ครอบครัวเธอเป็นแบบนี้แหละ เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอกับวริษาไม่ถูกกัน มีกระทบกระทั่งกันตลอด เธอยอมรับว่าไม่ชอบที่ถูกแย่งความรักของพ่อไป พยายามแล้วที่จะยอมรับแม่ใหม่ แต่ทำไม่ได้จริงๆ ยิ่งโตขึ้น ยิ่งไม่ยอมรับ
แต่คนที่เธอเกลียดนั้นมีเพียงวริษาแค่คนเดียว เธอรักวินกับไวท์มาก เพราะถูกทิ้งไว้ที่บ้านด้วยกันตั้งแต่เด็ก เธอมีหน้าที่เลี้ยงน้อง ในขณะที่พ่อกับแม่เลี้ยงช่วยกันทำมาหากิน เธออาจจะรักแม่เลี้ยงได้สักนิด ถ้าไม่รู้ความลับของผู้หญิงคนนั้น
วริษามีชู้ ไอ้คนที่เป็นชู้ ก็คือคนที่รับหน้าที่ดูแลการส่งออกกับบัญชีนั่นแหละ เป็นข้าราชการที่อ้างตัวว่าช่วยให้การส่งออกง่ายขึ้น ทั้งที่ความจริงนั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกโดยเฉพาะ และค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้มากมายเหมือนที่ไอ้คนนั้นหลอกไปเลยสักนิด
เธอรู้เรื่องนี้เมื่อสองปีก่อน ตอนที่เข้าไปช่วยงานของพ่อและพบว่าบัญชีมันมีเงินออกมากจนดูแปลก พยายามเตือนพ่อแล้ว แต่ท่านเชื่อใจอดีตคนรักของท่านมากกว่าเธอ เธอจึงปล่อยให้ท่านเป็นควายโง่ๆให้วริษาสนตะพายต่อไป และไม่พูดเรื่องถึงเรื่องนี้อีกเลย
เธอตั้งใจเก็บเงินให้ได้มากที่สุด ทำงานหนักห่ามรุ่งหามค่ำอย่างที่คิริวค่อนขอด เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เธอคิดว่าไม่นานเธอต้องได้ใช้มันแน่ ไม่ภายในปีสองปี ก็อาจจะภายในปีนี้แหละ เธอคิดว่าต้องมีเรื่องให้ใช้เงินแน่นอน
ก๊อก! ก๊อก! ปึ่งๆ ปึ่งๆ
พราวนภาคลุมผ้าห่มแน่นขึ้น ปาดน้ำตาออกจากหน้า ไม่สนใจบาดแผลทางร่างกายที่เด่นชัดอยู่ตรงมุมปาก เสียงทุบประตูยังคงดังต่อเนื่อง รวมทั้งเสียงด่าทอของคนเป็นพ่อที่เธอเลือกปล่อยผ่าน รู้งี้นอนกับริวดีกว่า ไม่น่ากลับมาเลย ทั้งๆที่รู้ว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้
วันรุ่งขึ้น
พราวนภาตื่นสายกว่าปกติ เพราะกว่าจะนอนหลับก็เกือบเช้า ตั้งใจให้พ่อกับแม่เลี้ยงออกไปทำงานก่อน แล้วค่อยลงไปข้างล่าง เพราะขี้เกียจมีเรื่องมีราวต่อจากเมื่อคืน
วันนี้พราวนภาเลือกใส่เสื้อผ้าสบายๆ อย่างเสื้อยืดตัวใหญ่ๆ กับกางเกงยีนส์ขาสั้น ร่องรอยที่คิริวทำไว้จางๆ เริ่มหายไปทีละจุดสองจุด แต่บริเวนที่อยู่ใต้ร่มผ้านั้น ยังมีรอยแดงอยู่เต็มเลย คิดแล้วโมโห ไม่รู้จะดูดอะไรนักหนา
“พี่พราวตื่นสายจัง”
“อ่า ไวท์ไม่ได้ไปเรียนเหรอ”
พราวนภาค่อนข้างตกใจ ที่เดินผ่านห้องรับแขกแล้วโดนน้องชายคนเล็กทัก จากที่จะออกไปเลย จำต้องเดินเข้าไปหา เมื่อเห็นว่าตาของไวท์นั้นบวมช้ำ เหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ร้องไห้อีกแล้ว”
“ฮือ ขอโทษนะพี่พราว”
พราวนภายอมให้น้องชายพุ่งเข้ามากอด ลูบหลังคนอายุ 17 ปี ขึ้นลงเบาๆ ไวท์ขี้แยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มักจะอยู่ในเหตุการณ์ที่เธอปะทะกันกับแม่ของเขาเสมอ และมักจะรู้สึกผิดกับเธออยู่ตลอด ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดตัวเองเลยสักนิด เพราะแบบนั้นเธอถึงไม่เคยเกลียดน้องชายเลย และรักมากที่สุด เท่าที่หัวใจเธอจะรักเขาได้
“ขอโทษทำไม ไวท์ไม่ได้ผิด”
“แต่!”
“ก็ปกติไหม น่าจะชินได้แล้วมั้ง”
“เจ็บไหม!”
ใบหน้าที่คล้ายเธอครึ่งหนึ่ง คล้ายวริษสาครึ่งหนึ่งเงยขึ้นสบตา มือที่ใหญ่กว่าคลายจากอ้อมกอดมาลูบเบาๆตรงแก้มที่ถูกตบ เธอใช้เครื่องสำอางกลบจนมิดแล้ว แต่มุมปากที่โดนฟัดกระทบจากแรงตบ ยังคงช้ำหนักเพราะมันแตกเป็นแผล เครื่องสำอางกลบไม่ได้ มันจึงยังมองเห็นอยู่
“ลองโดนดูไหม”
“พราวอะ”
จริงๆแล้วน้องเธอทุกคนชอบเรียกชื่อเธอห้วนๆแบบนี้แหละ ไม่แปลกใจเลยทำไมคิริวชอบเรีบกพราวห้วนๆ อาจจะติดมาจากเด็กพวกนี้ก็ได้
“ทำไมไม่ไปเรียน แล้วเป็นไงเรื่องคัดตัว”
“วันหยุดนะพราว วันนี้วันเสาร์ไม่รู้เหรอ ไวท์ไม่อยากเป็นเลย เขาเรียกเงินสองแสนเลยอะ ช่วงที่ต้องฝึก”
คัดตัวทีมชาติใช่ว่าจะได้ง่ายๆ เธอรู้ดี ช่วงที่ฝึกต้องใช้เงินมากเพราะยังทำผลงานไม่ได้ สองแสนเรอะ ไม่มากไม่น้อยเลยในสภาวะที่ครอบครัวเธอเป็นหนี้ธนาคารเกือบสิบล้าน
“แม่ง! ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองก็พอ พี่จัดการเอง”
ที่เธอเกลียดวริษามากขึ้นทุกวันเพราะเรื่องนี้แหละ แม่งเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงอนาคตของไวท์เลย เธอของขึ้นมากเลยตอนนี้
“พราวมีเรื่องเยอะแล้ว ไวท์ไม่อยากรบกวน”
“รบกวนอะไร พี่เป็นพี่ อนาคตของน้องตัวเองทำเฉยไม่ลงหรอก เรื่องของพี่พี่จัดการได้ ไม่ต้องคิดมากหรอก แล้วนี่จะอุดอู้อยู่ในบ้านงี้เหรอ ไปเที่ยวกับพี่ป่ะ พี่ว่างพอดี”
พราวนภาพูดยืดยาว กำลังเบื่ออยู่ด้วย การชวนไวท์ออกไปเที่ยวน่าจะคลายความเบื่อหน่ายได้ดี เมื่อได้คำตอบจากน้องชายเป็นการพยักหน้า พราวนภาก็ไม่รอช้า คว้ามือน้องชายที่ตัวสูงเท่าตัวเองไปอย่างรวดเร็ว ไวท์ตัวโตจะเท่าวินแล้วแฮะ ซ้ำยังมีแววว่าจะโตกว่านี้อีก
พราวนภาขับรถมาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้มหาวิทยาลัยของวินณภัทร ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ว่าอาจจะบังเอิญเจอใครสักคนแถวนี้ แต่เจอก็ดี ไม่เจอก็แล้วไป ก็แค่คนที่เผลอมีอะไรกันแค่คืนเดียว ทำไมเธอต้องดิ้นรนมาเจอด้วย (?)
“พราวนั่นพี่วินนี่!”
พราวนภาหันไปมองตามทิศทางที่นิ้วมือของไวท์ชี้ไป เออ! นั่นวินจริงๆ กำลังควงคู่มากับผู้หญิงวัยเดียวกัน หน้าตาน่ารักดี แต่แปลกที่เธอไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะนอยด์มาก แต่แปลกมากที่วันนี้รู้สึกเฉยๆ
“อย่าไปกวนเขาน่า”
พราวนภาดุน้องชายที่เตรียมตัวจะเดินไปหาวิน นี่ถ้าดึงคอเสื้อไว้ไม่ทันไวท์คงพุ่งไปถึงตัววินแล้ว ใบหน้าของน้องชายมีแววสงสัย จนเธอรีบพูดกลบเกลื่อน
“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับวินแล้ว ก็รักเหมือนที่รักไวท์นั่นแหละ”
พราวนภาอาจจะรู้สึกแบบนี้มาตั้งแต่ต้น ช่วงนั้นเธอกำลังสับสนเพราะเลิกกับพี่อาร์มมาหมาดๆ เป็นช่วงที่วินเริ่มโตและดูแลเธอมากกว่าที่ผ่านมา เพราะน้องมันไม่อยากให้เธอเสียใจเรื่องพี่อาร์ม เธอเลยคิดว่านั่นคือความรัก ตอนนี้อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้
“หรา!”
“ไม่ต้องหรา เดี๋ยวพี่ฟาดเลย กับพี่ทำไมเรียกชื่อห้วนๆหะ! นิสัยไม่น่ารักเลย”
พราวนภากอดคอน้องชายเดินหนีไปอีกทาง เพราะไม่อยากเจอวินกับคนรักของเขา ไม่อยากให้วินสังเกตเห็นว่าเธอปากแตก เดี๋ยวน้องมันเป็นห่วงไม่เป็นอันเรียน
“พราว! พี่พราว! ไวท์”
วินณภัทรเอ่ยรั้งคนทั้งสองที่กำลังจะเลี้ยวเข้าไปอีกมุมของห้างไว้ได้ทัน จูงมือคนรักเดินเข้าไปหา ด้วยท่าทางกระอักกระอวนเมื่อคิดถึงคนที่มาด้วยกัน
แม่ง! ไอ้ริวตายห่าแน่งานนี้