ดอกรักกลับมาถึงห้องพักในเวลาเกือบเที่ยงคืน แม้สภาพภายนอกจะดูทรุดโทรมทว่าข้างในก็ถือว่าสะอาดสะอ้าน ดอกรักพักที่หอแห่งนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพราะราคาถูกแม้ระยะทางจะอยู่ค่อนข้างไกล แต่ก็มีรถเมล์ผ่านทำให้เดินทางไม่ได้ยากแม้ว่าจะเบียดเสียดกันไปหน่อย
ขาเล็กก้าวเข้าอาคารกึ่งเก่ากึ่งโทรมก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องของตัวเอง เมื่อได้เข้าไปในห้องสิ่งแรกที่ดอกรักทำคือทิ้งตัวลงบนเตียงพลางหวนคิดถึงเรื่องที่เจอเมื่อช่วงหัวค่ำ
“มองอะไร” เสียงเข้มถามขึ้นเมื่อดอกรักเอาแต่มองหน้าหล่อไม่ละสายตา
“เอ่อ เปล่า ๆ ค่ะ” เธอตอบเสียงลนลานก่อนจะก้มหน้ามองปลายเท้าระหว่างรอพยัคฆ์และผู้หญิงคนนั้นสั่งอาหาร แต่เรื่องมันไม่ได้ผ่านไปง่าย ๆ เพราะหญิงสาวที่มากับเขาดันขัดขาเธอจนเกือบล้ม
“พนักงานที่ร้านซุ่มซ่ามชะมัด” เสียงแหลมเอ่ยขึ้น
นอกจากจะไม่มีคำขอโทษแล้วยังส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้อีกก่อนที่เจ้าหล่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น แถมชายตรงข้ามที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดยังตีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เราเพิ่งเรียนด้วยกันมาแท้ ๆ
ดอกรักคิดอย่างหงุดหงิดก่อนจะหลับไปทั้งอย่างนั้นโดยที่ไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกาย
...
วันพฤหัสบดี...
ดอกรักหอบร่างเหนื่อยล้ามายังห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเพื่อทำรายงานตามที่นัดไว้กับพวกกลุ่มคนร้ายกาจ แค่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อนก็หวาดหวั่นแล้ว ไหนจะเรื่องวีรกรรมต่าง ๆ ของคนกลุ่มนี้ที่มาลีวัลย์เล่าให้ฟังอีก
“เฮ้อ รีบทำรีบกลับไปนอนดีกว่า”
“อะไรกัน พวกฉันเพิ่งมาแต่เธออยากกลับแล้วเนี่ยนะ” ดราก้อนเอ่ยอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียงทำคนขวัญอ่อนสะดุ้งโหยง
“เปล่าค่ะ แฮะ ๆ”
“ฉันคงหูฝาดล่ะมั้ง”
“ค่ะ หูฝาดแน่ ๆ เลย” ดอกรักย้ำคำเดิมให้ดราก้อนมั่นใจอย่างหน้าไม่อาย
“หึ” แต่แทนที่จะแล้วแล้วกันไปเจ้าป่าคนที่ชวนเธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มกลับหัวเราะในลำคออย่างน่าขนลุกจนดอกรักหวั่นใจ
นี่เธอคงจะไม่ได้โดนรังแกเหมือนอย่างในหนังหรอกใช่ไหม ที่พวกเด็กทุนจะถูกลูกคนรวยกลั่นแกล้งในมหาวิทยาลัยแล้วก็ต้องยอมทนไปจนเรียนจบเพราะสู้อิทธิพลของอีกฝ่ายไม่ได้ แค่คิดดอกรักก็อยากร้องไห้แล้ว
“ทำหน้าอะไรเธอ”
“อย่าบอกนะว่ากลัวพวกฉัน” ดอกรักไม่ตอบเจ้าป่า เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตามองมือตัวเองที่กุมกันไว้แน่น
“เลิกแกล้งยัยนี่แล้วรีบทำงานเถอะ” อัศวินเอ่ยขึ้น ไม่รู้เพราะเขาเห็นท่าทีน่าสงสารของเธอหรือเพราะรำคาญเพื่อนตัวเองกันแน่
หลังสิ้นคำอัศวินทั้งห้าก็ลงมือหาข้อมูลเพื่อนำมาประกอบรายงาน โดยที่ตั้งแต่เริ่มทำงานดอกรักสัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนที่คอยจับจ้องมาที่เธอมาเป็นระยะทำเอาอึดอัดไปหมด
“เดี๋ยวรัก เอ่อ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ดอกรักเอ่ยติดขัด เมื่อรู้ว่าชายทั้งสี่อายุมากกว่าตัวเองเธอก็ไม่รู้จะแทนตัวเองว่ายังไง
ตามนิสัยแล้วดอกรักจะเรียนแทนตัวเองด้วยชื่อกับผู้ที่อายุมากกว่า แต่พอพูดกับพวกเขาแล้วกลับรู้สึกแปลก ๆ จึงแทนตัวเองว่าฉันแทน
“มองขนาดนั้นเลย” ทันทีที่ร่างเล็กเดินออกไปเจ้าป่าที่สังเกตท่าทางเพื่อนสนิทก็เอ่ยขึ้นทันควัน
“เสือก”
“ฮ่า ๆ ไอ้เสือมันจ้องเงียบเลยวะ” ดราก้อนไม่พลาดโอกาสสอดปากเอ่ยแซวทันที
“แหงล่ะ สเปกมันเลยนี่”
“แต่ดูเธอจะไม่ใช่พวกที่จะคบเล่น ๆ ได้นะ” อัศวินที่ไม่ค่อยจะสนเรื่องพวกนี้พูดขึ้นเมื่อสังเกตท่าทางของเพื่อนสนิทมาสักพักแล้ว
“แล้วใครว่าจะคบเล่น”
“มึงอย่าบอกนะ” ดราก้อนเอาสองมือปิดปากแสร้งทำเป็นตกใจนักหนาที่ได้ยินว่าพยัคฆ์จะจริงจังกับใครสักคน
“เสือจะถอดเขี้ยวเหรอวะ” เสียงทุ้มของเจ้าป่าเอ่ยเมื่อได้ยินเพื่อนสนิทพูดแบบนั้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก
“พูดมากนะพวกมึง” เสียงเข้มของคนถูกรุมเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายที่ไอ้พวกนี้เอาแต่กระแนะกระแหนเขาอยู่บ้าง
ไม่นานดอกรักเดินก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม แม้ทุกคนจะยังหาข้อมูลอยู่เหมือนเดิมแต่เธอกลับรู้สึกว่าบรรยากาศมันต่างจากก่อนหน้าที่เธอจะไปเข้าห้องน้ำ
“เอ่อ เธอชื่อไรนะ” เจ้าป่าที่กำลังจะเรียกดอกรักแต่กลับไม่รู้จักชื่อเธอเสียได้
“รักค่ะ ดอกรัก” ดวงหน้าหวานหันไปมองก่อนจะตอบเสียงเบา เชื่อเขาเลยทั้งที่ทำงานด้วยกันมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วเนี่ยนะ
“อ่า ดอกรัก คือว่าพวกฉันมีธุระต้องไปทำต่อ อยากวานให้เธอกับไอ้เสือหาข้อมูลที่เหลือหน่อยแล้วพวกฉันจะสรุปให้”
ดอกรักมองข้อมูลที่เหลืออยู่ไม่กี่หัวข้อ จึงตอบรับอย่างง่ายดายโดยลืมประโยคที่บอกว่าเธอต้องทำงานกับพยัคฆ์ต่อกันแค่สองคน
“มึงก็ช่วยน้องเขาทำงานดี ๆ ล่ะ”
“เออ”
‘เอ๊ะ ไม่ใช่ว่าเธอต้องทำงานคนเดียวเหรอ ทำไมจู่ๆ เจ้าป่าถึงฝากฝังเธอไว้กับคนหน้าดุนี่ด้วยล่ะ’
“ฉันทำคนเดียวได้ค่ะ พี่ไปธุระกับเพื่อนได้เลย” ดอกรักบอกอย่างใจดีเพราะถ้าให้ทำงานกับพยัคฆ์สู้ให้เธอทำคนเดียวยังดีเสียกว่า
“ฉันบอกว่ามีธุระเหรอ” เสียงเข้มถามขึ้นพร้อมกับตวัดสายตามาทางเธอ
“ก็...เปล่าค่ะ”
“ปกติเธอกลับบ้านยังไง" คนที่บอกว่ามีธุระถามเธอขณะที่สองมือก็พับเก็บแลปท็อปราคาแพงไปด้วย
“รถเมล์ค่ะ"
“กว่าจะเสร็จงานไม่ใช่รถจะหมดก่อนเหรอ"
“ไม่หรอกค่ะ รถมีถึงสี่ทุ่มแหนะ"
“งั้นหลังจากเสร็จงานก็ให้ไอ้เสือไปส่งแล้วกัน" ทั้งที่เธอตอบไปแล้วแต่เหมือนว่าคำพูดของเธอจะไม่เข้าหูชายนามว่าเจ้าป่าเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรค่ะ ๆ” ดอกรักโบกมือเป็นพัลวันปฏิเสธความหวังดี แต่เหมือนการปฏิเสธของเธอจะเรียกปฏิกิริยาของชายทั้งสี่ได้แตกต่างกัน
อัศวินยืนยิ้มมุมปาก ส่วนเจ้าป่าและดราก้อนแอบขำคิกคัก ๆ พลางเหลือบไปทางด้านพยัคฆ์ที่กำลังตีหน้ายุ่ง
“มึงไปส่งน้องเขาด้วยล่ะ” ดราก้อนพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปเป็นคนสุดท้าย ปล่อยให้ดอกรักหน้าเหวอทั้งที่เธอปฏิเสธไปสองรอบแล้ว
อะไรกันผู้ชายพวกนี้ไม่ฟังสิ่งที่เธอพูดสักนิด...
ผ่านเกือบหนึ่งชั่วโมงทั้งสองคนก็ทำงานที่เหลือเสร็จสิ้น ดอกรักขอตัวกลับก่อนอย่างแนบเนียน แต่ไม่ทันที่ขาเล็กจะได้ก้าวหนีก็ถูกมือใหญ่ของอีกคนจับไว้ก่อน
“คะ ?”
“มานี่” ร่างเล็กถูกลากออกไปตามแรงคนตัวโตกว่า แม้จะพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากการกอบกุมทว่ามันทำได้ไม่ง่ายเลย
“ดะ...เดี๋ยว”
ตุบ !
ทั้งร่างถูกดันให้ขึ้นไปนั่งบนรถสปอตคันหรูที่คาดว่าทั้งชาตินี้ดอกรักก็คงไม่มีปัญญาซื้อ
“เธอพักอยู่ที่ไหน”
“จอดให้ฉันกลับเองก็ได้นะคะ” ทันทีที่พูดจบประโยคเธอก็ได้รับสายตาดุ ๆ ทำเอาดอกรักจำต้องกลืนคำที่เหลือลงท้องไปอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะยอมบอกทางกลับหอพักตัวเองให้เสือร้าย
“เอ่อ...ไปทางนั้นค่ะ”
รถสปอร์ตคันสวยแล่นไปตามทางที่เธอบอกและไม่นานก็ถึงหอพักสภาพเก่าแก่ที่เธอพักอาศัยอยู่
“ถึงแล้วค่ะ” เสียงหวานบอกคนที่นั่งอยู่ข้างกันเพราะเมื่อรถยนต์คันสวยจอดอยู่หน้าหอนานแล้วแต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะปลดล็อกประตูให้เธอลงเสียที เพราะตาคมมัวแต่จ้องมองหอพักของเธออยู่อย่างนั้น และดูจากสายตานั่น เขาต้องกำลังคิดอยู่แน่ ๆ ว่า เธออยู่ที่นี่ไปได้ยังไง
ไม่รู้เพราะความไม่พอใจหรืออับอายทำให้ทันทีที่พยัคฆ์ปลดล็อกประตูดอกรักก็ลงจากรถทันทีโดยลืมกล่าวขอบคุณไปเลย
บ้าจริง !
หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วดอกรักที่กำลังทบทวนบทเรียนอยู่แต่เธอกลับไม่มีสมาธิเลยสักนิด เพราะเธอมัวแต่สู้รบตบตีกับความคิดของตัวเองจากเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“หรือฉันควรจะทักไปขอบคุณดีนะ”
“ไม่สิ ก็เขาอยากมาส่งเองนี่นา”
“แต่ โอ๊ย ไม่รู้แล้ว”
ดอกรักพึมพำกับตัวเองอยู่นานก่อนที่เธอตัดสินใจได้ นิ้วเรียวกดเข้าไปในไลน์กลุ่มทำงาน ก่อนจะเลื่อนหาคอนแทรคของพยัคฆ์
‘ขอบคุณที่มาส่งนะคะ’
เมื่อส่งข้อความไปแล้วเธอก็รีบคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ทันที
ดอกรักกลับมาตั้งใจอ่านเลคเชอร์เพื่อทบทวนบทเรียนวันนี้ และตอนที่กำลังจะเข้านอนเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอนึกว่าจะเป็นเพื่อนสักคน แต่เมื่อกดเข้าไปดูกลับเป็นแจ้งเตือนจากพยัคฆ์
‘อื้อ ฝันดี’
ข้อความตอบกลับเกินความคาดหมายของเธอไปมาก
เขามีมนุษย์สัมพันธ์เหมือนกันนี่ จากเรื่องเมื่อวันก่อนนึกว่าจะเป็นพวกไม่สนโลก สงสัยเธอต้องมองเขาใหม่เสียแล้ว
ดอกรักยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะส่งสติกเกอร์ฝันดีคืนกลับไป