ตอนที่ 1

980 Words
ณ บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย ร่างอรชรของ นางสาวน้ำผึ้ง เกษมราช กำลังก้าวเท้าไปตามทางเดินที่ทอดยาวตรงไปยังลิฟต์ตัวใหญ่ เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทงานของผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความคุ้นเคยแต่ก็เร่งรีบไม่น้อย พนักงานต่างพากันทักทายหล่อนอย่างคุ้นเคย แต่ก็มีพนักงานบางคนที่รีบหลบมุมไปและยกโทรศัพท์ถือขึ้นแนบหูทันที “อะไรนะ คุณหนูน้ำผึ้งมาเหรอ” เสียงเลขาหนุ่มที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่าเอกภพเต็มไปด้วยความตกใจ “แล้วตอนนี้คุณน้ำผึ้งเธออยู่ไหนแล้ว อะไรนะ กำลังขึ้นมา ทำไมไม่โทรมาให้เร็วกว่านี้ครับ ท่านประธานจะหนีทันไหมเนี่ย” แล้วเอกภพก็โยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่สนใจไยดี สองเท้ารีบก้าวพรวดพราดเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายทันที “มีอะไร ทำไมไม่เคาะประตูก่อน” ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์มนาเงยหน้าขึ้นจากแล็ปท็อปตรงหน้า และถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด หากเป็นในยามปกติเอกภพคงตกใจกลัวตกงานไม่น้อย แต่ตอนนี้มัวแต่ตกใจไม่ได้แล้ว “ท่านประธานครับ หนีเร็วครับ” “อะไรของนาย” “คุณหนูน้ำผึ้งมากครับ” สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกของวิศรุตมีสีสันขึ้นในทันตา เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ และก็คว้าเสื้อสูทมาพาดแขนเอาไว้อย่างรวดเร็ว “รีบไปดักที่ลิฟต์ อย่าเพิ่งให้มาถึงห้องทำงานฉันนะ” “ครับท่านประธาน” คนที่ตั้งใจจะหนีออกทางประตูหนีไฟสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และเมื่อเขาหันไปมอง ก็พบว่าเป็นฝีมือของน้ำผึ้งนั่นเอง เขาถึงกับถอนใจออกมาอย่างท้อแท้ รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นมากะทันหัน “หนีไม่พ้นอีกแล้วเหรอวะนี่” ชายหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้ำผึ้งเดินเข้ามาประชิดตัวพอดิบพอดี “จะหนีไปไหนคะพี่วิศ” “มาทำไม” “ก็มารับพี่วิศไงคะ ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปลองชุดแต่งงานด้วยกันค่ะ” “พี่มีประชุม” “ก็เลื่อนสิคะ” “พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น งานต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอ” วิศรุตคิดว่าเหตุผลเป็นการเป็นงานจะทำให้ตัวเองรอดพ้น แต่กลับไม่สำเร็จ “ถ้าพี่วิศเบี้ยวผึ้ง...” หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น และก็ยกมือขึ้นแตะท่อนแขนของชายหนุ่ม ลูบไล้ไปมาคล้ายกำลังลองเชิง “เย็นนี้ผึ้งจะไปค้างคืนที่ห้องนอนกับพี่วิศ และผึ้งก็คงไม่แค่นอนข้างๆ พี่วิศเฉยๆ แน่นอนค่ะ ผึ้งจะจับพี่วิศกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวด้วยค่ะ” “เธอนี่... มันเอาแต่ใจชะมัดเลยนะ” “ที่ผึ้งเอาแต่ใจ ก็เพราะพี่วิศเอาแต่หนีผึ้งนี่คะ แต่ยังไงซะ พี่วิศก็หนีผึ้งไม่พ้นหรอกค่ะ” คนพูดเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจ แต่คนฟังรู้สึกสยดสยองเหลือเกิน...! “ไปหาผู้ชายคนอื่นแทนพี่ไม่ได้หรือไง พี่ไม่เต็มใจแต่งงานกับเธอสักหน่อย” “ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าผึ้งรักพี่วิศ ไม่ได้รักผู้ชายคนอื่น ไม่เอาล่ะ ไม่ต้องมาถ่วงเวลาเลย เราไปลองชุดแต่งงานกันเถอะค่ะ” หญิงสาวเปลี่ยนจากจับท่อนแขนกำยำมาเป็นคว้ามือของเขาแทน แต่ชายหนุ่มจะสะบัดออกยังไงก็ไม่หลุด จึงทำได้แค่ถอนใจเหนื่อยหน่าย “ตั้งแต่เธอเกิด จนเธออายุยี่สิบสาม ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ชีวิตพี่จะสงบสุข บ้าบอชะมัดเลย” หล่อนรู้ดีว่าโมโห แต่หล่อนก็ไม่สนใจหรอก เพราะวิศรุตเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาแสดงออกว่ารำคาญหล่อน เบื่อหน่ายหล่อนตั้งแต่เด็กจนโต แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะละความพยายามหรอก ยังไงซะ สักวันหล่อนก็ต้องเอาชนะใจของวิศรุตได้อยู่แล้ว “เราต้องอยู่ด้วยกันไปจนแก่หัวขาวเลยล่ะค่ะพี่วิศขา” “เด็กบ้า” “ผึ้งไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ เป็นสาวเต็มตัวแล้ว และเดือนหน้าก็จะได้เป็นเมียของพี่วิศแล้วค่ะ” สีหน้าของวิศรุตเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายเต็มอัตรา แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าไม่สามารถหนีชะตากรรมของตัวเองพ้น เขาหันไปมองหน้าเอกภพ ก่อนจะออกปากสั่งงานอย่างเสียไม่ได้ “มีอะไรก็โทรเข้ามือถือแล้วกันนะ” “แล้วท่านประธานจะกลับเข้าบริษัทอีกไหมครับ” “กลับ” “ไม่กลับแล้วล่ะค่ะคุณเลขาฯ” น้ำผึ้งแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส ทำเอาวิศรุตพูดไม่ออกเลยทีเดียว “เดี๋ยวลองชุดแต่งงานเสร็จแล้ว เราสองคนก็จะไปเดทกันค่ะ” “บ้าหรือไง ใครจะไปเดทกับเธอล่ะ” “ก็ว่าที่สามีของผึ้งไงคะ ไปกันเถอะค่ะ นี่ใกล้ถึงเวลานัดกับร้านเวดดิ้งแล้วด้วย” “เฮ้ยยย เดี๋ยวสิ ช้าๆ อย่าลากแบบนี้” วิศรุตพยายามขืนตัวเอาไว้ แต่น้ำผึ้งก็ลากเขาออกจากห้องตรงไปยังลิฟต์จนได้ เฮ้อออ... เมื่อชะตาชีวิตของเขาจะหลุดพ้นจากอุ้งมือของยัยเด็กแสบอย่างน้ำผึ้งเสียทีนะ เพราะพ่อกับแม่ของเขานั่นแหละ ไม่รู้จะเอ็นดูอะไรน้ำผึ้งนักหนา รู้หรอกว่าสนิทสนมกับพ่อแม่ของน้ำผึ้งมาก่อน แต่ก็ไม่ควรมัดมือชกเขา บังคับให้เขาแต่งงานกับเด็กที่ปากเพิ่งสิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างน้ำผึ้งแบบนี้ โธ่... ชะตาชีวิตลูกผู้ชายที่รักอิสระอย่างเขา จะต้องจบสิ้นลงในเดือนหน้าจริงๆ เหรอเนี่ย บ้าบอชะมัดเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD