่านกับน้องๆ ต้องรอ ข้ามาช้าไปหรือไม่” ลี่หลินเอ่ยกับมารดาเลี้ยง
“ไม่เจ้าคะ คุณหนูใหญ่ พวกเราเพิ่งมาก่อนท่านแค่ชั่วก้านธูป ไม่ได้รอนานอะไร เพิ่งจะนั่งลงด้วยซ้ำ”
มารดาเลี้ยงเอ่ยกับลี่หลินพร้อมทั้งส่งยิ้มอย่างไม่ถือสาไปให้อีกฝ่าย ขณะที่ในใจนั้น คิดไปอีกทาง หนอยแน่ะ นางเด็กเมื่อวานซืน บังอาจให้ข้าและลูกๆ ต้องรอ วันนี้แหละเราจะได้เห็นดีกัน ข้าจะกำจัดเจ้าให้พ้นทาง หนทางการเป็นฮองเฮาต้องเป็นของลูกข้าเท่านั้น ผู้อื่นอย่าได้หวังเลย อีกทั้งของสิ่งนั้นที่ตามหามานาน ข้าก็ต้องได้เช่นกัน นี่เป็นคำขาดจากคนผู้นั้น
“ท่านแม่ ในเมื่อพี่หญิงใหญ่ก็มาแล้ว งั้นเราก็ออกเดินทางกันเถอะเจ้าคะ เดี๋ยวจะสาย เวลาไม่คอยถ้า…ชักช้าไม่ทันกำหนดการนะเจ้าคะ” เหลียงซิงหลิงกล่าวพร้อมเหลือบสายตามองพี่สาวต่างมารดา ไม่ว่าจะมองมุมไหน นางก็งามสู้พี่สาวไม่ได้อยู่ดี นี่ขนาดแต่งเต็มยศจัดเต็มเครื่องประดับขนาดนี้ ต่างหู สร้อยคอ ปิ่นหงส์ระย้า กำไลข้อมือ ก็ยังถือว่าด้อยกว่าอยู่หลายขุม หึคอยดูเถอะ ว่าวันนี้เจ้าจะยังสวยงามสง่า ผงาดดังนางพญาได้อยู่อีกหรือไม่
“น้องพี่ วันนี้เจ้างามนัก ชุดผ้าไหมสีแดงนี้เหมาะกับเจ้าจริงๆ แม่รอง กับเจ้าเล็ก ก็ด้วย วันนี้พวกท่านดูดีจริงๆ “เหลียงลี่หลินกล่าวกับคนในครอบครัวอย่างจริงใจ พร้อมทั้งเผยรอยยิ้มกว้างไปจนถึงดวงตา รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก ที่วันนี้จะได้อยู่พร้อมหน้า พร้อมตา กับครอบครัวอีกครั้ง หากแต่นางหารู้ไม่ว่า...สิ่งที่นางคิดมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก..
“ขอรับพี่หญิงใหญ่ ท่านก็งามเช่นเดียวกัน ข้าดีใจมากๆ ที่วันนี้พวกเราจะได้ต้อนรับท่านพ่อ และเหล่าทหารกล้ากลับบ้าน ครอบครัวเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาไปอีกนาน ข้าได้ยินบิดาของสหายกล่าวว่าครั้งนี้เราชนะศึกแคว้นเหลียง พร้อมทั้งได้ลงนามในสัญญาสงบศึกร่วมกันถึง 10 ปี ผลงานครั้งนี้นอกจากท่านพ่อของพวกเราแล้ว ยังมีท่านแม่ทัพใหญ่แดนบูรพาอย่างท่านอ๋องหลงอีกด้วย ว่ากันว่าอ๋องหลงผู้นี้ รูปลักษณ์หล่อเหลาเสียแต่ว่าโหดเหี้ยมมาก ฆ่าคนตาไม่กระพริบ อีกทั้งยังมีข่าววงในอีกด้วยว่า อ๋องหลงคิดจะแย่งราชสมบัติ เสียงเล่าลือ ที่แม้แต่เจ้าตัวได้ยินก็ไม่เคยคิดจะปฏิเสธ พี่หญิง ท่านโชคดีมากที่ไม่ได้เป็นคู่หมายท่านอ๋องหลง อย่างน้อยๆ องค์ชายสี่เฉินซีซวน ก็ดูจะรู้จัก รักหยกถนอมบุปผามากว่า แถมยังเป็นว่าที่รัชทายาทอีกด้วย” เหลียงป๋อหลินออกความคิดเห็น
ชิ..ดีกับผีนะสิ ข้าละอยากให้นางได้อ๋องหลงแสนเย็นชาโหดร้ายผู้นั้นเหลือเกิน นางจะได้ทุกทรมานไปตลอดชีวิต ซ้ำร้ายหากอ๋องผู้นั้นคิดก่อกบฏจริง ก็ยิ่งดีไปใหญ่เลย นางจะได้ตายๆ ไปพร้อมกับกบฏผู้นั้นซะ “ท่านแม่ไปกันเถอะเจ้าคะ” เหลียงชิงหลิงกล่าวแล้วเดินเข้าไปเกาะแขนมารดา
“เอาละ อย่ามัวแต่คุยกันอยู่เลย พวกเราขึ้นรถม้ากันเถอะ..ลุงฟู่รอนานแล้ว”
ฮูหยินรองกล่าวพร้อมกับเดินนำไปยังรถม้าที่คนของแม่ทัพใหญ่เตรียมไว้ ตามมาด้วย ลี่หลิน และป๋อหลิน รวมถึง คนสนิท ชาย หญิงมารดาเลี้ยง ที่มักจะตามไปด้วยทุกที่ รวมถึงซิ่วหลิงด้วย แต่ก็นั่นแหละ งานเลี้ยงวังหลวง ใช่ว่าใครๆ ก็เข้าไปได้ง่ายๆ บ่าวไพร่ นอกจากจะรอด้านนอก ก็ต้องเฝ้ารถม้า เพียงเท่านั้น
ครึ่งชั่วยามผ่านไป รถม้าจากจวนแม่ทัพ ก็เดินทางมาถึงบริเวณทางเข้าวังหลวง รถม้าทุกคันต้องจอดรอเพียงบริเวณด้านหน้าเท่านั้น เหลียงลี่หลินพร้อมคนสกุลเหลียงทั้งหมด ก็ก้าวลงมาจากรถมาเพื่อจะเดินไปยังด้านในทางเข้าบริเวณที่จัดงานในส่วนของส่วนด้านหลัง ทางเข้าคลาคลั่งไปด้วยผู้คน บรรยากาศคึกคัก รื่นเริง สมกับเป็นงานฉลองชัยชนะ เหล่าคุณหนูคุณชายตระกูลขุนนางต่างก็ทยอยกันเข้างาน หากแต่เมื่อเหลียงลี่หลินมาถึง เป่ากงกง คนสนิทของฮ่องเต้ ผู้รับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยในงานก็เดินออกมาหา
“เป่ากงกง ข้าคาระวะเจ้าคะ” ลี่หลินยอบกายทำความเคารพ ผู้อาวุโสคนสนิทของฮ่องเต้
