“พี่เสือคะ”
“ว่า ?”
“คือ ตั้งแต่พรุ่งนี้รักจะไปทำงานที่ร้านใหม่นะคะ” เมื่อขึ้นมาบนรถดอกรักก็พูดเรื่องทำงานพิเศษให้พยัคฆ์ฟัง แม้เราจะยังไม่ได้มีสถานะเป็นคนคบกัน แต่สำหรับดอกรักคิดว่ามันเหมือนพวกคนพิเศษล่ะมั้ง
“ร้านอะไร”
“เอ่อ…แบบว่า ร้านที่เพื่อนรักทำงานอยู่มีคนออกกะทันหัน เขาเลยอยากให้รักไปทำแทน แล้วเงินก็ดีด้วย”
“ร้าน ?” เสียงทุ้มเข้มขึ้นเมื่ออีกคนไม่ยอมตอบคำถามมาตามตรง
“ร้านเหล้าค่ะ”
“ไม่ต้องทำ”
“ไม่ได้นะคะ รักรับปากเพื่อนไปแล้ว”
“เธออยากได้เงินกี่บาท”
“คะ?”
“มาเอาที่ฉันไม่ต้องไปนั่งให้คนอื่นเขาจับเขาคลำ” ทันทีที่พยัคฆ์พูดจบก็ราวกับมีเข็มแหลมคมทิ่มแทงเข้าที่หัวใจทันที เธอไม่ได้จะไปทำงานแบบนั้นเสียหน่อย อีกอย่างงานที่ทำก็สุจริตไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แล้วเธอก็ต้องเก็บเงินไว้เผื่ออนาคตด้วย
“ไม่ค่ะ อีกอย่างรักไม่ได้มาขอ แค่มาบอกเฉย ๆ” ดอกรักพูดขึ้นอย่างถือดี เพราะเธอตกปากรับคำเพื่อนที่เป็นเด็กทุนด้วยกันไปแล้ว อีกอย่างไม่ใช่แค่เธอเพราะพิกุลก็ถูกชวนไปทำด้วยเหมือนกัน
จากนั้นบนรถก็มีแต่ความเงียบงัน แม้พยัคฆ์จะไม่ได้พูดอะไรแต่ท่าทางของเขาราวกับกำลังสะกดกั้นอารมณ์อยู่ จนกระทั่งถึงจุดหมาย
“ขอบคุณนะคะ” ดอกรักหันมาขอบคุณสารถีคนเดิม แม้อีกฝ่ายจะไม่ยอมหันกลับมามองก็ตาม เมื่อเห็นอีกคนเฉยชาเธอก็เอาตัวเองลงจากรถก่อนที่รถยนต์คันสวยจะขับออกไป ปล่อยให้ดอกรักมองตามหลังอยู่อย่างนั้น
…
หลังจากเรียนเสร็จดอกรักกลับมายังหอพักเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงานในค่ำคืนนี้ งานที่ดอกรักต้องทำคือการเสิร์ฟเครื่องดื่มในบาร์เหล้าแห่งหนึ่งที่เพื่อนในชมรมแนะนำให้ทำชั่วคราว เพราะเป็นงานเร่งด่วนและดอกรักกับพิกุลจะได้ค่าตอบแทนมากกว่าปกติ
ร่างบางในชุดพนักงานเสิร์ฟรัดรูปสีดำสนิท เดรสสายเดี่ยวสั้นมีความยาวถึงแค่ต้นขา ทำให้เห็นทรวดทรงชัดเจน ผิวขาวเนียนเปิดเผยแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ผมยาวถูกรัดเป็นหางม้าโชว์ต้นคอระหง ไหนจะใบหน้าน่ารักที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอย่างที่ไม่ค่อยจะได้ทำนั่นอีก
ดอกรักมองตัวเองในกระจกอย่างตะลึงเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะดูดีได้ถึงขนาดนี้
“เห็นมั้ย เธอแต่งหน้าแค่นี้ก็สวยแล้ว ทำไมไม่แต่งก็ไม่รู้” น้อยหน่าเพื่อนที่ชักชวนเธอมาทำงานที่นี่พูดขึ้นหลังจากแต่งตัวให้ดอกรักแล้ว
“ฉันแต่งไม่เป็นเหรอก”
“ฮึ่ย” น้อยหน่าร้องขึ้นอย่างขัดใจ เพราะรู้ดีว่าดอกรักไม่สันทัดและไม่พยายามเรื่องแบบนี้เสียเท่าไหร่ จึงเลือกหันไปอีกด้านเพื่อแต่งตัวให้พิกุลที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ดอกรักพินิจมองตัวเองในกระจกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ นิ้วเรียวชะงักเมื่อกำลังจะกดส่งภาพตัวเองไปให้พยัคฆ์
นี่ก็ผ่านไปสองวันแล้วที่ดอกรักไม่ได้คุยกับพยัคฆ์เลย ทักไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ อีกทั้งเมื่อเช้าพยัคฆ์ก็ไม่ได้มารับเธอเหมือนอย่างทุกวัน
ดอกรักไม่รู้ว่าการที่ตัวเองมาทำงานมันผิดอะไร ถึงทำให้พยัคฆ์หนีหน้ากันไปแบบนี้ ร่างบางคิดอย่างวิตกก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง
เมื่อได้เวลาเริ่มงานดอกรักก็ยกเหล้าไปเสิร์ฟตามโต๊ะต่าง ๆ อย่างที่เทรนมา และเพราะบาร์เหล้าแห่งนี้ค่อนข้างมีระดับทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่ได้ทำตัวรุ่มร่ามกับพนักงานเสิร์ฟ
ร่างบางทำงานด้วยความขยันขันแข็งแม้ชุดที่ใส่จะไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่
“ดอกรักช่วยไปเสิร์ฟที่ห้องวีไอพีชั้นสองหน่อยนะ”
“ค่ะ”
ดอกรักตอบอย่างไม่คิดอะไรแล้วรับเครื่องมือมาไว้ในมือ ก่อนจะขึ้นบันไดไปยังชั้นสองซึ่งเป็นโซนวีไอพีของร้านเหล้าแห่งนี้ ตากลมมองหมายเลขโต๊ะที่ต้องการ ขาเรียวเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มการค้า
“ขออนุญาตค่ะ” เธอเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้ามองลูกค้า มือเรียวยกเครื่องดื่มวางบนโต๊ะอย่างสุภาพ แต่ในตอนที่กำลังจะเดินออกไป ดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อคนตรงหน้าคือร่างสูงใหญ่พยัคฆ์
“พี่ !” ดอกรักอยากจะถามว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรอยู่ที่นี่ แต่ก็ต้องเงียบปากลงเมื่อได้รับสายตาดุ ๆ จากดวงตาคมเข้มนั่น
พยัคฆ์มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความหงุดหงิด เขาอยากจะจับคนตรงหน้ามาฟาดก้นแรง ๆ สักที ไอ้ร้านนี่คิดยังไงถึงเอาเศษผ้าแบบนี้มาให้พนักงานใส่
ตาคมจ้องมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะหยุดอยู่เนินหน้าอกขาวที่โผล่พ้นเนื้อผ้า จนดอกรักต้องยกถาดที่อยู่ในมือขึ้นปิดอย่างเขินอาย
“ทำงานเสร็จแล้วรอฉัน”
“แต่ว่า-” อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าเธอจะเลิกงาน แต่ไม่ทันจะได้ปฏิเสธเสียงเข้มของอีกคนก็ดังขัดขึ้นมาก่อน
“รอ”
“ค่ะ” ดอกรักพยักหน้าอย่างว่าง่ายก่อนจะค่อย ๆ เดินออกไป
แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าในการทำงานวันแรก ดอกรักต้องเดินขึ้นลงชั้นสองเป็นสิบรอบโดยไม่มีโอกาสได้เสิร์ฟให้โต๊ะอื่นเลย เพราะคนที่นั่งเด่นคนเดียวอยู่ในโซนวีไอพีเล่นเรียกหาเธอไม่หยุดหย่อน
จนถึงเวลาเลิกงาน ร่างบางเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องพักพนักงาน และเมื่อเธอเปิดประตูออกมาก็พบกับร่างสูงที่กำลังยืนพิงกำแพงสูบนิโคตินเข้าปอดอยู่ไม่ไกล
ดอกรักค่อย ๆ เดินเข้าไปหา ถึงอย่างนั้นก็เว้นระยะห่างพอสมควรเพราะเธอไม่ใคร่จะชอบกลิ่นของบุหรี่นัก
พยัคฆ์เห็นท่าทางคนตัวเล็กก็ทิ้งบุหรี่ที่เหลือก่อนจะใช้เท้าขยี้ให้ไฟมอด แล้วเดินเข้าไปหา
มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กให้เดินมายังรถยนต์ ก่อนที่ดอกรักจะถูกจับยัดเข้าไปที่นั่งข้างคนขับอย่างไม่เบามือนัก
“อ๊ะ ! พี่มาได้ไง อุบ”
ไม่ทันจะได้คำตอบปากหยักของคนที่เพิ่งตามขึ้นมาประกบลงบนริมฝีปากของเธอเสียก่อน
ริมฝีปากร้อนประกบเข้าปากบางทันทีที่ร่างสูงใหญ่แทรกตัวเข้ามานั่ง แรงบดขยี้จากจูบเร่าร้อนทำดอกรักผลักอกหนาให้ถอยห่าง แต่ไม่มีประโยชน์เพราะร่างกายสูงใหญ่ของผู้กระทำดันกอดรัดเธอแน่นกว่าเดิม
สองแขนแกร่งโอบรัดเอวบางแนบกายจนอะไร ๆ เสียดสีกันไปหมด และในจังหวะที่ปากบางเผยอรับอากาศก็เป็นโอกาสให้ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามา
สัมผัสนิ่มหยุ่นทำเอาดอกรักร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง ก่อนที่ความตกใจจะแปรเปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้
สองมือเล็กผ่อนแรงลงจนเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังลูบไล้แผ่นอกหนา ลิ้นเล็กตอบกลับอย่างเงอะงะเพราะนี่คือ จูบแรก ของเธอ
เห็นอีกคนเคลิ้มแล้วคนเจ้าเล่ห์ก็ใช้โอกาสนี้ตักตวงรสหวานจากโพรงนิ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ จนดอกรักทนไม่ไหวเมื่อเรี่ยวแรงถูกสูบออกจากร่าง ไหนจะลมหายใจติดขัดนั่นอีก
“อื้อ~” มือเล็กดันแผ่นอกหนาออกอย่างแรง ทางฝั่งคนที่กระทำการอุกอาจก็ยอมถอนริมปากออกอย่างอ้อยอิ่ง แม้จะเสียดายแต่ครั้งแรกเขาไม่ควรทำให้ลูกแกะตื่นตระหนกไปมากกว่านี้…