ตอนที่ 2

1091 Words
“คืนนี้มาทำงานเกือบสายเลยนะยะ นังฟาง” สมรศรี สาวประเภทสองที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศมาได้หลายปีแล้ว ทักทายฟางข้าวอย่างสนิทสนม ฟางข้าวรีบเปิดตู้เก็บของประจำตัว และนำกระเป๋าเป้สะพายหลังใส่เข้าไปข้างใน ขณะตอบเพื่อนสนิท “พอดีน้องชายมีปัญหาน่ะพี่ศรี” “ปัญหาเรื่องเงินอีกแล้วล่ะสิ” สมรศรีพูดขึ้นอย่างรู้ทัน ฟางข้าวถอนใจออกมา “ใช่จ้ะ นี่ฟางก็ไม่รู้จะช่วยน้องแก้ปัญหายังไงดี” “พี่ว่าน่ะ น้องชายของฟางก็โตแล้ว ปล่อยไปบ้างเถอะ อย่าไปยุ่งอีกเลย ตัวใครตัวมันดีกว่า” ฟางข้าวพยายามยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออก ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า “ฟางทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกจ้ะพี่ศรี ต้นเป็นน้องชายคนเดียวของฟาง ก่อนพ่อกับแม่จะเสียก็ฝากฝังให้ฟางดูแลน้องให้ดี...” “พี่เข้าใจ และพี่ก็รู้ว่าฟางรักน้องชายคนนี้มาก” สมรศรีวางมือบนบ่าเล็กของฟางข้าว “แต่ถึงจะรักแค่ไหน ฟางก็ไม่สามารถตามล้างตามเช็ดปัญหาที่น้องชายก่อเอาไว้ได้ทุกเรื่องหรอกนะ ปล่อยให้น้องชายรับกรรมบ้าง เขาจะได้จำไง และไม่ทำมันอีก” “ฟางก็อยากทำแบบนั้นนะพี่ศรี แต่พอฟางคุยกับน้องทีไร ฟางก็ใจอ่อนทุกทีเลย” “ก็เป็นคนดีเสียแบบนี้ ถึงได้โดนคนอื่นเอาเปรียบอยู่เรื่อย” สมรศรีทั้งหมั่นไส้ทั้งสงสาร “แล้วนี่น้องชายให้หาเงินอีกเท่าไหร่ล่ะรอบนี้ กี่หมื่น” สมรศรีจำได้ว่า เมื่อห้าเดือนก่อน น้องชายของฟางข้าวก็ให้ฟางข้าวหาเงินให้สามหมื่น เพื่อเอาไปใช้เจ้าหนี้ ฟางข้าวช้อนตาขึ้นมองสมรศรี ดวงตามีหยาดน้ำตาคลอ สมรศรีเห็นท่าทางของฟางข้าวก็หน้าเสียไม่ต่างกัน “อย่าบอกนะว่าไม่ใช่หลักหมื่น” “สองแสนจ้ะพี่ศรี” “ตายแล้ว! แล้วแกจะไปหาเงินสองแสนมาจากที่ไหนนังฟาง” สมรศรียกมือขึ้นทาบอก สีหน้าตกใจสุดขีด ฟางข้าวยกมือขึ้นป้ายหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาบนแก้ม “ฟางก็ยังไม่รู้เลยจ้ะ แต่ก็ต้องพยายามหาให้ได้” “เฮ้อออ แกทำงานได้คืนละสี่ห้าร้อย ต้องทำงานกี่ปีกี่ชาติถึงจะได้เงินแสนอะนังฟาง” ฟางข้าวยังคงนิ่งเงียบ น้ำตาไหลท่วมท้นหัวใจ หนทางสว่างไม่มีให้เห็นเลย “ถ้าอยากได้คืนละหลายๆ พัน แกก็ต้องออกไปกับแขก แต่คนอย่างแกไม่มีทางทำหรอก จริงไหม” ฟางข้าวผงกศีรษะตอบรับโดยที่ไม่ต้องหยุดคิดเลยด้วยซ้ำ “ฟางไม่มีวันขายตัวหรอกค่ะ” “พี่รู้อยู่แล้วล่ะ” สมรศรีถอนใจออกมา และเมื่อเห็นว่าหัวหน้างานเดินเข้ามา ก็รีบกระซิบบอกฟางข้าว “เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว หัวหน้ามาตามไปเปลี่ยนกะแล้ว” ฟางข้าวเห็นหัวหน้ามาก็รีบหยิบชุดพนักงานเสิร์ฟมาถือเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ “กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะหัวหน้า” สมรศรีเอ่ยกับหัวหน้างานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “คืนนี้เธอกลับบ้านไปก่อนนะ ไม่ต้องทำงาน” “อะไรกันคะหัวหน้า” สมรศรีตกใจ “ฉันให้ลาพักผ่อนหนึ่งวันไง กลับไปนอนเล่นที่บ้านไป แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำงาน” “นี่... หัวหน้าจะไล่ศรีออกเหรอคะ ศรีทำอะไรผิดคะ... ฮือออ” สมรศรีโวยวายตกใจไม่เลิก หัวหน้างานที่เป็นชายวัยกลางคนพูดออกมาอย่างเบื่อหน่ายความเล่นใหญ่ของสมรศรี “ไม่ได้ไล่ออก ให้กลับไปนอนที่บ้านเฉยๆ แล้วก็ไม่หักเงินด้วย โอเคไหม” สมรศรีน่ะโอเค แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ “แต่ศรีมาแล้ว แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะคะหัวหน้า ทำไมให้กลับอะ” “บอกให้กลับก็กลับไปเถอะน่ะ หรือว่าอยากจะถูกไล่ออกแทน” “มะ... ไม่ค่ะหัวหน้า ศรีกลับก็ได้” สมรศรีแปลกใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือก “รีบกลับไปได้แล้ว” “งั้นขอศรีรอบอกนังฟางมันก่อนนะคะหัวหน้า เดี๋ยวมันจะหาศรีไม่เจอ” “ไม่ต้องรอหรอก เดี๋ยวผมบอกให้ กลับไปได้แล้ว สมรศรี” สมรศรีแปลกใจกับคำสั่งของหัวหน้าไม่น้อย แต่เพราะเป็นเพียงลูกจ้าง จึงขัดคำสั่งของหัวหน้างานไม่ได้ “งั้นศรีกลับก่อนนะคะ แล้วอย่าหักค่าแรงคืนนี้ของศรีล่ะ” “ไม่หักหรอกน่ะ รีบไปได้แล้ว” สมรศรีเปิดตู้เก็บของของตัวเอง หยิบกระเป๋าสะพาย และเดินออกไปจากไนต์คลับด้วยความมึนงง ชายร่างท้วมซึ่งเป็นหัวหน้างาน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน “ทางสะดวกแล้วครับเสี่ย คืนนี้เสี่ยรอรับน้องฟางคนสวยได้เลยครับ” น้ำเสียงของหัวหน้างานเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “แล้วเสี่ยอย่าลืมค่าดำเนินการของผมนะครับ ครับเสี่ย... ที่โรงแรมเดิมนะครับ” เมื่อตกลงธุรกิจกันเสร็จ ชายร่างท้วมก็รีบวางสาย ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ฟางข้าวเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ฟางข้าวรู้สึกประหม่า เมื่อเห็นสายตาของหัวหน้างานที่มองมา เขามองที่ต้นขาขาวเนียนที่โผล่ออกมาจากขอบกระโปรงเด็กเสิร์ฟสั้นเต่อของหล่อน มือเล็กพยายามดึงชายกระโปรงลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเลือกได้ หล่อนจะไม่มีวันทำงานแบบนี้เด็ดขาด แต่เพราะต้องใช้เงิน ทำให้ไม่มีทางเลือกใดๆ อีก “เอ่อ... สวัสดีค่ะหัวหน้า” “สวัสดีน้องฟาง พร้อมออกไปทำงานหรือยังครับ” “ค่ะ...” ฟางข้าวรับคำสั้นๆ ขณะมองหาสมรศรี “ไม่ต้องมองหาสมรศรีหรอก รายนั้นน่ะ เพิ่งขอลากลับบ้านไปเมื่อกี้นี้เอง” “พี่ศรีลากลับบ้านเหรอคะ” มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็หล่อนกับสมรศรีเพิ่งคุยกันเมื่อครู่นี้เอง และสมรศรีก็ไม่มีทีท่าว่าจะลากะทันหันแบบนี้เลย "ใช่ เห็นว่าปวดท้องน่ะ ผมก็เลยให้กลับบ้านไปพักผ่อน ไปได้เวลาทำงานแล้ว ออกไปทำงานเถอะ” “ค่ะ หัวหน้า” แม้จะยังมึนงง แต่ฟางข้าวก็ไม่มีทางเลือก นอกจากออกไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD