“อะ…เอามันออกไปก่อนได้ไหม หนูไม่ไหวจริงๆ” นิรินบอกเสียงสั่นทั้งน้ำตา เธอพยายามใช้มือดันอกแกร่งให้ถอยห่างเมื่อคนที่อยู่ด้านบนค่อยๆ ขยับแก่นกายเข้าออกอย่างหนักหน่วง “พะ…พี่หิรัญ หนูไม่อยากทำแล้วค่ะ”
ชายหนุ่มขบกรามแน่นด้วยความรู้สึกอัดอั้นเมื่อถูกร่องรักของเธอบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บไม่ต่างกัน
“อยากให้พี่รักไม่ใช่เหรอ?” เขาก้มมองท่อนเอ็นของตัวเองที่ชะโลมไปด้วยเลือดบริสุทธิ์ของหญิงสาว จากกลีบดอกไม้งามค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกหลังจากที่โดนกระทำ “ถ้าอยากให้พี่รัก หนูก็ต้องยอม”
“…..” เมื่อได้ยินแบบนั้น สิ่งที่ทำได้คือนอนกัดปากกลั้นเสียงสะอื้น มองชายหนุ่มที่กำลังตักตวงความสุขอยู่บนตัวเธอ
“เก่งมากเด็กดี สงสัยคืนนี้หนูต้องโดนพี่เอาทั้งคืน” ริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างพอใจเมื่อคนตัวเล็กยอมเชื่อฟังเขาแบบไม่ขัดขืน
“อื้ออ~” เสียงหวานกลืนหลบหายลงไปในลำคอเมื่อหิรัญโน้มใบหน้าลงมาจูบอย่างดูดดื่มโดยที่จุดเชื่อมต่อยังคงรวมประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
ปึก! ปึก! เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วบริเวณพร้อมเสียงร้องครางของคนทั้งสอง ร่างกายของเธอสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้นที่ชายหนุ่มส่งให้โดยไม่มีทีท่าว่าเขาจะยอมผ่อนแรงลง
“หนูรักพี่”
“พี่ก็รักหนู”
ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำว่ารักจากปากของเขา อาการเจ็บปวดค่อยๆ ทุเลาลงเมื่อร่างกายของเธอเริ่มปรับตัวได้
“ทำไมหนูถึงสวยขนาดนี้” ดวงตาคู่คมเผลอจ้องมองเรือนร่างของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษา เขายอมรับตรงๆ ว่าไม่สามารถละสายตาจากเธอได้แม้แต่วินาทีเดียว
“ห้ามมองตรงนั้นนะ”
“พี่จะมอง”
“แต่หนูอาย” นิรินรีบยกมือปิดตรงจุดสงวนด้วยความเขินอายเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่มองด้วยสายตาหื่นกระหายแบบไม่ปิดบัง
“เอากันขนาดนี้แล้วจะอายอะไรอีก”
“หยุดพูดลามกเลยนะ!”
“กล้าขึ้นเสียงกับผัวเหรอ?”
“อ๊ะ!…” คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อชายหนุ่มฉกริมฝีปากหนาลงมาดูดปถุมถันทั้งสองข้างสลับกันอย่างมูมมาม
เล็บสวยจิกลงบนลำคอหนาอย่างลืมตัวเมื่อเขาเริ่มดูดนมเธอแรงขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกเจ็บ
“อย่าดูดนมหนูแรง มะ…มันเจ็บ อื้ออ~”
“นมหนูมันใหญ่กว่ามือพี่อีกนะ”
ปัก! ปัก! ความเจ็บปวดแล่นพล่านขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มจงใจอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในร่องของคับแคบ
“มะ…มันจุกค่ะ” หญิงสาวยกมือกุมหน้าท้องของตัวเองไว้แน่นเมื่อถูกคนที่อยู่ด้านบนขยับเอวสอบข้าใส่อย่างป่าเถื่อน
“ถ้าโดนเอาบ่อยๆ คงชินไปเอง” ริมฝีปากหนากดจูบลงบนหน้าผากของคนตัวเล็กแบบหนักๆ เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายแต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไร
“อื้ออ~”
“พี่ขอทำรอยตรงนี้ได้ไหม” ไม่รอให้หญิงสาวตอบกลับ เขาเลือกที่จะขบเม้มทำรอยจางๆ ไปตามซอกคอลามลงมาถึงเนินอกขาวเนียน
“จูบหนูอีกหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ…ตามที่หนูต้องการเลย”
นิรินโอบลำคอของชายหนุ่มไว้แน่น เมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาจูบเธออีกครั้ง
“อื้มม~” ชายหนุ่มส่งเสียงร้องครางในลำคอ เมื่อสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กก่อนจะหยดน้ำลายใส่ปากเพื่อให้เธอได้กลืนมัน “จำให้ขึ้นใจว่ารสชาติของผัวมันเป็นยังไง”
ปัก! ปัก!
“รัดค…ฉิบ!” ใบหน้าหล่อเหลาเชิดขึ้นเปล่งเสียงร้องคราง เมื่อความรัดแน่นบีบอัดช่วงล่างจนแทบจะปริแตก
ปัก! ปัก! สะโพกสอบเริ่มเร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้นเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน ดวงตาเฉี่ยวคมมองไปยังใบหน้าแสนหวานด้วยความหลงไหลเธอเปรียบเสมือนคู่นอนคนใหม่ที่เขากำลังโปรดปรานมากที่สุดในตอนนี้
“อ๊าา…” เพียงขยับเอวสอบอีกไม่กี่นาทีต่อจากนั้นน้ำรักสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งผ่านเกาะป้องกันที่เขาได้สวมใส่
นิรินพ่นลมหายใจหอบถี่แล้วหลับตาลงช้าๆ เมื่อบทรักอันหนักหน่วงของเขาได้จบลงไปเสียที
“หนูห้ามไปทำแบบนี้กับใคร นอกจากพี่ เข้าใจไหมนิริน”
“พะ…พี่หมายถึงอะไร?”
“ห้ามไปเอากับใคร หนูต้องเอากับพี่แค่คนเดียว เข้าใจหรือเปล่า?” สายตาที่เขาใช้มองแสดงความเป็นเจ้าของออกมาอย่างชัดเจน เพราะนอกจากเขาแล้ว จะไม่มีผู้ชายคนไหนมีสิทธิ์ได้แตะต้องเธออีก
“เข้าใจค่ะ”
พรึ่บ! หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อถูกแฟนหนุ่มจับให้นอนคว่ำหน้าราบไปกับเตียงนอนแบบไม่ทันตั้งตัว
“พะ…พี่จะทำอะไร?”
“ถ้าพี่จะเอาต่ออีกสักรอบสองรอบ หนูคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
“คือหนู…” แม้ในใจอยากจะปฏิเสธเพราะร่างกายของเธอมันบอบช้ำอยู่พอสมควร แต่พอได้เห็นแววตาดุดันเลยไม่กล้าที่จะพูดคำนั้นออกไป
เล็บสวยจิกลงบนผ้าปูที่นอนไว้แน่นพลางพ่นลมหายใจหอบถี่เมื่อคนที่อยู่ด้านบนถอดกางเกงชั้นในเธอออก แล้วเริ่มสอดใส่ท่อนเอ็นเข้ามาอีกครั้ง….
-วันต่อมา-
“นิริน นิริน!”
ร่างบางสะลึมสะลือเมื่อได้ยินเสียงปลุกของหิรัญที่ดังอยู่ข้างหู เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยมันก็รู้สึกเหมือนร่างจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“หนูปะ…ปวดหัว” นิรินพูดเสียงแผ่วเบา คล้ายกับจะร้องไห้ ภาพที่เธอกับเขามีอะไรกันมาตลอดทั้งคืนยังคงติดอยู่ในความคิดไม่สามารถลบมันออกไปได้เลย
เธอพยายามหยัดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอนหลังพิงหัวเตียงมองคนตัวโตที่เดินเข้ามาใหม่
“ลุกไหวไหม ทำไมตัวร้อนขนาดนี้” มือสากแตะลงบนหน้าผากมน ก่อนจะรู้สึกถึงอุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนไป
“หนูลุกไม่ไหว มันเจ็บตรงนั้นไปหมดเลยค่ะ” หญิงสาวกัดปากเบาๆ พลางมองไปยังหว่างขาที่เต็มไปด้วยคราบขุ่นเกรอะกรัง ดูเหมือนว่าจะถูกพิษบาดแผลเล่นงานจนเป็นไข้
“เจ็บมากเหรอ?”
“เจ็บมากเลยค่ะ” หัวใจแกร่งวูบไหวเมื่อเห็นท่าทางออดอ้อนของหญิงสาว
“ถ้าลุกไม่ไหวก็นอนพัก เดี๋ยวพี่มา”
“พี่จะไปไหนคะ?”
“ไปซื้อข้าวซื้อยาให้หนูกินไง”
“…..”
“รอพี่อยู่ในห้องห้ามไปไหน! เดี๋ยวพี่รีบมา”
เขากำชับเสียงเข้ม พลางเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเงินที่วางอยู่บนหัวเตียง แต่ก็ไม่ลืมที่จะจูบเธอเบาๆ ก่อนเดินออกจากห้องมา