“ได้คำใบ้อะไรครับ?”
“โคตรหล่อ โคตรรวย และโคตรโหดค่ะ” สิ้นเสียงพูดของฉัน พี่ทุกคนก็หันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว
ทำไมทุกคนถึงมองมาที่ฉันด้วยสายตาอย่างนั้นล่ะ สายตาแบบอึ้ง ๆ น่ะ แปลว่าพี่รหัสของฉันนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะดูจากคำใบ้แล้ว ไอ้โคตรหล่อ โคตรรวยนี่พอไหว แต่โคตรโหดนี่คืออะไรง่ะ น้อนกลัวรอแล้วนะ
แต่จะว่าไปคณะฉันก็มีแต่คนหล่อ ๆ นะ ปี 2 นี่น่าจะมีอยู่ประมาณเจ็ดถึงแปดคนนี้แหละที่ฉันเห็นแล้วคิดว่าหล่อ โคตรรวยนี่ก็คิดว่าน่าจะรวยกันทุกคนนะ แต่โคตรโหดนี่ไม่รู้เลยจริง ๆ แงงงง
“แพร มึงคิดว่าปีสองใครโหดสุดวะ?” ฉันพูดถามแพรขึ้นขณะที่มันกำลังขับรถอยู่ พอดีมันอาสาไปส่งฉันที่หออ่ะ เพราะสภาพฉันคงกลับเองไม่ไหว
“ไม่รู้ว่ะ โหด ๆ ก็มีเยอะนะมึง ที่เห็นโหดนี่มีอยู่คนหนึ่ง” แพรพูดตอบฉัน และมันก็ทำให้ฉันตาลุกวาวด้วยความอยากรู้
“ใครเหรอ?”
“พี่บอย พี่เขาโคตรโหด แต่ไม่หล่อและไม่รวย”
“แล้วจะเอ่ยถึงทำไมเล่า”
“แต่กูว่ามีอยู่สามคนนะที่เข้าข่ายคำใบ้สามคำนั้น”
“หืม?” ความสงสัยของฉันถูกกระตุ้นอีกครั้ง มองจ้องหน้าแพรรอฟังอย่างตั้งใจ
“พี่ติณ พี่อีธาน แล้วก็พี่พอร์ช”
พี่ติณกับพี่อีธานฉันรู้จัก แต่พี่พอร์ชนี่ใครอ่ะ?
“พี่พอร์ชคือใครวะ?”
“พี่พอร์ชคือพี่คนนั้นอ่ะ มึงจำได้ปะ คนที่เขียนป้ายชื่อคล้องคอให้เราอ่ะ”
ฉันนึกตามที่แพรพูดบอก ก่อนที่ใบหน้าของพี่คนที่เขียนป้ายชื่อให้จะลอยเข้ามาในหัว “อ้อ แต่พี่แกดูใจดีจะตายไป”
ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ นะ พี่เขาโคตรดูใจดี แถมยังดูอบอุ่นและอ่อนโยนอีกด้วย
“โห มึงไม่รู้อะไรซะล่ะ พ่อพี่แกเป็นมาเฟียเว้ย”
“ฮะ!” พอได้ยินดังนั้นฉันก็เหวอไปเลย พ่อพี่เขาเป็นถึงมาเฟียเลยเหรอ เหลือจะเชื่อ อึ้งในอึ้ง
“จริง ๆ เว้ย คนในมหา’ลัยรู้กันดี ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับพี่แกหรอก ไม่งั้นมีหวังอยู่ ๆ ได้หายตัวไปแบบไม่เจอแม้กระทั่งศพ”
“...…” ฉันอึ้งจนพูดไม่ออกอ่ะ ถ้าเกิดได้พี่เขาเป็นพี่รหัสขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะกล้าพูดคุยกับพี่เขาไหมนะ
“แต่กูว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ ไอ้คำว่าโคตรหล่ออ่ะ สำหรับกู กูคิดว่าพี่แกยังหล่อไม่เท่าพี่อีธานกับพี่ติณ สองคนนี้คือที่สุดในคณะบริหารฯ แล้ว”
“เหรอ…”
เฮ้อ~ คิดยากจัง แต่ถ้าได้พี่อีธานนี่ก็ไม่ไหวนะ คนอะไรก็ไม่รู้แปลก ๆ ไม่ค่อยน่าเข้าหาสักเท่าไหร่
“กูกลับแล้วนะมึง” หลังจากที่พวกเรามาถึงที่หอฉัน ไอ้ แพรก็ช่วยพยุงฉันขึ้นมาส่งบนห้อง ก่อนมันจะขอตัวกลับ
“โอเค ขอบใจมากนะมึง กลับดี ๆ ล่ะ”
“รับทราบค่า” แพรยิ้มตาหยี แล้วโบกมือลาให้ฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไป
Rrrrrr…
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น ฉันหยิบมาดูก็เห็นว่าเป็นซีโทรมา ว่าแต่เขาโทรมาทำไมนะ?
ฉันกดรับสายและกรอกเสียงพูดตอบรับไป “ฮัลโหล ว่าไงซี?”
[มึงถึงหอยัง?]
“ถึงแล้ว เพิ่งถึงเมื่อกี้นี้เอง แพรก็เพิ่งกลับไป มึงมีอะไรหรือเปล่า?”
[เปล่า ๆ กูแค่โทรมาถามเฉย ๆ พักผ่อนด้วยนะมึงอ่ะ]
“อืม โอเค”
[หาไรกินด้วย]
“เออ ๆ รู้แล้วค่าคุณพ่อ”
[ดี แค่นี้แหละ] พอพูดจบเขาก็กดวางสายไปเลย ทำเอาฉันงงไม่ใช่น้อย
[ETHAN PART]
วันนี้มีซ้อมเชียร์ ผมได้อยู่ฝ่ายวินัยเพราะโดนปี 3 ลากให้มาเป็น เพราะจะได้คงคอนเซ็ปต์หล่อ โหด ดุ ของฝ่ายวินัย ซึ่งผมกับไอ้ติณเลือกไม่ได้จึงต้องยอมจำนนมาเป็นแต่โดยดี
ตอนที่ฝ่ายสันทนาการกำลังชี้แจ้งอยู่ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นเธอคนนั้น ‘ใบหม่อน’ ผมอ่านชื่อเธอจากป้ายคล้องคอ ตอนแรกนึกว่าชื่อหม่อนเฉย ๆ แต่ดันมี ‘ใบ’ โผล่มาด้วยเฉยเลย งั้นคำว่า ‘หม่อน’ ก็คงเป็นคำสั้น ๆ ที่คนสนิทเรียกล่ะมั้ง
เธอกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะพวกเธอก็แอบพูดกันเสียงเบา ๆ แต่ผมดันรู้สึกอยากจะหาเรื่องแกล้งเธอสักหน่อย ฮ่า ๆๆ
ตอนแรกผมแค่กะให้เธอโดนลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ให้อมมะนาวสักซีกสองซีก แต่ไอ้ประธานมันดันไปถามความเห็นจากเพื่อนของพวกเธอ แล้วดันมีคนเสนอให้ไปวิ่งรอบสนาม แล้วไอ้ประธานแม่งดันบ้าจี้เห็นด้วยเฉยเลย
เออ ผมลืมบอกไป ไอ้ประธานเนี่ยคือพี่รหัสผมเอง เราสนิทกันพอสมควร ไปเลี้ยงสายกับดื่มเหล้าด้วยกันอยู่บ่อย ๆ
ใบหม่อนกับเพื่อนดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ไอ้ประธานมันก็ทำเป็นโหดไปเพิ่มรอบ พวกเธอเลยยอมวิ่ง โดยมีผมเป็นคนไปยืนเฝ้า แม่งโคตรเข้าทาง เอาจริงผมก็แอบสงสารพวกเธอนะ สนามแม่งก็โคตรใหญ่ แถมให้วิ่งตั้งสองรอบ สำหรับผมอาจจะวิ่งสบาย ๆ ชิลล์ ๆ แต่สำหรับใบหม่อน ขาสั้น ๆ ของเธอคงปวดระบมหมดอ่ะ
ตอนใบหม่อนวิ่งครบหนึ่งรอบ ผมเลยแกล้งพูดหยอกเธอไป เธอจะได้หยุดพักสักแป๊บหนึ่งจะได้ไม่ต้องคอยวิ่งสลับกับเดิน แต่พอผมได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกผมว่า ‘นาย’ ผมก็รู้สึกหงุดหงิดใจ โคตรจะไม่ชอบเลยว่ะ เลยเดินไปบังคับให้เธอเรียกว่าพี่ ตอนเธอยอมเรียก ผมยอมรับเลยว่าหัวใจนี่แม่งรู้สึกชุ่มชื่นไปหมดอ่ะ
ตอนเธอวิ่งครบสองรอบ สภาพเธอโคตรน่าสงสารสุด ๆ เลย เหงื่อโชกเต็มตัว หน้าแดงไปหมด ไม่มีแรงจะพูดด้วยซ้ำ เห็นแล้วอยากจะอุ้มพาไปนั่งตากแอร์เย็น ๆ แต่ถ้าผมทำอย่างนั้น เพื่อนของเธอคงได้งงตาแตก
แล้วอยู่ดี ๆ ไอ้ห่าซีแม่งก็วิ่งมาหาพวกเธอ มันหันมามองหน้าผมเล็กน้อย แล้วหันไปคุยกับพวกเธอ
เหอะ! ถ้าถามว่าผมรู้จักมันได้ยังไงอ่ะเหรอ จริง ๆ ก็ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องของมันหรอก เพราะไอ้ห่านี่มีศักดิ์เป็นน้องชายของผม น้องที่ผมไม่เคยยอมรับเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันคือลูกของผู้หญิงที่พ่อเอามาแทนที่แม่ไง!
หนึ่งปีก่อน อยู่ ๆ พ่อกับแม่ก็บอกผมว่าจะหย่ากันแบบกะทันหันโดยที่ผมยังไม่ได้ตั้งหลัก โดยใช้เหตุผลว่าไม่ได้รักกันแล้ว ถึงฝืนอยู่ไปก็ไม่มีความสุข ไม่ได้ถามความเห็นของผมเลยว่าการที่ผมไม่มีสองคนนั้นผมจะมีความสุขไหม ผมโคตรรู้สึกเสียใจมากอ่ะ แม่ผมย้ายไปอยู่นิวซีแลนด์เพราะมีธุรกิจอยู่ที่นั่นทันทีหลังจากหย่าเสร็จ ส่วนผมเลือกไม่ได้ต้องอยู่กับพ่อไปโดยปริยาย เพราะว่าต้องเรียนหนังสือต่อ
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากพ่อกับแม่ผมหย่ากัน ผมคิดว่าผมเริ่มจะชินกับการไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว แต่อยู่ ๆ พ่อก็พาเมียใหม่เข้ามาแถมมีลูกติดมาด้วย และใช่ครับมันคือไอ้ซี ผมเห็นมันครั้งแรกก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามัน แล้วมันก็ดันกวนส้นตีนเก่งด้วย ผมไม่ชอบสองแม่ลูกนั้น ทำให้ผมต้องขอพ่อแยกไปอยู่คอนโดคนเดียว แม้ระยะทางจากบ้านไปมหา’ ลัยจะไม่ได้ไกลเท่าไหร่ แต่ผมไม่สะดวกใจที่จะอยู่ไง นาน ๆ ทีผมถึงจะกลับบ้าน ซึ่งส่วนมากที่กลับก็เพราะแวะไปเอาของ พอได้ของเสร็จผมก็รีบกลับคอนโดทันที
และผมก็เพิ่งรู้ว่าไอ้ห่าซีแม่งเสือกเรียนมหา’ ลัยเดียวกับผม แถมยังเรียนคณะเดียวกับกูอีก รำคาญลูกตาฉิบหาย!
ผมยืนมองใบหม่อนที่กำลังยิ้มและหัวเราะให้เพื่อนชื่อแพรที่กำลังทะเลาะกับไอ้ซี รอยยิ้มของเธอยังสะกดให้ผมละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย แม้จะผ่านมาตั้งสองปีแล้วก็ตาม รอยยิ้มของเธอยังคงมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจของผม
กำลังหัวเราะอยู่ดี ๆ จู่ ๆ เธอก็หันมามองผม ผมถูกจับได้ว่าแอบมองเธอ เลยทำเป็นสั่งให้เธอไปรวมกับเพื่อนคนอื่นเพื่อกลบเกลื่อนและรีบเดินหนีออกมาจากตรงนั้น
ผมเดินมาที่ห้องเชียร์ได้สักพักหนึ่ง อยู่ ๆ เสียงของหลายคนก็แตกตื่นขึ้น บอกว่ามีน้องเป็นอะไรสักอย่าง ผมจึงหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นใบหม่อนที่กำลังขี่หลังไอ้ซีมา สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ตอนนั้นใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มอ่ะ ผมรู้สึกกระวนกระวายใจมาก
ผมเป็นห่วงเธอมาก แต่ก็ทำได้แค่คอยมองเธออยู่ห่าง ๆ ตอนฝ่ายปฐมพยาบาลนวดขาให้เธอ เอาจริง ๆ ถ้าไม่กลัวคนอื่นจะสงสัยหรืองงเป็นไก่ตาแตก ผมจะเสนอหน้าเข้าไปนวดให้เธอเองด้วยซ้ำ ดูดิขาเธอโคตรบวมเลย
ผมที่หันไปเห็นหน้าไอ้ห่าซี แม่งเสือกมีความรู้สึกหนึ่งโผล่ขึ้นมา เพราะภาพที่เธอขี่หลังไอ้ห่าซีแม่งหลอกหลอนผมฉิบหาย ผมรู้สึกหวงเธอว่ะ ผมอยากให้เธอขี่หลังผมมากกว่า เห็นหน้าไอ้ซีแล้วแม่งหงุดหงิดฉิบหาย แต่ก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันที่ไม่น่าหาเรื่องทำให้เธอต้องโดนลงโทษเลย รู้สึกผิดว่ะทำไงดีวะ