ตอนที่5 ถ้ากลัว
22.45 น.
รถยนต์ราคาแพงที่ทั้งชีวิตนี้หากมีเงินมากมายคนอย่างธาริกาก็ไม่จ่ายเงินซื้อพาเธอเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่อยู่เกือบจะนอกตัวเมือง ดวงตาคมเฉี่ยวของหญิงสาวมองเบื้องหน้าด้วยใจที่เต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา มือบางชื้นเหงื่อกำสายกระเป๋าสะพายแน่นด้วยความประหม่า
“คุณชาร์ลรออยู่ในบ้านแล้วครับ”
“ฉันเดินเข้าไปได้เลยใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ” คนขับรถที่หล่อเหลาราวกับนายแบบตอบกลับเธอก่อนจะขับรถคันนั้นออกไปจากตรงนี้
รองเท้าส้นสูงถูกถอดวางไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนที่เท้าจะย่ำบนพื้นหินอ่อน ข้างในหรูหราราวกับบ้านผู้ดีเก่าจนเธอกลัวจะเผลอทำอะไรไม่ถูกไม่ควรก่อนสายตาจะมองเห็นคนที่เธอต้องการเจอนั่งรอเธออยู่ที่บาร์เครื่องดื่มสุดหรูราวกับยกมาจากโรงแรม
“สวัสดีค่ะคุณชาร์ล” ธาริกายกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อมเมื่อรู้ว่าเขาอายุมากกว่าเธอถึงสิบปี
“เจอกันอีกจนได้นะ”
“คะ?” ดาราสาวนึกแปลกใจในคำพูดของชาร์ล แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเพิ่งเจอเขาในงานเครื่องประดับไม่กี่วันก่อนนั่นไง
“เหล้ามั้ย หรือไวน์”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“นั่งก่อนสิ”
“ขอบคุณค่ะ” ธาริกาหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูงข้าง ๆ เจ้าของบ้าน จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าเขาเป็นประติมากรรมที่ไม่ควรแตะต้องขึ้นมาซะอย่างนั้น
“เห็นว่าอยากมาเจอ มีปัญหามา?” คำพูดตรงไปตรงมาของเขาช่วยเธอได้มากเลยทีเดียว ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงต้องเสียเวลากว่าจะกล้าเข้าเรื่อง
“คือ..ตอนนี้ทรายมีปัญหากับผู้ใหญ่ในช่องที่ติดสัญญาอยู่ เขาจะดองทรายไว้โดยที่ไม่ให้งานทำไปเกือบปี ซึ่งพอถึงเวลาที่หมดสัญญาคนอาจลืมทรายไปแล้ว” ชาร์ลฟังหญิงสาวตัวหอมฟุ้งพูดปัญหาของเธอสีหน้าไม่บอกว่ารู้สึกประมาณไหนจนธาริกากลืนน้ำลายลงคอด้วยความขื่นขม
“ยอมรับว่าทรายหน้าหนาที่จะมาขอความช่วยเหลือจากคุณชาร์ลทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ถ้าทำให้คุณรำคาญขอโทษนะคะ”
“อยากให้ฉันช่วยเธอแบบไหน”
“เรื่องเงินค่ะ ฉันถูกช่องฟ้องแน่ ๆ ถ้ารับงานที่ช่องอื่น”
“...”
“ให้ทรายทำสัญญาหาเงินมาคืนคุณก็ได้นะคะ แต่คงไม่ได้คืนเป็นก้อนใหญ่ทีเดียว”
“ถ้าไม่อยากได้เป็นเงินคืนล่ะ เธอว่าไง” เรียวปากของธาริกาสั่นเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเจอสายตาที่ว่าจะเย็นชาก็ไม่ใช่เสียทีเดียว
“คุณจะเอาคืนเป็นอะไรก็ได้ค่ะ ที่เอามันไปจากทรายได้” หญิงสาวบอกกับเขาโดยที่ไม่กล้าสบตา กลัวจะเห็นว่าถูกมองด้วยสายตาดูถูกทั้งที่เคยถูกมองอย่างนั้นมานับครั้งไม่ถ้วน
“ตกลง ฉันจะช่วยเธอ”
“ขอบคุณค่ะ” ธาริกาหันมาพูดกับเขาเสียงสั่นคลอน แต่คราวนี้เธอพยายามที่จะไม่หลบตาเขาอีกแล้ว
“คืนนี้ฉันมีนัด แต่ต้องยกเลิก...”
“คืนนี้... ให้ทรายอยู่กับคุณได้นะคะ” จบคำพูดที่เขาแปลว่าเธอตกลงปลงใจเขาก็หยัดตัวยืนกับพื้นเย็นเฉียบก่อนจะเบียดเข้าใกล้กับคนสวยที่ยังนั่งอยู่
“รู้หรือเปล่าว่าฉันจะเอาอะไรจากเธอ”
“...” ชาร์ลไม่ได้คำตอบที่เป็นคำพูดแต่หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาแทน
“อื้อออ” กลีบปากน่าจูบของเธอถูกริมฝีปากหนาครอบครองอย่างใจร้อน ด้วยความสูงที่มากกว่า 190 เซนของชายหนุ่มทำให้เขาต้องก้มลงจูบเธออย่างไม่สะดวกนัก
“ลิปสติกรสชาติไม่เลว” ธาริกาเผลอกำขยุ้มเสื้อเชิ้ตที่เรียบกริบของเขาอย่างไม่รู้ตัว ใจของเธอมันเต้นผิดจังหวะทั้งที่ผ่านการจูบมานักต่อนักแล้ว
“ไปเอากันบนห้องดีกว่า” เขาเห็นเพียงศีรษะและหูที่แดงราวกับโดนบิดพยักหงึก ๆ ในอ้อมอก ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นมันแสร้งทำกันไม่ได้อยู่แล้ว
พรึ่บ
ชาร์ลอุ้มหญิงสาวขึ้นจากเก้าอี้ซึ่งเธอก็ให้ความร่วมมือด้วยการเกี่ยวเรียวแขนที่รอบลำคอของเขา
ปึง
ทันทีที่เจ้าของห้องใช้เท้าดันปิดประตูธาริกาก็โดนช่วงชิงลมหายใจอย่างไม่ปราณี จนกระทั่งแผ่นหลังของเธอแนบกับที่นอนนุ่มราวกับปุยนุ่นเขาจึงผละจากเธอเล็กน้อย
“เวลาเอากับคนอื่น ใส่ถุงยางมั้ย” คำพูดสุดห่ามนั้นช่างขัดกับบุคลิกของเขาจนธาริกาแทบไม่อยากจะเชื่อหู
“ทราย...ยังไม่เคยค่ะ”
“จริงเหรอ” คำถามของเขามันปนไปด้วยความขบขัน ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาคิดเช่นไรอยู่
ชายหนุ่มหยัดตัวนั่งชันเข่าบนเตียงนุ่ม ส่วนกวางตัวน้อยอย่างธาริกาก็กระเถิบถอยมาตั้งหลัก
“ถ้ากลัวก็ออกไป แต่ต้องไปแบบไม่กลับมาที่นี่อีก”
“ทราย...ไม่กลัวค่ะ” ธาริกาที่ถอยห่างเขามาทีแรกขยับคลานเข้ามาหาเขาราวแมวน้อยแสนเชื่อง
มือหนาของชาร์ลบีบต้นคอด้านหลังของเธอเมื่อถูกเจ้าของกลีบปากหน้าดูดดึงเป็นฝ่ายประกบปากของเขาเสียเอง และจูบของเธอก็ไม่ได้ดูด้อยประสบการณ์
“การแสดงหรือเปล่า” แววตาที่เขามองเธอช่างระยิบระยิบพาลทำให้ผิวกายของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา
“การแสดงทรายไม่ได้ใช้ลิ้นค่ะ”
“งั้นครั้งนี้คงไม่ใช่” ชาร์ลยกยิ้มมุมปากเมื่อรู้สึกชอบแววตาของลูกกวางตัวนี้ มือหนาจับมือของธาริกาให้ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่ตัวเองสวมอยู่ และเธอก็น่ารักทำให้เขาอย่างว่าง่าย