ตรงนี้ไม่ได้

1294 Words
“ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนจูบหรอกพราว ถอยไปห่างๆเลย” “ริวเป็นคนเดินมาใกล้พี่เองนะ แล้วอยากจูบทำไมจะจูบไม่ได้ ในเมื่อพี่เป็นของริว” พูดจบก็รีบก้มหน้ามองเท้า สมองเธอยังปกติอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงได้สั่งการให้ปากพูดอะไรแบบนี้ออกมา บ้าไปแล้วสินะ! “พูดเองนะพราว!” คิริวยิ้มมุมปาก ไม่รออะไรก้มลงทำตามที่คนตรงหน้าพูดทันที ใช่สิ เธอเป็นของเขา พี่พราวเป็นของริวคนเดียว จำได้แล้วใช่ไหม! “อื้อ” พราวนภาครางรับจูบเร่าร้อน เธอมั่นใจว่าตัวเองจูบเก่งมากนะ แต่ทำไมเด็กนี่ถึงดูเก่งกว่า ลิ้นร้อนขยับรัวเร็ว เกี่ยวลิ้นของเธอจนเธอเริ่มตามไม่ทัน จูบของเขาไม่ได้ดุดันรุนแรง แต่รวดเร็วเหมือนพยายามกระตุ้นให้รู้สึกอยากทำอะไรที่มากกว่าจูบ “อือ พอก่อนพราว! ตรงนี้ไม่ได้” คิริวผละออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้สึกว่าเริ่มคุมอารมณ์ไม่ไหว แม้จะเสียดายรสจูบของพี่พราวอยู่ แต่สถานที่มันไม่เอื้ออำนวยให้ทำต่อจากนั้น ป่านนี้คนข้างนอกตามหาเขากับเธอกันให้ขวักแล้วมั้ง “ถ้าเป็นที่อื่นได้งั้นเหรอ” เป๊าะ! “เจ็บนะ!” “คิดก่อนพูดหน่อยเหอะ!” คิริวดุคนที่ลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ เพราะฝีมือการดีดนิ้วของเขาเอง พูดไม่คิดเดี๋ยวก็เป็นแบบคืนนั้นอีก คราวนี้จะมาเฉไฉว่าตัวเองเมาแล้วจำไม่ได้ ไม่ได้แล้วนะ เพราะว่าตอนนี้ไม่ได้เมา แม้จะหน้าแดงมากก็เถอะ แต่แดงเพราะเขา ไม่ใช่เพราะเหล้าแน่นอน “อือ แล้วนี่ริวไม่ต้องกลับเข้าไปถ่ายต่อเหรอ” พราวนภาหันกลับไปแต่งหน้าอีกครั้ง เธอเผลอปล่อยให้ความต้องการครอบงำจนไม่มีสติอีกแล้ว เหล่มองคนที่กลับไปวางสีหน้าเป็นปกตินิดๆ คิริวเป็นผู้ชายที่เปลี่ยนสีหน้าได้เร็วมาก ตอนนี้เขาทำหน้านิ่งๆ นิ่งซะจนเธอเผลอมองเพลินเลย “ไม่อะ แม่งงานอะไรก็ไม่รู้ มันควรถ่ายจบตั้งนานแล้วไหม ไม่รู้ยัยนั่นขออะไรช่างภาพไว้ ถึงถ่ายไม่เสร็จสักที” ก่อนที่จะรับปากมาทำงานนี้ เขาดูรายละเอียดหมดแล้ว อ่านตั้งสามรอบ พอมาทำงานจริงๆ ไม่เห็นเหมือนที่แจ้งไว้สักนิด เทแม่งเหอะ เบื่อ! “งั้นเราไปหาอะไรกินไหม พี่หิว” พราวนภามองหน้าคิริวผ่านกระจก ในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้เธอไม่อยากอยู่คนเดียว ยังไม่อยากกลับบ้านด้วย เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เลี้ยงเป็นห่วง วันนี้คิริวทำตัวอ่อนโยน เธอจึงรู้สึกว่าอยากพึ่งพาเขา “เลี้ยง?” “ปกติก็เลี้ยงอยู่แล้วป่ะ!” “อืม งั้นจะกินให้กระเป๋าแฟ๊บเลย ให้ชวนไอ้วินไหม มันว่างนะ” คิริวมองอย่างรู้ทัน พี่พราวคงไม่อยากอยู่คนเดียวนั่นแหละ แม้จะรู้สึกแย่ที่ต้องมีวินร่วมวงมื้ออาหารครั้งนี้ด้วย แต่เขาไม่อยากเห็นเธอทำหน้าไม่สบายใจอีก “ไม่อะ พี่อยากไปกับริวแค่สองคน” ใบหน้าหล่อเหลาแอบหันหนีไปยิ้ม แบบไม่ให้คนที่ง่วนกับการแต่งหน้าเห็น พูดถูกใจเขาก็เป็นแฮะ จะทำให้รักให้หลงไปถึงไหนก็ไม่รู้ 17:50 น. เพราะออกมาจากสตูดิโอก็เย็นมากแล้ว ซ้ำยังต้องขับรถฝ่ารถติดอีก ทำให้พราวนภาขับรถมาถึงร้านอาหารที่ตกลงกันกับคิริวช้ามาก ช้าจนสามารถเดินออกไปมองพระอาทิตย์ตกดินที่ศาลาท่าน้ำได้เลย “นานแล้วที่ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้” พราวนภากางแขนทั้งสองข้าง