บทที่ 1 พบกันครั้งแรก

1661 Words
ห้าปีก่อน ดอกรักกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งที่ค่าเทอมสูงลิ่ว ที่เธอสามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้ไม่ใช่เพราะบ้านรวยเฉกเช่นนักศึกษาคนอื่น แต่เป็นเพราะทุนการศึกษาที่สอบชิงมาได้ต่างหาก ดอกรักอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่มัธยมต้นเพราะพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนที่ฉันยังเรียนอยู่แค่มัธยมศึกษาปีที่สอง และไม่มีญาติคนไหนมารับเลี้ยงทำให้เธอต้องไปอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนจะออกมาใช้ชีวิตคนเดียวตอนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แม้พ่อแม่จะทิ้งเงินประกันชีวิตไว้ให้ แต่มันไม่ได้มากพอที่จะทำให้เธอสบายไปทั้งชาติ ดังนั้นดอกรักจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อหาเงินใช้จ่ายในแต่ละวันโดยเก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้แค่ยามคับขัน “รัก ทางนี้” แขนเล็กโบกมือให้เพื่อนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีกิจกรรมให้คนในรุ่นทำก่อนเปิดเทอมทำให้ดอกรักได้ทำความรู้จักเพื่อนอยู่บ้าง และแน่นอนว่าเพื่อนคนนี้ก็เป็นเด็กทุนไม่ต่างจากเธอ เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเอกชนราคาแพงมากทำให้คนส่วนใหญ่ที่ศึกษาอยู่คือลูกหลานของคนที่มีเงิน และคนเหล่านั้นมักจะมองพวกเธอเป็นสิ่งแปลกปลอม จะมีก็แต่มาลีวัลย์เพื่อนอีกคนในกลุ่มที่มาคบกับพวกเธอ “ไงจ๊ะ” มาลีวัลย์เอ่ยทักคนแรก “เกือบไม่ทันรถเมล์” ดอกรักบ่นเสียงอุบอิบ “บอกแล้วให้ฉันไปรับก็สิ้นเรื่อง” “คอนโด ฯ เธออยู่อีกทางนี่จะย้อนไปย้อนมาทำไม แค่นี้สบายมาก” “จ้า แม่คนเก่ง” “แต่เอ๊ะ...วิชานี้เธอไม่ได้เรียนเซคเดียวกันกับพวกฉันนี่” พิกุลที่นั่งอยู่ข้างกันเอ่ยขึ้น “ก็ใช่น่ะสิ เฮ้อ” ร่างเล็กถอนหายใจเสียงดังเพราะวิชาที่พูดถึงกันอยู่นี้คือวิชาเรียนรวม แล้วเธอดันลงไม่ได้เซคเดียวกับเพื่อนทำให้ต้องไปเรียนคนเดียว “เอาน่า เผื่อได้เพื่อนเพิ่ม” มาลีวัลย์ปลอบใจ “นอกจากเธอก็ไม่น่ามีใครมาคบกับพวกฉันแล้วนะ” “จริง” ดอกรักเอ่ยสมทบพิกุลอย่างเห็นด้วย ก่อนที่เราจะแยกย้ายเข้าห้องเรียน ขาเรียวมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนก่อนถึงเวลาสอนประมาณห้านาที ดอกรักเลือกนั่งเก้าอี้ชิดผนังเพราะไม่รู้จักใคร และดูท่าก็ไม่มีใครอยากรู้จักเธอเช่นเดียวกัน ก่อนจะมีชายร่างใหญ่สี่คนเดินมานั่งแถวหลังถัดจากเธอทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากนัก ไม่นานอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาสอน ในคาบแรกยังไม่ได้เข้าสู่เนื้อหาวิชา แต่ถึงอย่างนั้นอาจารย์ก็มอบหมายงานกลุ่มให้กับนักศึกษาในชั้นเรียน และมันคือสิ่งที่ดอกรักไม่ต้องการมากที่สุด “นี่เธอน่ะ” “คะ ?” “มีกลุ่มหรือยัง” “เอ่อ...ยังค่ะ” “โอเค กูหาคนเข้ากลุ่มได้ครบละ” เสียงทุ้มหันไปบอกเพื่อนทั้งสามของตัวเอง ดอกรักมองตามสายตาชายคนนั้นก่อนจะสบเข้ากับดวงตาคมกริบราวกับพวกนักล่าของชายคนที่นั่งอยู่ไกลสุด “ถ้านักศึกษาคนไหนได้คนครบแล้วเอาชื่อมาส่งและกลับได้เลยครับ” เสียงอาจารย์ดังขึ้นจากหน้าห้อง “เอาชื่อเธอมา จะได้รีบกลับ” “อ่า ค่ะ” มือเล็กหยิบปากกาที่อีกฝ่ายส่งมาก่อนจะเขียนชื่อตัวเองลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะรีบเอารายชื่อไปส่งให้อาจารย์เพื่อจับฉลากเลือกหัวข้อรายงานและแยกย้ายกันไป แต่ไม่รู้ทำไมดอกรักถึงรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา... “มาแล้วนั่นไง” พิกุลโบกมือให้ดอกรักมาที่โต๊ะตัวเดิม “นั่นมัน !” มาลีวัลย์ชี้นิ้วไปทางด้านหลังของเธอที่มีชายหนุ่มหน้าตาโดดเด่นเดินตามมา นอกจากนี้ยังมีสาว ๆ หลายคนที่มาเดินอยู่บริเวณนี้หันมองมายังชายทั้งสี่ ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมกลุ่มที่เธอเพิ่งจับพลัดจับผลูไปร่วมด้วย นี่เธอได้ทำงานกับกลุ่มหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยหรือเนี่ย “เลิกนานแล้วเหรอ” ดอกรักถามเพื่อนสองคนที่นั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน นี่เธอเรียนกับกลุ่มนี้เหรอ” “อ่าฮะ ได้ทำงานกลุ่มเดียวกันด้วย” ดวงตาคู่สวยมองตามนิ้วของมาลีวัลย์ก่อนจะหันกลับมาตอบ “พระเจ้า !” “อะไรของเธอเนี่ย จะเสียงดังเพื่อ” พิกุลปรามเมื่อมาลีวัลย์เอาแสดงท่าทางตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว “นี่เธอไม่รู้เหรอว่าพวกเขาคือใคร” “ใครอ่ะ” “เธอก็ไม่รู้ ?” ใบหน้าสวยของเพื่อนรักแสดงออกว่าแปลกใจสุด ๆ ที่ดอกรักกับพิกุลไม่รู้เรื่อง ก็แน่ล่ะเด็กทุนอย่างพวกเธอต้องเอาเวลาไปร่วมงานกิจกรรม ไหนจะงานจิตสาธารณะที่ต้องเก็บคะแนน และเรื่องผลการเรียนอีก จะเอาเวลาที่ไหนไปตามเรื่องตามกระแสในมหาวิทยาลัย “เฮ้อ ไม่อยากจะเชื่อ” มาลีวีลย์พึมพำกับตัวเองก่อนจะหันมาเล่าเรื่องให้ฟังอย่างจริงจัง “ฟังนะ กลุ่มคนที่เดินตามหลังมาน่ะคือหนุ่มหล่อสุดฮอต ทั้งหล่อทั้งรวยแล้วยังเรียนเก่งอีกต่างหาก เรียกได้ว่าตัวท็อปสุดๆ แค่นั้นยังไม่พอ ฉันได้ยินมาว่าคนพวกนี้ตัวพ่อเรื่องความเจ้าชู้ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าด้วย” “เดี๋ยวนะ” มาลีวัลย์เล่าเรื่องที่ตัวเองรู้อย่างออกรส และเป็นพิกุลที่ฟังอยู่นานจะเอ่ยขัด “อะไรยะ” “เธอก็เพิ่งเข้ามาเรียนแล้วรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง” “ใครเขาก็รู้กันทั้งนั้น มีแต่พวกเธอสองคนนั่นแหละที่ไม่รู้” “แสดงว่าพวกนั้นคือรุ่นพี่สินะ” “ใช่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ปีสามมั้ง” “เดี๋ยวนะ” ถึงคราวดอกรักเอ่ยขัดบ้าง ทำเอาคนที่กำลังพูดแว้ดกลับเสียงดัง “อะไรอีก !” “รุ่นพี่เหรอ แล้วทำไมมาเรียนวิชาเดียวกับเราล่ะ” “ไม่รู้สิ เขาเพิ่งมาลงมั้ง” มาลีวัลย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ดอกรักคิดย้อนไปถึงตอนที่อยู่บนห้องเรียน ถึงว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงได้แต่งตัวไม่สนกฎมหาวิทยาลัยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นก็เอามาดูเรื่องรุ่นการศึกษาไม่ได้หรอก เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้อิสระในการแต่งกายมากฉะนั้นคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเรียนปีไหนก็แต่งตัวตามสไตล์ของตัวเองทั้งนั้น จะยกเว้นก็แต่เธอนี่แหละที่เรียกได้ว่าทำตามกฎทุกข้อแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งสามพูดคุยกันต่อสักพักก่อนที่ดอกรักกับพิกุลจะขอตัวออกไปทำงานพิเศษ แต่ในระหว่างเดินทางโทรศัพท์มือถือตกรุ่นของเธอก็ส่งเสียงแจ้งเตือน “เพิ่งจะแยกกันแท้ ๆ ยัยมาร์เหงาอะไรนักเนี่ย” เสียงหวานบ่นพึมพำเพราะคิดว่าเพื่อนสนิทส่งข้อความตัดพ้อเหมือนอย่างที่ชอบทำ ‘ว่างกันวันไหน’ ทว่าไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะแจ้งเตือนที่แสดงคือช่องสนทนากลุ่มใหม่ที่ประกอบไปด้วยสี่หนุ่มฮอตและเธอ “ฉันว่างแค่วันพฤหัสตอนเย็นค่ะ” ดอกรักตอบกลับอย่างรวดเร็ว ‘งั้นนัดทำงานวันพฤหัสนี้เลยแล้วกัน โอเคไหม’ “โอเคค่ะ” ‘พวกมึงมาตอบด้วย’ คนที่ชื่อเจ้าป่าสรุปเสร็จสรรพพร้อมแท็กรายชื่อเพื่อนของเขาให้มาตอบ ‘เออ ๆ’ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเพียงดราก้อนที่ส่งข้อความกลับมา ดอกรักมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่สักพักเมื่อไม่เห็นความเคลื่อนไหวจึงเก็บมันลงในกระเป๋าผ้าใบเก่ง ก่อนที่ไม่นานรถเมล์ก็พาเธอมาถึงร้านอาหารที่ทำงานอยู่ ... “รัก รับออเดอร์โต๊ะสิบ” “ค่า” “รับอะไรดี...คะ” เสียงหวานชะงักไปนิดหน่อยเพราะลูกค้าที่มาทานอาหารตรงหน้าคือพยัคฆ์ที่เพิ่งเรียนด้วยกันวันนี้ และที่เธอรู้จักชื่อเขาไม่ใช่เพราะว่าอีกฝ่ายแนะนำตัวแต่เป็นเรื่องที่มาลีวัลย์เล่าให้ฟังต่างหาก อัศวิน เปรียบเสมือนม้าชั้นดีที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ขึ้นชื่อเรื่องความร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ไม่เคยผิดพลาด และไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ไม่เคยปล่อยให้หลุดมือ นอกจากนี้แม้จะเป็นเพียงนักศึกษาแต่กลับเป็นเจ้าของผับชั้นดีด้วย เจ้าป่า คนที่ควบคุมทุกอย่างได้อย่างใจหวังสมกับชื่อของตัวเองที่เหนือกว่าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญาหรือความต้องการ ในกลุ่มเจ้าป่าดูเป็นคนเข้าถึงง่ายที่สุด แต่ใครจะรู้นั้นเป็นเพียงภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นให้เข้ากับตำแหน่งนายกสโมสรนักศึกษาที่ตัวเองเป็นอยู่เท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วเจ้าป่าก็ร้ายกาจไม่แพ้เพื่อนในกลุ่มเลย ดราก้อน ชายหนุ่มลูกครึ่งที่ดูจะคารมดีที่สุดในกลุ่ม อีกทั้งยังเป็นคนที่มีสาว ๆ พัวพันมากที่สุด แต่เขาแค่ควงไปวัน ๆ พอเบื่อก็เปลี่ยนไม่คิดจริงจังกับใครทั้งนั้น และแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้ ภายใต้หน้ากากคารมดีเขาก็ร้ายกาจไม่ต่างจากเพื่อนในกลุ่มสักนิด และพยัคฆ์ ที่หลายคนเล่าขานว่าเขาคือเสือร้าย เพราะนอกจากหน้าตาของพยัคฆ์จะดูร้ายกาจแล้วนิสัยก็ไม่ต่างกัน ทุกคนต่างบอกว่าเขาคือคนที่เย่อหยิ่งที่สุดในกลุ่ม เพราะความเพียบพร้อมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเลยไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ใคร และน่าจะจริงอย่างที่มาลีวัลย์ว่าเพราะตอนนี้ดวงตานักล่ากำลังจ้องมาที่เธอราวกับจะกลืนลงท้องเลยน่ะสิ !!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD