“สวมสิ เดี๋ยวถ่ายรูปให้ใหม่”
ฉันรับชุดคืนมาจากลูกหมีแล้วนำเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ แน่นอนว่าฉันมีครบ แม้แต่ซิลิโคนปิดจุกฉันก็มีพร้อม ชุดแบบนี้จะใส่บราให้เห็นขอบเห็นสายคงดูไม่เป๊ะ สวมชุดเรียบร้อยแล้วก็ออกมาหาเพื่อนรักที่รออยู่
“ต้องแต่งหน้าไหม”
“ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแล้วแต่งหน้าเพื่อ?”
ฉันยิ้มเขินแล้วเกาท้ายทอยแก้เก้ออีกครั้ง ก็จริงอย่างที่ลูกหมีว่า ไม่ได้อยากให้เห็นหน้าแต่จะแต่งหน้าเนี่ยนะ
ลูกหมีกวาดตามองหามุมที่จะถ่ายและจัดการถ่ายให้หลายรูป เธอลบแอ็กเคานต์เดิมทิ้งเพราะคาดว่าผู้ชายที่ฉันปัดไว้ น่าจะปัดฉันทิ้งไปหมดแล้ว ก็เลยเลือกที่จะสร้างแอ็กเคานต์ใหม่เสียเลย
“ใช้ชื่อว่าอะไรดี” ลูกหมีหันมาถาม ฉันส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะใช้ชื่อว่าอะไร “แอ็กเคานต์เก่าชื่อไรนะ”
“ปทุม” ฉันตอบยิ้ม ๆ อีกฝ่ายทำหน้าตะลึงงัน “แปลว่าบัวไง”
ลูกหมียิ้มแห้ง เธอเลื่อนสายตาไปยังถ้วยขนมที่เพิ่งกินหมดได้ไม่นาน “ชื่อบัวลอยมะ”
“ไม่เชยไปเหรอ”
“ปทุมโคตรอินเตอร์…”
ฉันหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของลูกหมี ที่จริงชื่อบัวลอยก็ดี แต่มีชื่อฉันอยู่ในนั้นน่ะสิ
“บัวลอยแหละเชื่อหมี” ลูกหมีสรุปเองเสียเลย แม้จะระแวงว่าจะเจอคนรู้จักเข้า แต่ก็ตกลงเอาชื่อนี้ คิดไม่ออกแล้ว
“นี่จะหาแฟนหรือว่า…” ลูกหมีถามเสียงเรียบหลังจากที่ส่งสมาร์ตโฟนคืนให้ฉันแล้ว
“หมีบอกเองนะว่าในแอปนี้ไม่ค่อยมีใครมาหาแฟนหรอก” ฉันตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่าย ลากพิกัดไปไกลจากบ้านเพื่อค้นหาคู่แมตช์ที่ห่างออกไป แม้ในรูปจะไม่เห็นหน้า แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่ไม่น้อย หากคนแถวบ้านเล่นแล้วเจอเข้า ต้องเป็นเรื่องแน่ ๆ
“เอาจริง?”
คราวนี้ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับคนถามด้วยแววตาว่างเปล่า ฉันอยากลองเปิดโลกได้รับอะไรใหม่ ๆ โดยเฉพาะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ
“เอาจริงปะเนี่ยชี” เสียงของลูกหมีทำให้ฉันหลุดออกจากห้วงความคิด ฉันระบายยิ้มบาง ๆ แล้วก้มหน้าลง สายตาจับจ้องที่จอสมาร์ตโฟน ไม่มีคำตอบให้เพื่อน
“ถ้าจะแค่คุย ๆ แก้เบื่อแก้เหงาก็โอเค แต่ถ้าจะสร้างความสัมพันธ์อื่น ๆ บัวต้องไม่พลั้งใจนะ ท่องไว้เลยว่าแค่ขำ ๆ”
“บัวก็ยังไม่รู้เลยลูกหมีว่าจะไปถึงขั้นไหน ให้มีคนคุยกับบัวบ้างก่อนเถอะ”
“แล้วทำไมบัวถึงไม่เลือกในชีวิตจริงสักคนมาคุยล่ะ” ที่มหา’ลัยไม่ใช่ว่าไม่มีใครจีบฉัน ถึงฉันจะไม่ได้ฮอตเท่าแอล แต่ก็พอมีคนมาจีบบ้าง ซึ่งฉันก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ตัดสัมพันธ์ชนิดที่ว่าต่อไม่ได้อีก
‘ก็เพราะพวกเขาอยู่ในชีวิตจริงไง’ คำตอบที่ฉันตอบในใจ ไม่ได้เอ่ยออกไปให้ลูกหมีได้ฟัง
“ปัดคนไหนดี” ฉันไม่ตอบคำถาม ดูหนุ่ม ๆ ที่ขึ้นมาให้ปัด
“ชอบแบบไหน”
“ตัวสูง อายุเยอะกว่าสักสี่ห้าปี”
“ตอบไวจัง นึกว่าจะไม่มีสเปกซะอีก” ลูกหมีอมยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ
“ตั้งไว้ดิ เอาอายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ไรงี้” ลูกหมีบอกพลางจิ้มที่หน้าจอเพื่อตั้งค่าอายุที่ระบบค้นหาขึ้นมาให้ “ปัด ๆ ไปนะ ขอแชตกับหนุ่มก่อน ดูสิเพียบเลย”
“ขิงอ่า” ฉันเบะปากคว่ำใส่คนที่อวดแชตเป็นสิบ
หันมาสนใจหน้าจอของตัวเอง ส่วนใหญ่จะเขาจะลงให้เห็นหน้าตากันทั้งนั้น และมักจะมีคำว่า FWB หรือไม่ก็ ONS ตรงแนะนำตัว
ฉันหันไปมองเพื่อนรักที่หน้าตาอิ่มเอมกัดนิ้วตัวเองราวกับเขินอาย ก็เลยไม่อยากกวน จึงค้นหาความหมายของสองคำนั้นเองเสียเลย เมื่อได้คำตอบแล้ว ฉันลังเลว่าตัวเองควรจะใส่หรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ดีกว่า
เริ่มมีคู่แมตช์บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครทักมาคุยด้วย ฉันเองก็ไม่กล้าที่จะทักไปก่อน ก็ได้แต่รอ…
ดินดีสีไม่ตก
เห็นชื่อนี้แล้วหลุดยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ เคยดินยินแต่ ‘ดำดีสีไม่ตก’ เขาให้เห็นหน้าเพียงเสี้ยวเดียว และแต่งรูปโทนดาร์ก เท่ชะมัด!
MATCH!!!
ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจระคนดีใจที่ปัดไปแล้วระบบก็ขึ้นมาทันทีว่าเราแมตช์กัน กี่คนที่ผ่านมาไม่รู้สึกดีใจได้เท่านี้
ดินดีสีไม่ตก : ดีครับ
พูดเพราะด้วยอ่า ฉันมือไม้สั่นพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วพิมพ์ใหม่
บัวลอย : สวัสดีค่ะ
ดินดีสีไม่ตก : พี่ชื่อดินนะ
ดินดีสีไม่ตก : น้องชื่ออะไรครับ
บัวลอย : บัวลอยค่ะ
ดินดีสีไม่ตก : ชื่อนี้จริงเหรอ
บัวลอย : ค่ะ
ดินดีสีไม่ตก : โอเคครับ
ดินดีสีไม่ตก : น้องปัดพี่เพราะ?
บัวลอย : ไม่มีเหตุผลค่ะ
ดินดีสีไม่ตก : อ่า พี่นึกว่าหาคู่ FWB เหมือนกัน
ใช่ เขาระบุไว้ตรงแนะนำตัวว่า ‘FWB เท่านั้น’
ฉันเหลือบตามองลูกหมีอยากจะขอคำแนะนำว่าควรจะต้องตอบว่าอะไร แต่ลึก ๆ ก็ยังไม่อยากบอกเพื่อนทั้งหมด ฉันเลยเลื่อนสายตากลับมาที่หน้าจอสมาร์ตโฟนอีกครั้ง
บัวลอย : หาอยู่เหมือนกันค่ะ