เป่ากงกง พยักหน้ายกมือรับคารวะเช่นกัน “คุณหนูหลิน ฮูหยินรอง คุณหนูรอง คุณชายน้อย เชิญทางด้านนี้ขอรับ ฮ่องเต้ได้มีรับสั่งจัดที่นั่งให้กับจวนแม่ทัพเป็นพิเศษ อีกไม่นานขบวนแม่ทัพน่าจะถึงวังหลวงแล้วขอรับ เมื่อสักครู่ข้าได้รับข่าวจากทหารว่าพวกเขาเคลื่อนขบวนผ่านประตูเมืองมาแล้ว พวกท่านก็เข้าไปนั่งด้านในเถอะ” ว่าแล้วเป่ากงกง ก็เดินนำเข้าไปยังที่ที่จัดไว้ให้ ระหว่างทางพบเจอ เหล่าคุณหนูคุณชายหลายตระกูล ลี่หลินก็ได้แต่พยักหน้ารับการทักทาย รวมถึงยังมี คุณหนูบางกลุ่มที่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำพูดส่อเสียดเปรียบเปรย ถึงความงาม ระหว่างนางและคุณหนูตระกูลเต๋อที่เข้างานมาก่อนแล้ว ในฝั่งกลับกันทางด้านคุณชายทั้งหลาย ต่างก็มองลี่หลินด้วยความเสียดาย หากนางไม่ได้เป็นชายาเอก อย่างไรเสียก็คงได้แต่งเป็นชายารอง องค์ชายสี่เฉินซีซวนอย่างแน่นอน พวกตนนั้น ถือว่าไร้วาสนาอย่างแท้จริง
“ท่านแม่ ท่านดูสิ เหล่าคุณชาย มองพี่หญิงจนตาเยิ้ม ตาลอยกันไปหมดแล้ว ข้าละไม่ชอบเลยเจ้าคะ ยังไงวันนี้ท่านก็ต้องเร่งจัดการให้ข้านะเจ้าคะ ข้าละไม่อยากทนเห็นอะไรแบบนี้อีกแล้ว” เหลียงซิงหลิงดึงมือ มารดาโน้มตัวเข้าไปใกล้พร้อมกล่าวกระซิบให้ได้ยินกันสองคน
“เจ้าวางใจเถอะ ครั้งนี้นางไม่รอดแน่ เราวางแผนกันมานานก็เพื่อวันนี้ แม่ได้สั่งคนของเราตามแผนที่วางเอาไว้แล้ว อย่างไรเสีย วันนี้นางก็กลับไปไม่เหมือนเดิม หรืออาจจะไม่ได้กลับก็เป็นได้ เดี๋ยวแม่จะไปกำชับกับคุณชายกวงอีกครั้งก่อนถึงเวลา ครานี้แหละ ยิงปืนนัดเดียวเรียกว่าได้นกหลายตัวเชียวหล่ะ” สองคนแม่ลูกกระซิบกระซาบ โดยหารู้ไม่ว่ามีบุคคลที่สามมาได้ยินเข้าแล้ว
ร่างสูงขบสันกรามแน่น พร้อมทั้งกำหมัดด้วยความโกรธ ด้วยไม่คิดว่าจะมีใครหาญกล้า ไม่รักตัวกลัวตายมาสร้างปัญหาในงานคืนนี้ รวมถึงยังบังอาจที่จะมาทำร้าย น้องน้อยของพี่ เฟยหลงแค่ต้องการจะแอบมาดูหน้านางให้หายคิดถึง จากกันไปถึง 11 ปี น้องน้อยของเขา สวยน่ารักขึ้นมาก บอบบางน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด ใครบังอาจมากระชากดวงใจข้า มันผู้นั้นจะได้เห็นดีกัน หึ… มารดาเลี้ยงก็เถอะ เจ้าได้เจอข้าแน่... เฉินเฟยหลงแม่ทัพบูรพา หรืออ๋องหลง ผู้ที่ใครก็ว่าโหดร้าย โหดเหี้ยมที่สุดในแคว้น หากแต่ใครจะรู้ ว่าคนผู้นี้ยอมลงให้คนผู้หนึ่ง และเขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคนผู้นั้น นั่นก็คือ ลี่ลี่ หรือ เหลียงลี่หลินนั่นเอง ติดก็แต่ว่าอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้นางสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กไป อย่างไรก็แล้วแต่ เขาจะทวงนางคืน และจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนาง คิดแล้วร่างสูงก็หายออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสั่งการ ให้คนของตนจับตามอง สองแม่ลูก ตระกูลแม่ทัพ รวมถึงกระจายคนออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับคุณชายกวง เพื่อที่จะได้จัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม อย่าหวังว่าจะมีใครหน้าไหนมาทำร้ายนางได้