ตอนที่ 6 สูตรลับ จับหัวใจ

1706 Words
ตอนที่ 6 สูตรลับ จับหัวใจ ภาวิณีอมยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนเอ่ยถ้อยคำหยอกเย้าที่ทำให้สองหนุ่มสาวต้องเบิกตากว้างพร้อมกันทันที ก็…เพิ่งมาจ้ะ แต่ก็มาทันเห็นอะไรๆ เข้าพอดี” “หะ เห็นอะไร!” “อะไรๆ ในครัว อะไรน๊า” “หา!” ท่าทีตกใจของทั้งสอง ไม่ได้ทำให้คนพูดแปลกใจแต่อย่างใด คิดว่านั่นคือการแสดงความอับอายออกมาที่เผลอแสดงความรักต่อกันจนทำให้ตนมาเห็นเข้าโดยบังเอิญ ถ้อยคำหยอกเย้ายังคงออกมาจากปากไม่เลิก ไม่ทันสังเกตว่าสองหนุ่มสาวต่างพากันซุบซิบกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่กำลังเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่ “เห็นมั้ย คุณมัวเล่นอยู่นั่นแหละ คุณแม่มาแอบเห็นจนได้ ที่นี้ล่ะยาวแน่” “เอ๊า โทษผมคนเดียวได้ยังไง ใครใช้ให้คุณเอาขนมมายัดปากผม ไม่รู้ล่ะ คุณต้องรับผิดชอบร่วมกันนะ” “ไม่! คุณนั่นแหละผิด” “คุณผิด” “คุณแหละผิด” “เอาละๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แหม ของแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของหนุ่มสาวเนอะ เรื่องกุ๊กกิ๊กๆ กันมันก็ต้องมีบ้าง แม่ยังไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย ขอแค่ อย่าชิงสุกก่อนห่ามก็พอ...หมวด เข้าใจนะ” “อะ อ้าว” ลีลาวดีอ้าปากค้างอยากจะโต้แย้งใจแทบขาด ไม่ต่างไปจากภัทรพลที่กำลังเต้นเป็นเจ้าเข้า เมื่อมารดาของเขากลับสรุปเองเสียเสร็จสรรพตามสิ่งที่ได้เห็นมา “อะไรคร๊าบบบ คุณแม่ ผมไม่ได้…” “หมวด!” “คุณแม่กำลังเข้าใจผิดนะครับ โธ่” “ใช่ค่ะ คุณป้าเข้าใจผิดนะคะ ลิลลี่แค่…” ลีลาวดีต้องชะงักคำพูดค้างเอาไว้แค่นั้น เมื่อภาวิณีรีบยกมือเป็นเชิงปราม ก่อนแทรกเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาทันที “อ้อ จริงสิ หนูลิลลี่จะกลับแล้วใช่ไหม แม่ว่าจะฝากขนมไปให้คุณแม่ของหนูหน่อย มาสิ เข้ามาก่อน” ไม่พูดเปล่า กลับเดินมาจูงมืออีกฝ่ายให้ตามเข้าไปด้านในอีกครั้ง ลีลาวดีจำต้องเดินตามเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะถูกคะยั้นคะยอเสียขนาดนั้น ภัทรพลถึงกับยกมือขึ้นท้าวเอวมองตามมารดาของตนเดินเข้าบ้านไป เนื่องจากชายหนุ่มรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าความยุ่งยากกำลังจะมาเยือนอีกครั้ง “คุณแม่นะคุณแม่ ผมยังไม่อยากมีเมีย เข้าใจมั้ยเนี่ยครับคุณแม่ เฮ้อ…” “ไหนคะ ขนมที่จะฝากลิลลี่ไป” ลีลาวดีเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความงุนงง เมื่ออีกฝ่ายเดินนำเข้ามาในครัว แต่กลับไม่เห็นมีขนมวางอยู่บริเวณนั้น ยังไม่ทันที่จะตั้งหลัก ภาวิณีก็ชี้ให้ดูบางสิ่งที่วางเรียงรายซ้อนกันอยู่ข้างตู้เย็น “นี่ไงจ๊ะ” “ไข่?” “นั่นสิคุณแม่ ไข่นี่นะครับ” คนเดินตามมาสอดแนมทีหลังรีบแจมขึ้นมาบ้าง เมื่อไม่เข้าใจเช่นกันว่ามารดาของตนคิดอะไรอยู่ “นี่แหละ ขนมที่จะฝากไป แต่ว่า…” “หือ?” สองหนุ่มสาวหันไปมองหน้ากันอย่างงุนงง ภาวิณียิ้มกริ่ม ก่อนเฉลยออกมาโดยไม่ต้องรอให้ถาม รอยยิ้มหวานบาดจิตเจือความเจ้าเล่ห์อยู่ในที ลีลาวดีสัมผัสได้ว่าตนกำลังถูกหลอกอีกครั้ง “ไม่ต้องทำหน้างงหรอกจ้ะ เพราะขนมที่ว่ายังไม่ได้ทำ และแม่ก็กำลังจะทำ คงต้องวานให้เราทั้งสองช่วยเป็นลูกมือให้หน่อย โอเค๊ ผู้หมวดของแม่ หนูลิลลี่” “อะ อ้าว” “หมวด ไปหยิบกะละมังสแตนเลสมาสิจ๊ะ เอามาตอกไข่ เอาใบพอเหมาะๆ นะ ไม่ใช่เอามาเสียจนใช้ซักผ้าได้” เสียงร้องสั่งบุตรชาย ไม่วายที่จะแซวกันพอขำๆ ตามนิสัยที่เป็นปรกติของคนในบ้านนี้ จนลีลาวดีอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ กับความสนิทสนมของสองแม่ลูกคู่นี้ “แหม รู้สึกคุณแม่จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะครับ” “หนูลิลลี่ มานี่สิจ๊ะ มาช่วยแม่ตอกไข่หน่อย ภาวิณีหันมากวักมือเรียกลีลาวดีให้ช่วยกันหยิบไข่ไปใส่ในกระจาดที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว ภัทรพลถือมายื่นให้มารดา ขณะเอ่ยออกมาโดยไม่อ้อมค้อม “คุณแม่ครับ ตอนนี้ผมคงไม่ว่าง ที่จริงวันนี้ผมจะกลับฐานด้วยซ้ำ เพราะลูกน้องของผมถูกสะเก็ดระเบิดตอนลาดตระเวน นี่ก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย ผมร้อนใจ อยากไปเยี่ยมดูอาการ” “คุณพระช่วย! แล้วมีใครเป็นอะไรอีกหรือเปล่า” คนฟังยกมือขึ้นทาบอกด้วยตกใจกับคำบอกเล่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของหล่อนวาบหวิวลงไป นั่นคือความเป็นห่วงในชีวิตของลูกชายเพียงคนเดียวยิ่งนักเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเช่นเดียวกัน หัวอกคนเป็นแม่อย่างหล่อนนั้นไม่มีใครเข้าใจ ที่ต้องทนเก็บความห่วงใยและหวาดหวั่นเอาไว้ภายในใจ ไม่แสดงความอ่อนแอออกมา เหตุผลเพียงเพราะไม่อยากให้ลูกชายของตนต้องกังวลจนทำงานไม่ได้ คิดอย่างเข้าใจว่าเขาได้เลือกเส้นทางเดินชีวิตของตนแล้ว ทำได้เพียงส่งกำลังใจอยู่ห่างๆ เท่านั้น “ไม่ครับ” “เสียใจด้วยนะ แม่ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองเจ้าหน้าที่คนนั้น ให้หายเป็นปรกติในเร็ววันนะ” “สมพรปากนะครับคุณแม่” ภัทรพลยิ้มแห้งๆ อดที่จะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูไม่ได้ ด้วยคิดว่าตนเสียเวลามามากพอแล้ว ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไร มารดาของเขาก็ชิงพูดขึ้นมาอย่างรู้เท่าทันในความคิด ว่าเขากำลังจะบอกอะไร “แต่ตอนนี้มันบ่ายคล้อยแล้ว หมวดจะเดินทางตอนนี้แม่ไม่เห็นด้วย แล้วใจคอจะไม่รอร่ำลาคุณพ่อเลยเหรอ เอาเป็นว่าไปพรุ่งนี้ดีกว่า ตอนนี้มาเป็นลูกมือให้แม่ก่อน โอเค๊” แววตาหวั่นวิตกเมื่อครู่แปรเปลี่ยนมาเป็นสดใสและขี้เล่นตามเดิม ลีลาวดีลอบสังเกตแววตาเมื่อสักครู่นี้ได้ทัน หล่อนรู้ดีว่าท่านกำลังปกปิดความผิดปรกติอยู่ เมื่อรู้อย่างนี้ก็ไม่อาจเดินหนีกันไปตอนนี้ได้ คิดว่าท่านคงต้องการเพื่อนคุยมากที่สุดในขณะนี้ “คุณแม่ เนียนตลอดเลยนะครับ” “แม่จะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไร แค่อยากทำขนมเท่านั้น” “ไม่ต้องแปลกใจเลย ว่าผมได้รับเชื้อมาจากใคร ในเรื่องของเล่ห์เหลี่ยมเนี่ย ฮ่าๆ” “คุณพ่อเราต่างหาก ตัวดีนักละ พาลูกพลอยติดไปด้วย หนูลิลลี่ก็ดูเอาไว้ จับให้ได้ไล่ให้ทันนะลูกชายของแม่คนนี้ ไถลไปกับพื้นไม่ต้องกลัวถลอก” “ว่าผมซะเสียหายเลย น้องลิลลี่คงไม่ชอบหรอกมั้งครับแบบนี้ อย่างลิลลี่เขาต้องหนุ่มอารมณ์ศิลปิน ใช่มั้ยครับน้องลิลลี่” ‘ชิ ใครเป็นน้องนาย’ สองแม่ลูกชวนหันหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ลีลาวดีกัดฟันยิ้มออกมา เพราะหล่อนไม่ขำที่เขาแสร้งล้อเลียนเรื่องสรรพนามของเธอ ความหมั่นไส้ทำให้แอบแลบลิ้นใส่หน้าเขาไปหนึ่งที ในขณะนั้นคนกลางได้ขอตัวเดินออกไปหาวัตถุดิบด้านนอก เพราะจำไม่ได้ว่าซื้อมาแล้ววางทิ้งไว้ตรงส่วนไหนของบ้าน “หากแลบลิ้นออกมาอีกครั้ง ผมจะกัดให้ลิ้นขาดเลยคอยดู อะ โอ๊ย!” ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนถูกมดกัดเข้าที่แผ่นหลัง ปลายนิ้วแกร่งรีบคลำหาร่องรอยเพื่อตรวจดูว่ามีเลือดตกยางออกหรือไม่ เพราะรู้สึกว่าผิวเนื้อของเขานั้นถูกฝังปลายเล็บลงมาอย่างแรงจากฝีมือของคนข้างกาย “ใครกันแน่ที่จะลิ้นขาด ผู้ชายแบบคุณน่ะฉันเห็นตกม้าตาย มาเยอะแล้ว แหวะ” “หยิกผมทำไม เจ็บนะ” “ข้อหาเล้าโลมทางคำพูด” “ตรงไหนครับ” คนพูดพลางหรี่ตามองมาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม จนลีลาวดีรีบเสมองไปทางอื่น เพราะรู้สึกว่าสายตาของเขาแบบนี้ ทำให้หล่อนเขินอายได้ทุกครั้ง เขาว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ การที่เขาใช้สายตาแบบนี้กับเธอหัวใจสาวก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ หากแต่ว่าก็รีบกลบเกลื่อนเอาไว้ด้วยคำพูดน้ำเสียงกระแทกฟังไม่ไพเราะเสนาะหูเอาเสียเลย “ก็คุณ จะกัดลิ้นฉัน” “เล้าโลมตรงไหนกันครับ หือ ช่วยบอกหน่อยสิ ตรงไหนคือเล้าโลม ผมไม่รู้ตัวจริงๆ นะ” “กวนประสาท” หญิงสาวทำเสียงอุบอิบอยู่คนเดียว ก่อนหันไปสนใจไข่ตรงหน้าต่อ แต่คนหูดีเช่นเขาได้ยินชัดเจนยิ่งนัก จึงอดที่จะหยอกเย้ากันอีกไม่ได้ ในขณะที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน “ใครบอก ผมกำลัง…ก่อกวนหัวใจคุณต่างหาก” “นี่!” “อะไรครับ คุณลีลาดี ถ้าคิดจะทำร้ายร่างกายผม คราวนี้ผมคิดค่าปรับจริงๆ นะ” คราวนี้ชายหนุ่มรู้ทันเมื่อหล่อนเงื้อมือมา เขาจึงคว้าเอาไว้ได้ทันท่วงทีแล้วจับเอาไว้อย่างนั้น ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้ทำร้ายร่างกายกันอีก “คนที่เคยจับแต่พู่กันอย่างคุณ ยังต้องไปฝึกมาอีกเยอะนะลิลลี่ที่ริอ่านมาต่อกรกับคนที่จับอาวุธทุกวันเช่นผม” “อย่าทะนงไปนัก ฉันเห็นผู้ชายที่ทำทีว่าแข็งแกร่ง ทั้งร่างกายและหัวใจแบบคุณ ต้องหลอมละลายเพราะความอ่อนหวานผู้หญิงมาเยอะแล้ว” “หากมันจะจริง ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ใช่คุณ หรือว่า คุณอยากเป็นคนนั้น คนที่ทำให้ผมหลอมละลายได้” “ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นเสียหน่อย ฉันไปบอกตอนไหนว่าอยากเป็นผู้หญิงของคุณ” “ผมจะเชื่อคุณดีหรือเปล่า” หญิงสาวรีบชักมือกลับ เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะจรดริมฝีปากลงมาบนหลังมือขาวเนียนของตน จากเดิมที่เขาคิดจะแกล้งให้ปั่นป่วนอยู่ในหัวใจเล่นๆ ไม่คิดเลยว่านกรู้อย่างคุณแม่ของเขาจะโผล่พรวดเข้ามาเห็นช็อตเด็ดพอดี “อะแฮ่ม” “คุณแม่มา!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD