"นี่มันจะ 6 โมงแเล้วนะทำไมพี่โมสถึงไม่มาสักที"
กอหญ้านั่งรอพี่โมสอยู่ที่เดิมตามที่พี่โมสบอก คนที่อยู่รอบๆตัวกอหญ้าก็น่ากลัวไปหมด โดยเฉพาะผู้ชายคนที่เดินเข้ามาเหมือนจะหาเรื่องกับผู้หญิงคนนั้น เธอนั่งห่างออกไปจากกอหญ้าเพียงแค่โต๊ะเดียวเอง แต่ทั้งน้ำเสียงเธอและก็ท่าทางเธอดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวผู้ชายคนนั้นเลย พอเธอทะเอละกับผู้ลายคนนั้นจบ เธอก็ลุกหนีออกไปจากตรงนั้น แล้วสักพักผู้ชายคนนั้นก็ลุกออกไปด้วยอีกคน
"กระเป๋าตังค์ของเขาตกนี่.."
กอหญ้ารีบเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าตังค์ของผู้ชายคนนั้นขึ้นมาแล้วรีบวิ่งตามเขาไป
"คุณคะ..คุณ"
แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ยินเสียงที่กอหญ้าเรียกเลย เขาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งแล้วสตาร์ทรถออกไปอย่างไว กอหญ้าจึงรีบวิ่งไปอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะไปให้ทันรถของเขา แต่ว่า
"เดี๋ยวค่ะ..ว๊าย..!"
เอี๊ยด>>>> เสียงรถเบรกดังมาก
กอหญ้าล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นเพราะแรงกระชากของรถที่เขาขับออกไปทำให้กอหญ้ามีเลือดออกที่มือและหัวเข่า
"นี่เธอวิ่งมาใส่รถฉันทำไม..?"
"คือว่า.."
"หรือว่าอยากจะเรียกค่าเสียหาย นี่หาเงินกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ..?"
"ไม่ใช่นะคะ.."
"แล้วเธอวิ่งมาทำไม ไม่คิดบ้างหรอว่าถ้าฉันขับรถเร็วกว่านี้อาจจะชนเธอตายก็ได้นะ..ฉันยังไม่อยากติดคุกนะ..?"
"ขอโทษค่ะ.."
"..."
ริวจิอึ้งไปกับสีหน้าของเธอ เพราะเธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจนเขาเริ่มทำอะไรไม่ถูก แล้วอีกอย่างตอนนี้คนก็มายืนมุงดูเขากันเต็มเลย
"ไม่ช่วยแล้วยังจะปากหมาอีกนะ.."
"นี่เธออีกแล้วหรอ..?"
ผู้หญิงคนที่เพิ่งทะเลาำกับริวจิเมื่อกี้ เดินแหวกฝูงชนเข้ามาดูกอหญ้าที่นั่งกองอยู่ที่พื้น
"ลุกไหวไหม...มาฉันช่วย..?"
เธอเดินเข้ามาพยุงตัวกอหญ้าให้ลุกขึ้น แต่กอหญ้าเจ็บขาจึงลุกขึ้นยืนเองไม่ไหว
"โอ๊ย..!"
"เจ็บหรอ..?"
"ค่ะ.."
"นายชนเธอนะ..ยืนเฉยอยู่ได้มาช่วยกันพยุงซิ."
"เออๆ..ก็ได้"
ริวจิรีบเข้าไปช่วยพยุงตัวกอหญ้าให้ลุกขึ้นแล้วพาเธอไปนั่งบนเก้าอี้แถวๆริมทางเดินของมหาลัย
"เธอจะแจ้งความไหมฉันจะได้โทรแจ้งให้ ตัวคนชนอยู่นี่ตำรวจจะได้รีบมาจับตัวมันไปเข้าคุก..?"
"ฉันไม่ผิดนะ..เธอวิ่งเข้ามาใส่รถฉันเองนะ.."
"ก็ถ้านายไม่ขับรถเร็วเอาแต่มองทางข้างหน้า เธอก็คงไม่เจ็บตัวแบบนี้หรอก.."
"ก็นั่นมันบนถนนฉันไม่ได้ขับบนสนามหญ้าสักหน่อย ผู้หญิงคนนี้วิ่งมาใส่รถฉันเองฉันไม่ผิด.."
พวกเขาทั้ง 2 คนทะเลาะกันจนเสียงดัง จนกอหญ้าเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงต้องรีบพูดแทรกขึ้น
"กอหญ้าผิดเองค่ะ คุณคนนี้เขาไม่ผิดค่ะกอหญ้าเป็นคนวิ่งเข้าไปใส่รถเขาเอง.."
"อ้าว.!'
"เห็นไหม เธอยอมรับแล้ว.."
"แล้วทำไมเธอต้องวิ่งไปใส่รถไอ้บ้านี่ด้วย..?"
"กอหญ้าเก็บกระเป๋าตังค์ของเขาได้ เลยจะรีบวิ่งเอาไปให้นะคะ.."
"..."
ริวจิมองกอหญ้าอย่างอึ้งๆ นี่แค่เธอเก็บกระเป๋าตังค์ของเขาได้แค่นี่อะนะ ถึงขนาดยอมเจ็บตัวแบบนี้เลยหรอเนี่ย
"นี่กระเป๋าสตางค์ของคุณคะ..กอหญ้าคิดว่าของที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์มันจะต้องมีสิ่งจำเป็นที่คุณจะต้องใช้ ทั้งบัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิตร หรือบัตรอะไรอีกมากมายที่คุณเก็บเอาไว้ ถ้ามันหายไปคุณคงต้องเสียเวลาไปทำใหม่อีก กอหญ้าเลยรีบวิ่งเอามาให้คุณนะคะ.."
"นี่เธอ.."
ริวจิอึ้งไปทันทีที่ได้ยินแบบนี้เพราะไม่คิดเลยว่าจะมีใครที่คิดแบบเธอ แล้วยอมเจ็บตัวได้เพื่อคนอื่นแบบที่เธอทำ
"ขอบใจ.."
ริวจิรับกระเป๋าสตางค์จากมือของกอหญ้าแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา ที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอที่ส่งมาให้เขา โดยที่ไม่ได้ถือโทษโกรธเขาเลยที่เขาทำให้เธอเจ็บตัว
"แล้วเธอเจ็บมากไหม..จะไปหาหมอไหมฉันจะได้พาไป..?"
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่เป็นแผลนิดหน่อยเอง.."
"แต่เข่าเธอกับมือเธอมีเลือดออกด้วยนะ.."
"ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง กอหญ้าไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ..เดี๋ยวกอหญ้าต้องกลับไปนั่งที่เดิมแล้ว เพราะพี่ของกอหญ้าจะมารับ กอหญ้าขอตัวนะคะ.."
"ฉันพยุงเธอไปเอง."
ริวจิมองกอหญ้าอย่างรู้สึกเป็นห่วง
"หลบซิ..ยืนขวางอยู่ได้.."
ผู้หญิงคนนั้นพยุงตัวกอหญ้าเดินกลับไปที่เดิม โดยมีสายตาของริวจิมองตามไปด้วยหัวใจที่เต้นแรง
"กอหญ้าหรอ..น่ารักดีแหะ..."
...
"พี่ชายเธอจะมารับกี่โมง..ให้ฉันนั่งรอเป็นเพื่อนไหม..?"
"ไม่เป็นไรค่ะ..เดี๋ยวพี่ของกอหญ้าก็คงมาแล้ว..."
"ฉันละเชื่อเลยนะที่เธอวิ่งไปใส่รถไอ้บ้านั่น เพียงแค่ต้องการจะเอากระเป๋าตังค์ไปคืนมัน ไม่มีใครที่ไหนเขาทำกันแบบเธอหรอกนะ.."
"มันแปลกหรอคะ..?"
"แปลกซิ..เพราะถึงขนาดยอมเจ็บตัวเพื่อคนอื่นแบบนี้ไม่แปลกแล้วจะให้เรียกว่าอะไร..?"
"..."
เธอนั่งลงข้างกอหญ้าแล้วก็ยิ้มให้กอหญ้าด้วยความเป็นมิตร
"แต่ฉันก็ชอบเธอนะ..เพราะฉันไม่เคยเจอใครที่ทั้งซื่อแล้วก็จริงใจอย่างเธอมาก่อนเลย.."
"คะ..?"
"ฉันชื่อมินนานะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะกอหญ้า.."
มินนายื่นมือมาขอจับมือกอหญ้าเพื่อทำความรู้จักกับเธอ
"ค่ะ..ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ.."
"เธอเรียนอยู่สาขาอะไร..?"
"สาขามัณฑนศิลป์คะอยู่ปี 1.."
"ฉันก็อยู่ปี 1 มัณฑนศิลป์เหมือนกัน ซิ่วมาจากสถาปัตนะเลยมาลงเรียนใหม่.."
"งั้นมินนาก็เป็นพี่ของกอหญ้าซิคะ..?"
"แค่ปีเดียวเองไม่ต้องเรียกพี่หรอก..เรียกมินนาเฉยๆแหละดีแล้ว.."
"ค่ะ.."
"ดีใจที่ได้รู้จักนะกอหญ้า เอาไว้วันเรียนวิชาแรกเจอกันนะกอหญ้า..ฉันไปละ."
"เจอกันค่ะ.."
...
กอหญ้าเริ่มรู้สึกเจ็บแผลที่หัวเข่ากับที่มือตัวเองแล้วซิ
"กลับกันเถอะ.."
พี่โมสเดินมาตอนไหนก็ไม่รู้แล้วเขาก็เดินผ่านหน้ากอหญ้าไปโดยที่ไม่สนใจมองกอหญ้าเลย
"เจ็บจัง.."
"รถมาแล้ว..วิ่งเร็ว.."
พี่โมสวิ่งนำไปก่อนโดยที่ไม่หันมามองกอหญ้าเลย พอรถเมล์จอดพี่โมสก็วิ่งขึ้นไปอย่างไว
"เร็วซิ เดี๋ยวรถก็ออกหรอก.."
กอหญ้ารีบวิ่งสุดชีวิตแต่เพราะมันเจ็บแผลที่หัวเข่ามากๆจึงออกแรงวิ่งได้ไม่สุด
"รถจะออกแล้วเร็วๆ..เอามือมานี่.."
เขาวิ่งลงมาจากรถแล้วยื่นมือมาจับมือฉันกระชากเข้าหาตัวเขา แล้วก็จับตัวฉันอุ้มขึ้นไปบนรถอย่างไว
"เกือบไม่ทันแล้วเห็นไหม..เธอนี่ชักช้าจริงๆเลย"
หน้าของฉันแนบชิดอยู่กับแผงอกของพี่โมส มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงมากๆแทบจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว
"ถ้าแม่ถามว่าทำไมกลับดึก ก็ให้บอกแม่ไปนะว่าฉันไปรอส่งรายงานอาจารย์อยู่.."
"ค่ะ..."
พี่โมสพูดกับกอหญ้าในขณะที่ใบหน้าของเขามองไปข้างหน้า แล้วมือข้างซ้ายของเขาก็โหนรถเมล์อยู่โดยมืออีกข้างของเขายังคงกอดตัวกอหญ้าไว้แน่นอยู่แบบนั้นไม่ปล่อย
"อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง.."
...