Chapter 2 คุณแม่ขอร้อง (2)

1439 Words
Chapter 2 คุณแม่ขอร้อง (2) จะตามมาทำไมกันนะ’ ลีลาวดีสาวเท้าให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะไปยังรถของตนที่จอดอยู่ เพราะหันไปเห็นภัทรพลกำลังเร่งฝีเท้าตามมา ความที่หันรีหันขวางจึงไม่ระวังตัวจึงสะดุดขาตัวเองจนหน้าคะมำไปด้านหน้า อวดสายตาคนที่กำลังเข้ามาประชิดตัวเข้าเต็มสองตา แทนที่เขาจะรีบปราดเข้ามาประคองกลับเสียมารยาทปิดปากหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ “ทุเรศ ไร้มารยาท…อูย” หญิงสาวค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นมา ก่อนที่ภัทรพลจะคว้าแขนหล่อนเอาไว้ ฉุดให้ลุกขึ้นมาพลางหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน “ขำพอหรือยัง” หญิงสาวก้มลงปัดเศษขี้ฝุ่นที่บริเวณหัวเข่าพลางมองอีกฝ่ายตาเขียว เมื่อเสียงหัวเราะของเขานั้นช่างกวนอารมณ์ให้ขุ่นมัวได้ดียิ่งนัก การที่สองคนไม่ลงรอยกันทำให้มองไม่เห็นเค้าเลยสักนิดว่าหล่อนและเขาจะมาลงเอยกันได้อย่างไร เพราะเคมีไม่เข้ากันอย่างแรง “เอาเถอะ เมื่อสักครู่ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน หุๆ เอาเป็นว่า เรามาเข้าประเด็นกันดีกว่า” “อะไร” “คุณก็รู้ว่าคุณแม่ของผมเป็นคนอย่างไร แล้วคุณเล่นเดินหนีผู้ใหญ่มาอย่างนี้ผมก็ซวยคนเดียวน่ะสิ เห็นไหม ผมต้องเดือดร้อนมาตามง้อคุณ มาตามให้คุณไปทานข้าว น่าเบื่อมากๆ เลยรู้ไหม” “อ้าว อย่ามาโทษฉันนะ ก็เพราะคุณปากเสียเองนี่ มาว่าฉัน…” หญิงสาวกระอึกกระอักเมื่อรู้สึกอับอายจนเกินจะเอ่ยออกมาได้ รีบหันหลังให้เขาแล้วเดินจ้ำอ้าวไปที่รถ หนีขึ้นไปนั่งด้านคนขับเพื่อเตรียมสตาร์ทรถขับออกไปจากตรงนี้ “เอ๊า! ขึ้นมาทำไม ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ลีลาวดีทำหน้าตกใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้กลับไปแต่กลับพาร่างขึ้นมานั่งคู่กับหล่อนหน้าตาเฉย ซ้ำยังพยักพเยิดให้รีบขับออกไปจากบริเวณนี้ แม้หล่อนจะพยายามดันร่างของเขาให้รีบลงไป แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อเขาคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดเสียเรียบร้อย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อย่าทำตัวเป็นคนสำคัญไปหน่อยเลย รีบๆ ไปกับผมแล้วกินข้าวให้จบๆ ไป จะได้หมดหน้าที่เสียที” “แล้วคิดว่าฉันอยากเป็นนักรึไง…เหอะ” “ขอร้องเถอะแม่คุณ ไปกับผมก่อน จากนั้นจะได้แยกย้ายบ้านใครบ้านมันเสียที” “เราจะเจอกันวันนี้เป็นวันสุดท้าย ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำตามที่ผู้ใหญ่ขอร้องอีก” “ผมก็ขอสัญญาว่าเราจะไม่เจอกันอีก จะไม่ทำตามความต้องการของคุณแม่อีกต่อไป แต่ในวันนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว อดทนไปอีกวันก็แล้วกัน” ในขณะที่ลีลาวดีกำลังเหยียบคันเร่งเพื่อที่จะไปยังร้านอาหารตามที่มารดาของเขาได้นัดเอาไว้นั้น เสียงโทรศัพท์ของภัทรพลได้ดังขึ้น เมื่อดูที่หน้าจอก็พบว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาที่โทร.มา หลังจากได้ทราบข่าวจากปลายสายแล้ว ชายหนุ่มถึงกับมีสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที “ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” “มีเรื่องอะไรกันคะ” ลีลาวดีเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ขณะที่ภัทรพลพยายามต่อสายหามารดา หากแต่ทว่าทางนั้นไม่ยอมรับสาย ชายหนุ่มรู้สึกร้อนใจด้วยเขาเองกำลังจะขอตัวไม่ไปร่วมทานอาหารในวันนี้ เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ทำ นั่นคือเพื่อนของเขาได้โทร.