ออกรับสายลมที่พัดเข้ากระทบตัว ตอนนี้เธอยืนอยู่บนศาลาไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างๆเธอมีผู้ชายตัวสูงยืนทอดสายตามองออกไปไกล เธอจึงหันไปมองเขาเงียบๆ อย่างไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องมอง แต่คิริวเป็นผู้ชายที่มองแล้วไม่เบื่อเลย แม้จะชอบทำหน้านิ่งๆดุๆก็เถอะ “ก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำ” คิริวหันกลับไปมองคนข้างตัว เมื่อรู้ว่าถูกมองอยู่ใบหน้าก็ร้อนฉ่าขึ้นมาซะงั้น บรรยากาศรอบตัวเขากับพี่พราวเปลี่ยนไปเยอะมากเลย เยอะจนเขาคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเธออาจจะรู้สึกกับเขาบ้างไม่มาก ก็น้อย “ก็ไม่มีคนหาเลี้ยงนี่นา จะรอขอพ่อก็อย่างที่ริวเห็น ช่วงนี้ไวท์ใช้เงินเยอะมาก ไหนจะค่าเทอมวินอีก ไม่อยากเป็นภาระใครอะ” “มาเป็นภาระริวสิ ยอมให้เป็นภาระทั้งชีวิตเลย” “เหอะ! ก่อนหน้านั้นพูดว่าอะไรนะ ให้พี่เลี้ยงใช่ไหม มาพูดอะไรตอนนี้ เข้าไปข้างในเถอะ อาหารมาแล้ว” พราวนภาเดินนำกลับไปนั่งที่โต๊ะ ยังหรอก เธอยังไม่ได้รู้สึกกับเขาขนาดนั้น แม้จะตั้งใจว่า ให้เขาเป็นคนแรกและคนเดียว แต่ระหว่างเธอกับเขานั้นยังต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาชอบเธอหรือเปล่า เขาอาจจะยังชอบวินอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้ อาหารมื้อใหญ่ที่พราวนภาตั้งใจสั่งมาเพราะอยากใช้เวลาอยู่ข้างนอกนานๆ จบลงตอนเวลาเกือบสี่สุ่ม เช็คบิลทีเข่าแทบทรุด เธอควักกระเป๋าเกือบหมื่น แต่ก็คุ้มค่าแหละ เพราะตอนนี้เธอสบายใจมาก “ให้พี่ไปส่งที่ไหน” “แล้วแต่ จะให้ไปนอนด้วยก็ได้นะ ถ้านอนคนเดียวไม่ได้” คิริวมองคนที่ตั้งใจขับรถด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าพี่พราวไม่ตอบอะไร ก็หลับตาลงอีกครั้ง กินอิ่มแล้วมันง่วงอะ มีคนขับรถให้นั่ง สบายจะตาย! “นอนโรงแรมกันไหม!” “หะ!” “ไม่รู้ดิ ไม่อยากกลับบ้านอะ” พราวนภาตามองถนนก็จริง แต่ในใจกลับอยากให้ถนนที่มุ่งไปที่บ้าน ยาวออกไปไกลแสนไกล เข้าใจไหมว่าเธอเป็นลูกของภรรยาเก่าที่ตายไปแล้วของพ่อ มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงมักจะไม่ถูกกัน แม้เธอกับน้าวิจะไม่ได้เถียงหรือตบตีกันเหมือนเคสอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้รักกันกลมกลืนขนาดนั้น เธอไม่อยากเอาปัญหาเข้าบ้าน เหมือนตอนนี้พ่อกับแม่เลี้ยงกำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ด้วย เธอไม่อยากเอาปัญหาไปเพิ่มให้คนทั้งสองอีก “ไปนอนคอนโดนี่ไหมล่ะ จะได้ไม่ต้องเสียค่าห้องอีก ที่จริงมีห้องว่างนะ ถ้าอึดอัดใจก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวก็ได้นี่” อยากจะดึงเธอเข้ามากอดชะมัด แต่เพราะพี่พราวขับรถอยู่ เขาจึงทำได้แค่พูดแล้วนั่งมองอยู่แบบนี้ รู้ว่าสภาพครอบครัวนั้นเป็นยังไง รู้ว่าพี่พราวไม่ออกมาหรอก แต่พูดเผื่อไว้ ถ้ามาได้ก็ดี เพราะห้องที่ว่างมันติดกับห้องเขาเอง หรือจะอยู่ห้องเขาเลยก็ได้ ไม่ถืออยู่แล้ว “คิดดูก่อน พี่ไปส่งริวที่คอนโดนะ อยู่ที่ไหนอะ” “ถนนxx ใกล้ๆมหาลัยนู้นอะ” “ไกลแฮะ” พราวนภาพูดแค่นั้น ก็ตั้งใจขับรถมากขึ้น อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดแหละ เธอทำได้แค่เตรียมพร้อมรับมือกับทุกเรื่องเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD