“ผมสาบาน ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจูบคุณจริงๆ”
ร่างเล็กปัดมือหนาออกจากศีรษะ เขาเลยเปลี่ยนมาเป็นโอบกอดเอวบาง แล้วจ้องมองใบหน้าแดงก่ำสลับมองแผลที่ปาก
“อย่ามากอด แล้วก็อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนี้”
“สายตาที่ผมมองคุณ มันเป็นแบบไหน?” เขาถามกลับ
“ก็เป็นแบบที่มองอยู่นี่ไง ฉันไม่ใช่อาหาร ไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนี้” เพนนีเป็นฝ่ายหลบสายตาดุจเหยี่ยว เวลาที่เขาตั้งใจสบตา มันมีผลต่ออวัยวะส่วนหนึ่งที่เต้นรัวอยู่ในอกข้างซ้าย
“ผมออกไปวางกับดักมา อีกประเดี๋ยวก็คงได้เนื้อ”
เขาพูดทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมแขนออกจากคนตัวเล็ก
“คุณคงหิวใช่ไหม เมื่อคืนกินปลาไปหน่อยเดียวเอง”
น้ำเสียงทุ้มต่ำ พูดกับคนตรงหน้าอย่างรู้ความคิด เขาใช้อ้อมกอดปลอบประโลมให้เธอหายโกรธ ก่อนจะค่อยๆ คลายวงแขนกำยำเปลี่ยนเป็นจับมือพาคนตัวเล็กกลับไปนั่งบนเตียงไม้ไผ่
“เนียนเลยนะ”
ยกมือขึ้นมา จ้องมือหนาที่ตีเนียนจับมือเธอ
“อันนี้ผมตั้งใจ”
“ตั้งใจบ้าอะไร ฉันมีคู่หมั้นอยู่แล้วนะคุณ” รีบดึงมือออก
“แล้วไง คู่หมั้นของคุณไม่ได้ติดอยู่บนเกาะนี้สักหน่อย”
ฮะ! แบบนี้ก็ได้เหรอ เขาจะจีบโดยไม่แคร์คู่หมั้น ว่างั้น?
“นี่คุณ เราเพิ่งเจอกันแค่วันเดียว คุณอย่าเพิ่งคิดเกินเลยได้ไหม ฉันต้องหาวิธีออกไปจากเกาะบ้านี่ เพื่อกลับไปสะสางความแค้นกับคนที่คิดจะฆ่าฉัน ฉันคงไม่มีอารมณ์มาพลอดรักกับชายแปลกหน้า ที่รู้จักเพียงแค่ชื่อหรอกนะ” เพนนีบอกในสิ่งที่เธอต้องการ เธออยากออกไปจากที่นี่ ไม่ได้อยากมีผัวอยู่บนเกาะ
“อีกเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกให้คุณรับรู้เอาไว้ คือฉันรักคู่หมั้นของฉันมาก เขาเหมาะสมที่จะเป็นสามีและพ่อของลูกในอนาคต คุณเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?” เพนนีเปิดเผยสถานะของตัวเอง ว่าเธอไม่ใช่สาวโสด เธอมีคู่หมั้นที่พ่อแม่จับคู่กันมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็คิดว่าเขาคือผู้ชาย ที่สามารถซัพพอร์ตชีวิตเธอได้จริงๆ
จะบอกว่าเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินก็ได้
ถ้านั้่นทำให้เธอสุขสบายไปตลอดชีวิต
มือเล็กดึงออกจากกอบกุมมือหนา ในขณะที่อีกฝ่ายไม่มีคำพูดใดๆ โต้ตอบ ก่อนที่เขาจะชันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วก้าวขายาวเหยียดตรงไปที่ต้นไม้มัดเถาวัลย์ พอเขาทำท่าจะกลับลงไปข้างล่าง เธอจึงตะโกนเรียก แล้วเดินตามร่างใหญ่ไปในทันที
“ฉะ ฉันปวดชิ้งฉ่องอะ ขอลงไปด้วยได้ไหม?”
ถึงจะไม่อยากได้เป็นผัว แต่เรื่องเอาตัวรอดยังต้องพึ่งพา
เขาไม่ตอบว่าได้หรือไม่ได้ แต่อ้าแขนกำยำให้คนตัวเล็กเข้าไปสวมกอด เธอยกยิ้มหวานแทนคำขอบคุณ แล้วรีบโผล่ตัวเข้าไปกอดรัดหุ่นล่ำสัน ซุกดวงหน้าหยกแก้ว บริเวณแผงอกแกร่ง
หวืดดด!
ลงทุกครั้ง เสียวท้องน้อยทุกครั้ง เพราะระดับค่อนข้างสูง
แต่ถ้าให้ทำธุระข้างบน มันก็กระไรอยู่ (เขินแหละ ทำทรง)
พรึบ~
เมื่อเท้าสัมผัสพื้นดิน ร่างเล็กก็รีบถอยห่างจากร่างใหญ่
“ฉันสามารถไปชิ้งฉ่องตรงไหนได้บ้างอะ?”
“ลำธาร”
“ฮะ! ลำธารเมื่อวาน ทะ ที่มีจระเข้อ่านะ!?”
“มีลำธารเดียวที่เป็นน้ำจืด”
“แล้วไม่มีที่อื่นอีกเหรอคุณ?”
“ก็บอกว่ามีที่เดียว ส่วนอีกที่เป็นท่อน้ำบาดาล เอาไว้ดื่ม”
“เออ” คิดหนักเลยทีนี้ จะให้ไปจ๊ะเอ๋กับจระเข้ก็คงไม่สนุก
“คุณฆ่าจระเข้ได้ไหม?”
“ทำไมผมต้องทำอย่างนั้น?”
“ก็ฉันกลัวโดนมันสวบก้นฉันอ่าาา”
หนุ่มหน้าคมเริ่มถอนหายใจถี่รัวและแรงขึ้น
“ผมจะไม่มีวันฆ่าจระเข้ตัวนั้น ถ้าคุณมีปัญหานัก ก็ไม่ต้องฉี่!” เสียงทุ้มต่ำคำรามใส่ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหลบไปอีกทาง เธอถึงกับยืนอ้าปากเหวอ เพราะไม่คิดว่าจะโดนเขาด่า เห็นว่าเป็นคนใจเย็นมาได้ตั้งนาน พอบอกว่ารักคู่หมั้น ก็ร้ายใส่เฉยเลย!
“นะ นี่คุณอย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนี้สิ!”
เพนนีรีบดึงสติแล้ววิ่งตามผู้ชายคนนั้นไป คนขายาวเป็นอะไรที่โคตรได้เปรียบ ตัดภาพมาที่คนขาสั้น แถมยังไม่มีรองเท้าใส่ มิหนำซ้ำ ยังรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อขาอยู่เลย ลากสังขารไปนู่นไปนี้ได้เองก็ถือว่าเก่งพอตัวแล้ว แต่ถ้าให้วิ่งเพื่อตามเขา ก็คงไม่ไหว
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ทำไมชอบเดินหนีอยู่เรื่อยเลยนะ”
เพนนีเดินไปบ่นไป ตามองพื้นดินสลับมองแผ่นหลังคนด้านหน้า กลัวว่าจะคลาดกันอีก แต่แล้วเดินไปได้ไม่ถึงยี่สิบก้าว เท้าก็เหยียบกิ่งไม้ขนาดเล็กจึงต้องหยุดชะงักเพื่อดึงเสี้ยนไม้ออก
“บ้าเอ๊ย ซี้ด!”
เท้าเนียนที่เฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เกิด พังพินาศหมดแล้ว
“ให้ตายสิ เจ็บชะมัด!” ไม่วายบ่นต่อ
ทว่าเมื่อเงยหน้า ก็เจอเข้ากับสายตาดุจเหยี่ยวที่จ้องมองมา เธอกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ก็ดันถูกอุ้มพาดบ่าแกร่งเสียก่อน
“คุณจะอุ้มฉันไปไหนเหรอ?”
โดนอุ้มมันดีกว่าเดินเอง ว่าแต่ว่าเขาจะพาไปไหนอะ?
“ไปให้จระเข้กิน”
“ฮะ!”
“เรื่องจะจบ”
“ดะ เดี๋ยวคุณ ฉันไม่ได้อยากตายในท้องจระเข้นะ!”
ร่างเล็กเริ่มดิ้นพล่านบนบ่าแกร่งกร้าน พลางร้องลั่นป่า
“คุณฟังฉันอยู่ไหมเนี่ย!”
เจ้าของหุ่นล่ำสันไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยคนตัวเล็กลงไปง่ายๆ เขาเดินมุ่งตรงไปยังลำธาร ยิ่งใกล้ถึง เธอก็ยิ่งรู้ชะตากรรมตัวเอง จึงหันไปงับใบหู เพื่อหาทางเอาตัวรอดซึ่งวิธีนี้ก็ยังใช้ได้ผล
“โอ๊ย!”
เสียงทุ้มต่ำคำรามลั่นประดุจดั่งเจ้าป่ากำลังวิโรจน์ พร้อมกับปล่อยสาวสวยร่างบางลงพื้น เธอตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ก็ช้าไปสำหรับวงแขนกว้างใหญ่ ที่ตวัดโอบรอบเอวบางร่างน้อย ที่กำลังกระโดดโหย่งเหยง ให้หลุดรอดจากเงื้อมมือของราชสีห์โหดเหี้ยม
“กรี๊ดดด ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า แคว๊กกกก!”
เนื้อผ้าเพียงชิ้นเดียว ถูกฉีกขาดคามือในทันที
เพนนีเบิกตาโตด้วยความตกใจ ตอนนี้บนเรือนร่างอรชรไร้เนื้อผ้าปิดบังสัดส่วนอันล่อแหลม ทำให้อีกฝ่ายเห็นผิวพรรณเนียนละเอียดดุจใยไหม ทรวงอกอวบใหญ่น่าขยำ ตัดเม็ดบัวสีชมพูหวาน รับหน้าท้องแบนราบ ทรวดทรงนาฬิกาทราย ต่ำลงไปกว่านั้น ก็คือเนินสามเหลี่ยมไร้ขน เนียนเรียบเหมือนของเด็กสาว
ทันทีที่เพศตรงข้ามได้เลอโฉมความงดงามของฝ่ายหญิง ความเป็นชายใต้เนื้อผ้าก็ผงาดให้เห็นเป็นรูปทรงใหญ่โตมโหฬาร
มะ มันใหญ่กว่าที่เห็นเมื่อวานนี้อีกนะเนี่ย (-0-!)
“นั่นคุณจะทำอะไรอะ!”
เพนนีแผดเสียง ยกมือเตรียมตบหากเขาเข้ามาใกล้
“ผมจะถอดเสื้อให้คุณไง”
“ไม่ต้อง!”
ห้ามในขณะที่เธอเองก็สองใช้มือเรียวเล็กปิดจุดสำคัญ
“แล้วคุณจะแก้ผ้า ยั่วอารมณ์อยู่แบบนี้เหรอ?”
“ฮึบ! ที่เสื้อขาดมันเป็นเพราะใครกันเล่า!”
“เพราะคุณไง คุณดิ้น เสื้อเลยขาด”
หน็อย! พอรู้ว่ามีคู่หมั้นแล้วยกความผิดให้ฉันเลยนะ!
“ถอดเสื้อมาเดี๋ยวนี้!”
“ไหนบอกว่าไม่ต้อง?”
“แต่ตอนนี้ฉันต้องใส่เสื้อแล้ว ถอดมา!”
สาวสวยโวยวายลั่นเกาะให้เขาถอดเสื้อ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ขัด แต่บรรจงปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างละเมียดละไม ระหว่างนั้น สายตาคมกริบก็กวาดมองความเซ็กซี่ของหญิงสาว ในส่วนที่มือปิดไม่มิดก็ชะเง้อคอดู ให้เธอรู้ว่าเขากำลังล่วงเกินทางสายตา
“นี่คุณ คุณจะมองอะไรนักหนาฮะ!”
“มองว่าที่แม่ของลูก”
เขาตอบเสียงทุ้มต่ำ พลางมองบั้นท้ายกลมกลึงน่ากัด
“กรี๊ด! อย่ามาพูดแบบนี้นะ แล้วก็ห้ามมองก้นฉันด้วย!”
“มองไปแล้ว ให้ทำยังไง?”
คำถามเริ่มยียวนกวนประสาท แถมยังเลียปากตัวเองอี๊ก!
“อะ ไอ้แก่บ้ากาม รีบถอดเสื้อผ้ามาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ไอ้แก่งั้นเหรอ?”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะเดินตรงเข้ามาใกล้ร่างเล็ก ที่ถอยกรู่ไปทางด้านหลัง เมื่อเธอเสียหลักสะดุดขาตัวเองจนล้มลงไปนั่งที่พื้น หนุ่มหน้าเหี้ยมก็ถอดเสื้อต่อหน้า โชว์กล้ามซิกซ์แพ็กแปดมัด พร้อมกับลายสักรูปมังกรที่ฝังบนผิวแทน