มาส่งข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ปะทะกับขบวนการลักลอบขนวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิตยาเสพติดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ สถานการณ์ตามแนวชายแดนในเขตที่ชายหนุ่มสังกัดอยู่ในตอนนี้จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง “คุณแม่ผมไม่ยอมรับโทรศัพท์ แย่จริง” “มีอะไรกันคะ สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย” แม้จะเพิ่งปะทะคารมกันมาหยกๆ แต่สีหน้าและแววตาที่ฉายแวววิตกกังวลของเขา ทำให้ลีลาวดียอมสงบศึกชั่วคราว เพราะไม่เคยเห็นเขาในแง่มุมนี้มาก่อน ที่ผ่านมาก็จะเจอแต่ความกวนประสาทของเขาเท่านั้น “ผมคงไปทานอาหารกับพวกคุณไม่ได้แล้ว ติดต่อคุณแม่ก็ไม่ได้ ป่านนี้ท่านคงไปรอเราสองคนที่ร้านแล้ว ผมอยากให้คุณไปส่งผมที่บ้านก่อน แล้วค่อยตามไปบอกท่านแทนผมที่ร้านอาหารได้ไหม” “อ้าว” ลีลาวดีนิ่งเงียบไปคล้ายกำลังชั่งใจ ด้วยคิดว่าเรื่องอะไรที่หล่อนจะต้องเชื่อเขา เพราะเขาเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับตน ซ้ำยังชอบกระแนะกระแหนกันอีกด้วยซ้ำ หากหล่อนไม่ไปส่งตามที่เขาร้องขอ เขาก็ต้องตามไปร้านอาหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว “คุณยังไม่บอกฉันสักคำว่าทำไมต้องรีบกลับ ทำไมเหรอคะสาวๆ ที่อยู่ชายแดนโทร.มาตามรึยังไง” “หึงผมเหรออออ…” ชายหนุ่มลากเสียงยาวขณะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หรี่ตามองเพื่อล้อเลียน “จะบ้าเหรอ!” “เอ๊า ก็แววตาคุณมันฟ้อง แถมยังทำท่าไม่อยากให้ผมกลับไปทำงานอีก ไม่เรียกว่าหึงจะเรียกว่าอะไร” “ให้ตายสิ คุณหมวดรูปหล่อขา ลิลลี่ไม่เคยเจอใครหลงตัวเองเท่าคุณหมวดรูปหล่อมาก่อนเลย คุณหมวดคิดได้ยังไงคะว่าลิลลี่ก็เป็นหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ของคุณหมวด” หญิงสาวแกล้งแทนตัวเองเสียใหม่ พลางทำเสียงเล็กเสียงน้อยเพื่อล้อเลียนกลับ ในขณะที่ภัทรพลนึกสนุกอยากแกล้งหล่อนขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นท่าทีอวดดีนั่น “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป การที่ลิลลี่ไม่สนใจผมมันก็ดีอยู่แล้ว เพราะตัวจริงที่รออยู่แถวโน้นเขาจะได้ไม่ต้องเสียใจและเสียน้ำตาเพราะผม คราวนี้ผมจะได้บอกคุณแม่ไปว่าลิลลี่ร้องไห้ฟูมฟายไม่อยากแต่งกับผม ลิลลี่จะผูกคอตายหากถูกจับคลุมถุงชน โดยขอร้องให้ผมช่วยพูดกับคุณแม่เจ้าสาวก็จะได้เปลี่ยนมาเป็นน้องมะลิแทน เอาแบบนี้ดีไหมจ๊ะ” จากการที่เขาตบมุกกลับมาบ้างทำให้ลีลาวดีหุบยิ้มทันที ใบหน้างอง้ำเข้ามาแทนที่ใบหน้ารื่นเริงเมื่อสักครู่ เพียงเพราะรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่เขาอ้างถึงผู้หญิงอีกคน ซ้ำยังจะนำมาเป็นเจ้าสาวแทนหล่อนเสียด้วย ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องไม่อยากให้เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา ‘แหวะ มะลิเคลือบยาฆ่าแมลงน่ะสิไม่ว่า กล้าเอามาเสียบแทนฉันเรอะ ชิ’ “แหม บังเอิญจริงนะคะ ตัวจริงของคุณหมวดชื่อเป็นดอกไม้เหมือนลิลลี่เลย” หญิงสาวกัดฟันหัวเราะออกมา ภัทรพลแสร้งทำตาหวานเยิ้มเมื่อเอ่ยถึงสาวอีกคน แท้จริงแล้วเขาไม่มีใครทั้งนั้น ที่อุปโลกภ์ขึ้นมาก็เพราะอยากแกล้งเท่านั้น “นั่นน่ะสิ ผมนี่หนีอะไรที่เป็นดอกๆ ไม่พ้นเลย” “พูดให้จบนะ ดอกไม้ ไม่ใช่ดอก พูดสั้นๆ มันกระทบฉัน หมวดบ้า ปากเสีย” “อ้าวเหรอ ฮ่าๆ” “ขอให้ขำจนกรามค้างไปเลย” “นี่คุณ เราจะไปกันได้หรือยัง ขอร้องล่ะแม่คุณ ไปส่งผมหน่อย ผมรีบจริงๆ นะ” ภัทรพลยกมือเป็นเชิงขอสงบศึกเมื่อเห็นว่าเขาเสียเวลามามากแล้ว ลีลาวดีจำต้องไปส่งเขาที่บ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเห็นว่าเขาเอาเรื่องงานขึ้นมาอ้างจึงไม่อยากเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เขากลับไปทำงานไม่ทัน สถานการณ์ตามแนวชายแดนอาจจะกำลังต้องการตัวเขาอยู่จริงๆ “ไปส่งก็ได้ ฉันแค่กลัวว่าแม่ดอกมะลิลอยน้ำของคุณจะรอหรอกนะ ถึงได้ยอม ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น” “คร๊าบบบ เชื่อแล้วคร๊าบบ” “เอาค่าน้ำมันมาด้วยเลยนะ” พูดพลางเปลี่ยนเส้นทางที่จะไปร้านอาหาร มีจุดมุ่งหมายยังบ้านของเขาที่อยู่คนละอำเภอ โดยที่ภัทรพลพยายามต่อสายหามารดาอยู่เป็นระยะเพื่อแจ้งข่าวนี้ให้ท่านได้รับทราบ จะได้ไม่ต้องรอและมัวเป็นห่วง +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD