ตอนที่ 10

1518 Words
“หือ...ไม่ได้คิดหรือไทนี่ ว่าแต่เธอจะห้ามฉันยังไงล่ะ ในเมื่อเธอน่ะร่านอยากได้ฉันจนตัวสั่นขนาดนี้” ฝ่ามือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบที่แทบจะล้นมือใหญ่ ฟอนเฟ้นเพียงแค่เล็กน้อยมันก็ตื่นตัวตอบสนองและเรียกร้องทันที อู้...ภามถึงกับครางในลำคอ เมื่อได้สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มหยุ่นมือ ในลำคอแห้งผากอย่างกะทันหัน “ฉันว่า...ฉันเปิดซิงเธอตรงนี้เลยดีไหมไทนี่” ใบหน้าคมคร้ามขยับเคลื่อนลงไปตามลำคอระหง เพื่อจะฝังจมูกบนความนุ่มหยุ่นของสองก้อนเนื้อที่มันเคลื่อนไหวปลุกปั่นความต้องการในกายเขาอยู่ตอนนี้ “ดูซิ แค่ฉันแตะนิดเดียว เธอก็ตื่นตัวถึงขนาดนี้” ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้สอดแทรกเข้าไปถึงปลายยอดทรวงสีเข้ม คลึงเคล้นไล้วนอย่างจาบจ้วง ฟันขาวสะอาดขบกัดกลีบปากจนเจ็บ แม้จะรักเขามากสักเพียงใด แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะให้ตัวเองเป็นเครื่องเล่นแก้เบื่อบนเตียงที่พร้อมจะถูกผลักไสทอดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าไม่คิดที่จะรักเชิดชูก็อย่ามายุ่งด้วย ดวงตากลมโตเป็นประกายเจิดจ้าวาววับอย่างไม่ยอมที่จะให้อีกฝ่ายดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิง อัดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด รวบรวมกำลังและสติที่พอจะมีหลงเหลืออยู่ พร้อมๆ กับเท้าเล็กที่มันยกขึ้นกระทืบไปบนเท้าใหญ่และดึงแขนออกอย่างเร็วรี่ อย่างไม่ทันที่จะคิดสิ่งใด “ถึงจะรักพี่แค่ไหน แต่ไทนี่ก็ไม่ใช่คนอย่างที่พี่คิด อย่ามายุ่งกับไทนี่ ถ้าไม่คิดจะรับผิดชอบ!” เผียะ!! เผียะ!! ฝ่ามือเล็กๆ ก็ฟาดลงไปบนวงหน้าคร้ามแกร่งสองครั้งติดๆ จนภามหน้าหัน ก่อนนันทิยาจะผลักร่างหนาใหญ่ออกห่าง รวบรวมสาบเสื้อให้ชิดติดกันหันหน้าเข้าหาประตู “กรี๊ด!” มือใหญ่สอดเข้าระหว่างเอวเล็กคอด ทุ่มแรงเหวี่ยงนิดเดียวร่างโปร่งบางก็ลอยคว้างไปนอนบนพื้นห้องที่มันนุ่มด้วยพื้นพรมกำมะหยี่สีเลือดนก กว่าที่สองมือใหญ่พยายามจับสองมือเล็กที่ระดมทุบและขีดข่วนทำให้เขาเจ็บไปไว้เหนือศีรษะได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน ดวงตาคมกริบดุกร้าว มือใหญ่จับตรึงปลายคางมน “กล้าทำร้ายฉันหรือไทนี่” “ใช่ ไทนี่ก็จะทำมากกว่านี้อีก ถ้าพี่ภามยังไม่ยอมปล่อย” นันทิยาตอบกลับอย่างไม่คิดจะกลัว ประกายในดวงตากลมโตที่เคยใสและมองอีกฝ่ายด้วยความรักเทิดทูนเต็มหัวใจกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นกร้าวแข็งระคนเกรี้ยวกราด ทีตัวเองทำร้ายเธอได้ แต่พอโดนเธอเอาคืนแค่ตบไปสองทีก็มาว่าเธอทำร้ายแล้ว “พี่ภามทำร้ายไทนี่ก่อนทำไมล่ะ” นันทิยาเสริมท้ายไปอีกนิด “ฉันทำร้ายอะไรเธอไทนี่” “ก็ที่พี่ภามทำเมื่อกี้ไง แล้วที่ผ่านมาอีก ทำร้ายไทนี่ทั้งร่างกายและจิตใจ” “ฮ่าฮ่า” ภามเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น เหมือนกับได้ยินเรื่องตลก ปลายลิ้นกระทุ้งไปที่กระพุ้งแก้มทั้งสองฝั่ง “เข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าไทนี่ ฉันกำลังทำตามความต้องการของเธออยู่นะ ก็เธออยากได้ฉันไปเป็น...อยู่ไม่ใช่หรือไง” ละเอาไว้ให้อีกฝ่ายต่อคำพูดเอาเอง เพราะเขาไม่อยากที่จะพูดมันออกไป กระดากปากไปสักนิดถ้าจะต้องใช้คำนั้นกับนันทิยา เพราะสำหรับคนตรงหน้าเพียงแค่นางบำเรอยังคงจะดูสูงเกินไปด้วยซ้ำ ก็ระริกระรี้อยากให้เขาเข้าใกล้จนออกหน้าออกตานี่นา “ไม่...ไทนี่ไม่เคยต้องการพี่ภามในแบบ...แบบนั้น ไม่เคยคิดอยากได้ผู้ชายมักมากมั่วในกามอย่างพี่มาเป็นสามี” ตอบกลับเสียงสั่น วงหน้าสวยแดงก่ำงอง้ำ “หืม...ไม่ได้อยากเป็นเมียฉัน แต่อยากเป็นคู่นอนบนเตียงเท่านั้นใช่ไหมไทนี่” ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าค้าง เมื่อรู้ว่าตัวเองตีความหมายในคำพูดเมื่อกี้ผิดไป แต่มันคงจะไม่ทันการณ์แล้ว “ได้ซิ ฉันจะยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวบำรุงบำเรอความสุขให้เธอสักระยะหนึ่งแล้วกัน ภาวนาแล้วกันนะไทนี่ ให้รสชาติเธอดีพอที่ฉันจะไม่ทิ้งเธอเร็วเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ” ใบหน้าคมโฉบลงประทับจูบดุเดือดบนกลีบปากอวบอิ่ม พร้อมเสียงครางเมื่อได้พบกับความหวานนุ่มอย่างที่ไม่เคยจะพานพบจากผู้หญิงคนอื่น นันทิยาเสียววูบจากศีรษะจรดปลายเท้า เหมือนกับถูกไฟช็อตจนตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเกือบจะเท่าไข่ห่าน หัวใจเต้นแรงรัวเร็วเหมือนปืนกล ‘ไทนี่!!!’ ภามร้องเรียกหญิงสาวอยู่ในใจ นี่เขาบ้าหรือเปล่าที่ไปหลงอยู่กับผู้หญิงคนอื่น จนไม่คิดที่จะมองแม่สมันน้อยรสหวานนุ่มที่อยู่ข้างกายนะ ริมฝีปากหนาร้อนขบกัดกลีบปากบนและล่างสลับไปมา ปลายลิ้นสากร้อนสอดแทรกไปในโพรงปากอุ่นนุ่ม มือใหญ่เคลื่อนออกจากปลายคางมนลูบไล้ลำคอระหง ลากไปตามลาดไหล่กว้าง ลำแขนกลมกลึง ผิวกายนันทิยาเนียนนุ่มเหมือนกับผ้าไหมชั้นดี เคลื่อนเข้าหาทรวงอกอวบอิ่มขนาดใหญ่ที่เตะตาเขาตั้งแต่แรกได้ยล “อือ...” นันทิยาพยายามจะร้องเรียกอารมณ์ที่มันกระเจิดกระเจิงกลับมาให้เข้าที่เข้าทาง ปลายลิ้นเล็กๆ พยามยามดุนดันขับไล่ลิ้นสากที่รุกล้ำเข้าไป แต่อีกฝ่ายก็เคลื่อนไหวอย่างเร็วรี่ หลอกล่อให้ตามติด ก่อนจะเกาะเกี่ยวตวัดพลิกพลิ้วให้เธอยอมจำนนกับความช่ำชอง สองมือเล็กกำหมัดแน่นกับความปั่นป่วนวาบหวิวที่ได้รับ ฝ่ามือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบนวดเฟ้นเคล้นคลึงสลับไปมาทั้งสองฝั่งอย่างย่ามใจ ใบหน้าคมคร้ามจูบเม้มซุกไซ้ลำคอระหง เคลื่อนลงมาด้วยความกระหายอยากลิ้มรสผิวกายเนียนนุ่ม “ไทนี่...อกเธอสวยมากเลยรู้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยพูดเสียงแหบพร่าเหมือนกับต้องมนตร์ ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้แผ่วเบานุ่มนวลเหมือนกับผีเสื้อตัวน้อยที่มันแตะลงไปกินน้ำหวานจากดอกไม้ นันทิยาหายใจหอบรัวเร็ว ดวงตากลมโตใสแจ๋วเป็นประกายพราวระยับ หน้าท้องแบนราบเรียบขมวดเหมือนกับเกลียวคลื่นที่มันสาดซัดเข้าหาฝั่งด้วยไฟอารมณ์ร้อนเร่าที่แผดเผา วงหน้าสวยแดงปลั่ง ขบเม้มริมฝีปากไม่ให้เสียงหวานๆ ที่มันไล่ขึ้นมาตามลำคอ ยามที่ถูกอีกฝ่ายคลึงเคล้นอกอวบเอาแต่ใจ “พี่ภาม...” ‘ปล่อยไทนี่นะคะ’ หายกลับลงไปในลำคอระหงเมื่อปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นมาทาบทับกลีบปากอวบอิ่มห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเอ่ยพูด ดวงตาคมกริบไล่มองไปบนทรวงอวบสล้างที่มีเสื้อชั้นในผ้าลูกไม้บางเบาที่ปกปิดความสวยงามเอาไว้มิด ภามบอกได้เลยว่าเขาไม่เคยเจอกับเรือนกายผู้หญิงคนไหนที่สวยงามราวกับประติมากรรมชั้นเลิศที่สวรรค์เสกสรรปั้นแต่งขึ้นส่งมายังโลกมนุษย์ และให้เขาเป็นคนที่ได้ยลเป็นคนแรกและคนเดียวที่จะมีสิทธิ์ครอบครอง “ขอฉันลิ้มรสเธอหน่อยนะไทนี่ ตรงนี้ของเธอมันจะหวานเหมือนกับที่ฉันคิดไว้หรือเปล่า” ภามถามเสียงนุ่มทุ้มและแหบพร่า ปลายนิ้วกดคลึงเฟ้นไปทั่วเนินอกอวบ ส่งผ่านความร้อนจากมือใหญ่สู่กายสาวสะคราญผ่านผ้าเนื้อนุ่ม นันทิยากัดฟันสะกดกลั้นเสียงครางที่เธอคิดว่ามันเป็นเสียงอันน่าเกลียด ลำตัวกลมกลึงที่แอ่นโค้งจนแผ่นหลังไม่ติดกับพื้นกำมะหยี่นุ่มๆ เมื่อปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้กดขยี้ปลายยอดทรวงที่ดุนดันตัวพร้อมกับริมฝีปากหนาร้อนระอุที่มันทาบทับอีกข้าง จมูกโด่งสูดดมกลิ่นกายสาวหอมจรุงใจ ริมฝีปากขบเม้มผิวเนื้อเนียนนุ่มลื่น ตวัดปลายลิ้นสากระคายลากไล้เลาะเล็มเวียนวนไปทั่วเต้าสวยอย่างตะกรุมตะกราม ฝ่ามือใหญ่คลึงเคล้นเฟ้นอกอวบอีกข้างอย่างหลงใหล ยิ่งนันทิยาสะกดกลั้นเสียงร้องหวานๆ ไว้มากเท่าไหร่ ภามยิ่งปลุกปั่นความต้องการในกายสาวให้ทวีความร้อนจนเหมือนกับว่าได้พาหญิงสาวขึ้นไปอยู่บนตะแลงแกง ‘อืม...ไทนี่’ ภามครางเสียงแหบพร่าในลำคอ ก่นด่าตัวเองในใจอย่างค่อนข้างสับสนกับความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในใจ โดยที่ตัวเองไม่เคยจะรู้ ไม่เคยคิดที่จะขุดคุ้ยค้นหาให้มันรู้แจ้งเห็นจริง 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD