ตอนที่ 4

1646 Words
4 ดวงตาคมมองสบเข้าไปในดวงตากลมโตและแดงก่ำอย่างสงสาร “หยุดร้องไห้ได้แล้วใช่ไหม ทีนี้บอกมาซิ พี่ภามทำอะไรให้ไม่ชอบใจมาอีก พี่ไทนี่ถึงได้บ่อน้ำตาแตกขนาดนี้หือ...” ชานนท์ทอดเสียงนุ่มทุ้มถามไปพร้อมแขนใหญ่ที่โอบประคองพี่สาวอย่างให้กำลังใจลุกขึ้นสู้ ‘เอาน่า คนเรามันก็อยู่ด้วยความหวังกันทั้งนั้น ถ้าพี่สาวเขาจะหวังให้สักวันหนึ่งภามหันมองก็ไม่เห็นจะแปลกนี่นา’ นันทิยายังคงมีเสียงสะอื้นฮัก น้ำตายังเอ่อล้นไหลซึมออกมาแต่ก็ไม่มากมายเหมือนเมื่อครู่ “พี่ภาม...พี่ภามเอาผู้หญิงมานอนด้วย” ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นออกจากปอด “เรื่องธรรมดานี่ครับ พี่ไทนี่ก็รู้นิสัยพี่ภามดีนี่นา เดี๋ยวพี่ภามก็หาทางสลัดออกไปเองนั่นแหละ” ปลอบไปทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ผล ชานนท์ไม่โทษว่าเป็นความผิดของผู้ใหญ่ เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่หวังดีต่อเขาและพี่สาว รวมถึงภามด้วยที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และให้ความหวังแก่นันทิยาจนไม่มีสายตามองผู้คนไหนเลย ทั้งๆ ที่หนุ่มๆ เหล่านั้นคุณสมบัติไม่แพ้ภามเลยสักคน บางคนก็ดีกว่าด้วยซ้ำที่ทุ่มเทหัวใจให้กับพี่สาวเขาเพียงคนเดียว รักเดียวใจเดียวไม่เคยที่จะเหลียวมองผู้หญิงไหน แต่คงจะเป็นกรรมของนันทิยามั้ง ที่ช่วยเขาจนทำร้ายผู้หญิงดีๆ ไปเสียหลายคน กรรมเลยมาตกให้ความรักของเธอจะไม่สมหวัง ชานนท์ผ่อนลมหายใจออกจากปอดอย่างหนักอกเป็นที่สุด รู้ดีว่าไม่ควรที่จะพูดแบบนี้ แต่อยากให้พี่สาวทำใจจากภามเสียที เพราะไม่อยากเห็นพี่สาวจะต้องช้ำชอก หัวใจกลัดหนองแบบนี้อีกต่อไปแล้ว “พี่ไทนี่ฟังผมนะครับ” สองมือใหญ่จับลำแขนกลมกลึง มองจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตแดงก่ำและฉ่ำน้ำของพี่สาว “ผมอยากให้พี่ทำใจยอมรับความจริงเสียที พี่ก็รู้ว่าพี่ภามไม่คิดที่จะหันกลับมามอง พี่ไทนี่ครับ...ผมรักพี่นะครับ ผมไม่อยากให้พี่ต้องเจ็บปวดเพราะพี่ภามอีกแล้ว” ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำ โศกเศร้าและเสียใจ ทำเอาชานนท์แทบจะพูดไม่ออกแต่ก็ข่มความสงสารที่มันเอ่อล้นในอก ตัดใจพูดไป “ผมอยากให้พี่รักตัวเอง...ตัดใจจากพี่ภาม...นะครับพี่ไทนี่” วงหน้าสวยงองุ้มกับคำพูดน้องชาย แม้จะรับรู้ว่ามันเป็นความจริงก็ตามเถอะ ภามไม่เคยที่จะควงผู้หญิงเพียงคนเดียวได้นานเกินสามเดือน “แต่พี่รักพี่ภามนี่นา” นันทิยาตอบกลับเสียงเบาหวิว อยากให้ตัวเองเข้มแข็งกว่านี้ จะได้ตัดใจจากภามได้เสียที ไม่ต้องเจ็บช้ำใจเหมือนดังเช่นทุกวันนี้ แต่เธอก็ยังไม่อาจทำได้ “ผมรู้ครับ พี่รักพี่ภาม แต่พี่จะยอมเจ็บอยู่แบบนี้หรือครับ เป็นพี่ที่เจ็บและร้องไห้อยู่เพียงคนเดียว พี่ภามไม่เคยหันมาสนใจความรู้สึกของพี่สักนิด” สองมือใหญ่จับมือเล็กเรียวบีบเบาๆ “ผมรักพี่นะครับ ผมไม่อยากเห็นพี่ร้องไห้และเป็นทุกข์แบบนี้” “พี่รู้ พี่...พี่ขออีกครั้งนะ ถ้าหากว่าพี่ภามทำให้พี่เจ็บอีก พี่...พี่จะยอมตัดใจ” นันทิยาเอ่ยบอกน้องชายเสียงเบาหวิวและขาดเป็นห้วง วงหน้าสวยก้มลงมองสองมือเล็กที่วางจับกันอยู่บนตัก ในหัวใจอึดอัดคับแค้นทั้งโหวงเหวงและเบาหวิว “สัญญานะครับ” ปลายนิ้วก้อยยาวใหญ่ยื่นออกมาตรงหน้าพี่สาว นันทิยาพยักหน้ารับพร้อมยกนิ้วก้อยเล็กเรียวยื่นมาเกี่ยวกับนิ้วน้องชาย ด้วยความอัดอั้นตันใจหัวใจที่ไม่รู้ว่าจะทำตามคำพูดได้หรือเปล่า เพียงแค่เห็นหน้าภาม เธอก็เป็นเหมือนกับขี้ผึ้งที่มันถูกลนด้วยไฟ หลอมละลายกองแทบเท้าเขาในทันที แล้วอย่างนี้หรือที่จะตัดใจจากเขาได้ง่ายๆ มองไม่เห็นทางเลยสักนิด ด้วยสายใยความผูกพันที่มีระหว่างกันมาตั้งแต่เด็กๆ จะให้ตัดใจนั้นคงจะยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา งมเข็มในมหาสมุทร ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นออกจากจมูกและริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด แต่ถ้ามันถึงที่สุดก็คงจะต้องทำตามคำพูดที่ตกลงกับชานนท์ให้ได้ จะต้องพยายามทำให้ได้ ไม่แน่ว่าการทำแบบนั้น ภามอาจจะเห็นคุณค่าในตัวเธอขึ้นมาบ้าง และอาจเป็นเขาเองที่จะต้องเป็นคนไล่ล่า เอาตัวเธอมาเป็นเจ้าสาวให้จงได้...ใครจะไปรู้อนาคตได้ล่ะ “เอาละ หายเศร้าได้แล้วนะครับ เห็นพี่ไทนี่เศร้า ร้องไห้แล้วผมไม่สบายใจเลย พานอยากจะร้องไห้เป็นเพื่อนด้วย” ชานนท์ล้อพี่สาวน้ำเสียงนุ่มทุ้ม เริ่มต้นหาเรื่องที่จะดึงเอานันทิยาไปจากเรื่องราวที่ทำให้เศร้าใจ “อืม...ผมชักจะหิวแล้ว พี่สาวคนสวยทำอะไรให้น้องชายสุดหล่อคนนี้ทานหน่อยซิครับ นานแล้วที่ผมไม่ได้ทานอาหารฝีมือพี่สาวคนสวย ไม่รู้ว่ารสชาติมือจะยังคงเดิมหรือเปล่าน้า...” ร่างหนาผุดลุกจากที่นั่งพร้อมดึงรั้งร่างพี่สาวเดินเข้าไปในห้องครัว แต่กลับต้องชะงักหยุดกึก เมื่อคนที่ถูกใช้ให้เป็นแม่ครัวเหมือนจะนึกอะไรได้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง หันกลับมามองด้านหลังตัวเองที่ตอนนี้มีรัศมีของสารวัตรนักขยันทำงานเริ่มต้นทำงานอีกแล้ว “เดี๋ยว...” “อะไรครับพี่ไทนี่” แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร แต่ชานนท์ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ ดวงตาคมกริบเลิกขึ้นมองเพดานห้องสลับกับมองออกไปนอกบ้าน พร้อมด้วยคิ้วเข้มที่มันเลิกขึ้นเป็นจังหวะ ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเอาใจแทน “มีอะไรครับพี่สาวคนสวย” ไม่น่าเชื่อว่าคนร่างใหญ่ราวกับยักษ์จะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเพราะเพียงแค่แวบเดียวชานนท์ก็มายืนอยู่ด้านหลังร่างนันทิยา พร้อมวงแขนแข็งแกร่งที่โอบรอบเรือนกายพี่สาว พร้อมจมูกโด่งได้รูปที่กดลงบนพวงแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้าง “หยุดเลยนนท์ ไม่ต้องมาเล่นมุกนี้ พี่ไม่สนุกกับเราด้วยนะ” มือเล็กเรียววางทาบบนแขนแกร่ง หยิบเอาเนื้อหนาๆ ขึ้นมาเล็กน้อย บิดจนอีกฝ่ายร้องโวยวายดังลั่นห้อง “โอ๊ย!! พี่ไทนี่น่ะแกล้งผม คอยดูนะ จะฟ้องพ่อกับแม่” “ก็เอาซิ พี่ก็จะได้ฟ้องกลับเหมือนกัน” สองมือเล็กยกขึ้นเท้าสะเอวและชักสีหน้าใส่น้องชายที่ชอบชักใบให้เรือเสีย พาออกนอกลู่นอกทางเสียบ่อยครั้ง จนเธอลืมไปเลยว่าจะพูดอะไร แต่คราวนี้จะไม่ยอมละ ยังไงก็ต้องเอาเรื่องให้ได้ ไปมั่วกับใครมาล่ะถึงได้ขาดงานแบบนี้น่ะ “ฟ้องเรื่องอะไรครับ” ชานนท์ยังแกล้งทำไขสือ ปลายนิ้วยาวใหญ่จี้ไปที่สะเอวพี่สาว เพราะรู้ว่านันทิยาจั๊กจี้ง่าย และก็เป็นอย่างต้องการเมื่ออีกฝ่ายหวีดร้องเสียงดังลั่น และเริ่มต้นเอาคืนเขาจนลืมเลือนเรื่องที่จะถามและต่อว่าเรื่องที่เขานั้นหยุดงานทำไมไปเสียสนิทใจ เป็นนานที่สองพี่น้องเล่นกันจนเหนื่อยอ่อน พาร่างอ่อนระโหยโรยแรงกลับไปนอนซบกันที่โซฟาตัวนุ่ม เมนูอาหารที่นันทิยาคิดไว้ในสมองจะทำให้น้องชายกินก็เลือนหายไป กลับกลายเป็นว่าวันนั้นสองพี่น้องต้องใช้บริการร้านอาหารนอกบ้าน พร้อมเดินเล่นริมหาดทรายขาวสะอาด เล่นน้ำทะเล ก่อกองทรายเล่นกันเหมือนตอนที่เขาและเธอเป็นเด็กตัวน้อยอย่างสนุกสนาน     ชานนท์เดินก้มหน้ามองรายงานการจองห้องพักของแขกที่ฝ่ายการตลาดส่งมา หัวคิ้วหนายาวตวัดเฉียงทำมุมกับใบหูขมวดมุ่นจนเป็นปม แผนทางการตลาดที่เขาวางไว้และผลตอบรับที่ได้รับมาก่อนหน้ามันควรจะได้ลูกค้ามากกว่านี้นี่นา ไหนจะลูกค้าที่เอเจนซี่ส่งมาให้อีก น้อยกว่าเมื่อทัวร์ที่แล้วเกือบจะสองเปอร์เซ็นต์เลยนะ น้อยกว่าที่เขากับภามคาดไว้สามเปอร์เซ็นต์ด้วย อืม...มีอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า หรือเขายังได้รับเอกสารไม่ครบ เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจจากการเดินไปที่ห้องทำงานตัวเองกลับหลังหันเดินไปห้องทำงานของภาม อย่างนี้มันต้องปรึกษาหารือวางแผนหากลยุทธ์เรียกแขกเข้ามาพักในตัวโรงแรมที่เขาและภามเพิ่งจะทำการก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการในหน้าทัวร์นี้อย่างเร่งด่วนแล้วล่ะ โดยจะเน้นไปที่แขกกระเป๋าหนัก ที่เข้ามาเล่นในกาสิโนและต้องการอยู่เป็นสัดส่วนท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม สายน้ำสีเขียวเหมือนมรกตที่จะแตะใต้ฝ่าเท้า เปิดประตูออกไปก็เล่นน้ำทะเลเย็นๆ ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นหรือไม่ก็พระจันทร์ที่ไม่ว่าจะเป็นเต็มดวงหรือครึ่งดวงก็ตาม แต่บ้านทุกหลังที่สร้างนอกจากจะมีความคงทน ยังเน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยสงบ ไม่มีการทำร้ายและทำลายกัน 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD