"กรี๊ดดดดด"
"โอ๊ย!"
ร่างของสุธีเสียหลักล้มลงกับพื้นถนน พวงมาลากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจแล้วรีบประคองเพื่อนของตัวเองให้ลุกขึ้น
“ธีเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนไหม”
หล่อนถามด้วยความเป็นห่วง พลางมองไปทางรถที่ขับเฉี่ยวเพื่อนของตัวเอง แล้วก็ต้องหน้าซีดเผือด เมื่อรถคันที่เฉี่ยวสุธีคือรถของโจรโฉดคนนั้น แล้วก็ต้องช็อกไปอีกเมื่อเขาจอดรถและกำลังจะเดินมาทางนี้ มาทางที่หล่อนกับสุธีอยู่
“ธีไม่เป็นอะไรหรอกดอก ขอบคุณนะ”
เมื่อลุกขึ้นได้ ใช่ เขาไม่เป็นอะไรหรอกเพราะแค่เฉี่ยวเฉย ๆ อีกอย่างเขาหันไปเห็นรถเข้าพอดีเลยเบี่ยงตัวหลบทันจึงทำให้เสียหลักล้มลง
“มันไม่ตายหรอกเด็กน้อย เอามือออกจากมันเดี๋ยวนี้”
เอ่ยอย่างคนหวงของ ไม่รู้เลยว่าการกระทำของตัวเองตอนนี้ทำให้ทั้งสองคนมึนงง เหรียญเงินมองก็รู้ว่าคนตัวเล็กจำตนได้ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก
สุธีมองคนแปลกหน้าไร้มารยาท ขับรถเฉี่ยวเขาแล้วยังมาพูดจาหยาบคายแบบนี้อีก เมื่อลุกขึ้นยืนทรงตัวเองได้ ก็แกะมือเล็กของพวงมาลาออกจากแขนตน แล้วจ้องมองกลับชายแปลกหน้าที่ใบหน้ารกครึ้มไปด้วยหนวดเครา
“คุณเป็นฝ่ายผิด แทนที่คุณจะขอโทษพวกเรา...” หนุ่มน้อยเอ่ย
“มันจะไม่เกิดขึ้นถ้ามึงไม่มายุ่งกับเมียกู”
ผลักร่างของคนอ่อนวัยกว่าออกไปให้พ้นทางตน แล้วฉุดรั้งร่างหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ หนุ่มน้อยมาไว้ข้างตน
จากคำพูดการกระทำของเหรียญเงินมันเกิดขึ้นรวดเร็ว จนทำให้พวงมาลาทำอะไรไม่ถูก สมองที่เคยฉลาดกลับคิดอะไรไม่ออก กลับกลายเป็นโง่ขึ้นมาทันที
“ดอก...มันหมายความว่ายังไงที่ผู้ชายคนนี้พูด แล้วตัวเองรู้จัก...”
“เราไม่รู้จักเขานะธี ช่วยดอกด้วยธี” สาวเจ้าพยายามแกะมือใหญ่ที่บีบข้อมือของตัวเองออก หล่อนหน้ายู่ด้วยความเจ็บ
“ว่าไงนะเด็กน้อย ไม่รู้จักฉันเหรอ แล้วตรงนี้ บนรถคันนั้นล่ะ มันคืออะไร”
พูดพลางกระทืบเท้าตรงที่ยืน แล้วหันไปทางรถคันหรูของตัวเองจอดอยู่ มืออีกข้างบีบคางมนบังคับให้มองตามตน
พวงมาลาขาอ่อนแรง น้ำตาคลอเบ้า เมื่อภาพทุกอย่างฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง หล่อนส่ายหน้าแรง ๆ อย่างปฏิเสธภาพที่อยู่ในหัวของตัวเอง
“มะ...ไม่! ไม่จริง...ไม่จริง...”
“ตัวเองเป็นอะไร บอกธีมาสิว่ามันคืออะไร ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงบอกว่า...”
“ฉันเป็นผัวเด็กคนนี้ คนที่มึงแทนว่าตัวเองด้วย มึงอย่าใช้คำสนิทเมียกูให้มากนัก กูไม่ชอบ บอกมันไปสิเด็กน้อยของฉันว่าเธอเป็นเมียของฉัน” พูดแทรกประโยคของสุธีพร้อมกับบีบคางเล็กของหล่อนให้แหงนเงยขึ้นสบตาตน “บอกมันไปสิ ถ้าไม่อยากให้มันเดือดร้อนก็ควรให้มันกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ ส่วนเด็กน้อยก็ไปกับฉัน”
ไม่รอฟังคำพูดของตัวเอง เขาคิดเองเออเอง และจัดการช้อนอุ้มคนตัวเล็กที่ใบหน้าเปียกชื้นด้วยน้ำตา มันน่ารำคาญหงุดหงิดสิ้นดี ทำไมหล่อนต้องร้องไห้ด้วย
“นั่นคุณจะพาดอกไปไหน” สุธีเดินตามไปคว้าไหล่ของคนมารยาททรามไว้
“เรื่องของผัวเมีย บอกมันสิเมียจ๋า...บอกมันว่าให้กลับไป บอกมันว่าเราเป็นอะไรกัน...ถ้าเธอไม่บอก ฉันจะฆ่ามันและจะฆ่ายายตาบอดของเธอด้วย” ท้ายประโยคเขาก้มลงกระซิบให้หญิงสาวได้ยินคนเดียว
ใบหน้าของพวงมาลาซีดเผือด เมื่อได้ฟังคำขู่ของคนแปลกหน้า หล่อนจะฝืนก้อนสะอื้นร้องสั่งเพื่อนสนิทของตัวเองไป เพราะคนที่ห่วงที่สุดคือคุณยาย หล่อนกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะเสียคุณยายไป
“ธีกลับบ้านไปก่อนนะ เราฝากธีเอารถเข็นไปเก็บและบอกยายด้วยนะว่าดอกไปทำงานส่งอาจารย์บ้านเพื่อน พอดีมันเรื่องด่วนมากจึงวานธีเอาของไปเก็บให้ ช่วยเราด้วยนะ อย่าบอกยายเรื่องนี้นะ เราเป็นห่วงยาย”
“ดีมากเด็กน้อย แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว รำคาญ!” เหรียญเงินเอ่ยอย่างหงุดหงิด เบื่อจริงผู้หญิงขี้แย
“เราจะไม่บอกยายตี ดอกจะกลับมาใช่ไหม” ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไปมีผัว ไม่ได้ไปตาย ร่ำลากันอยู่ได้น่ารำคาญ! มึงไปทำตามที่เมียกูบอกได้แล้ว ส่วนกูจะเอาเมียไปกกกอด” ว่าจบก็ไม่สนจะฟังใครอีก เท้าใหญ่สาวยาว ๆ ไปยังรถของตัวเอง เปิดประตูแล้วโยนร่างเล็กขี้แยเข้าไปในรถ
“คาดเข็มขัดด้วย อย่าคิดหนีล่ะ ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะฆ่าคน ถ้ารักยายเธอก็ควรจะเชื่อฟังฉัน”
สาวน้อยพยักหน้ารับคำ หล่อนรีบรัดเข็มขัด แล้วเช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง ฝืนกลืนก้อนสะอื้นลงคอ เมื่อคิดถึงยายแล้วหัวใจดวงน้อยก็แกร่งขึ้นมาทันที สิ่งเดียวเป็นยาใจคือคุณยายเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ดีมากอีหนูน้อยของฉัน” กระตุกยิ้มแล้วโน้มตัวไปจูบหน้าผากมนของเด็กสาว “ดีมาก คนดีของฉัน”
เหรียญเงินพึมพำกับใบหน้าสวย พลางยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มออกให้อย่างอ่อนโยน
ครั้งแรกอาจไม่ชัดเจน ครั้งนี้ชัดเจนแล้ว หล่อนช่างสวยสมวัยเหลือเกิน ยิ่งตอนนี้หล่อนก็ยังใส่ชุดนักศึกษาเหมือนครั้งแรกของเขาและเธอไม่มีผิด ทุกอย่างไม่มีแผน มีแต่ความต้องการล้วน ๆ เหรียญเงินเป็นคนใจร้อน มักทำอะไรก่อนคิดเสมอ และตอนนี้ก็เช่นกัน
จะให้พูดยังไงดี ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ตั้งใจจะใช้แผนการหลอกล่อเจ้าหล่อนมาติดบ่วง แต่ดูเหมือนว่าเป็นตัวเขาเองจะติดบ่วงพรหมจรรย์ของคนตัวเล็กในครั้งนี้ ตลอดค่ำคืนต้องคิดถึง โหยหาใบหน้าสวยหวานของคนตัวเล็ก