บทที่6/2

925 Words
พระอาทิตย์เกือบจะตกดินไปแล้ว กว่าที่คิมห์จะมายืนอยู่หน้าประตูรั้วเหล็กดัดสีขาวหน้าบ้านของขวัญข้าว ชายหนุ่มมองเข้าไปที่ตัวบ้านชั้นเดียวหลังเล็กของเพื่อนสนิท บ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเวลานี้ดูทะมึนเพราะเงาไม้และความทะมึนของช่วงเวลาพลบ ประตูหน้าต่างปิดสนิทแม้แต่ไฟด้านหน้าและด้านในก็ไม่เปิดจึงทำให้บ้านดูเงียบและวังเวงสิ้นดีในความคิดของชายหนุ่ม แต่เขามั่นใจขวัญข้าวจะต้องอยู่ด้านใน เธอไม่ใช่คนชอบออกไปเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงต่างๆ และยิ่งมีเรื่องกลัดกลุ้มเธอยิ่งชอบเก็บตัวเงียบอยู่กับบ้านมากกว่า ไม่ต่างกับตอนที่อกหักจากพีรัชใหม่ๆ เขาเองเป็นคนชวนเธอออกไปเปิดหูเปิดตา ตามคลับตามบาร์ แต่ถูกขวัญข้าวปฏิเสธ เธอใช้เวลาอยู่กับบ้าน พรวนดิน ปลูกต้นไม้ ปัดกวาด เช็ดถูบ้านไปเรื่อยๆ เล่นเอาบ้านเธอในตอนนั้นสะอาดเอี่ยมไม่มีแม้แต่ฝุ่นผงสักนิดเดียว ซึ่งก็เป็นการอกหักที่มีประโยชน์อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว คิมห์กดกริ่งสัญญาณใกล้มือ สายตาก็มองเข้าไปรอดูความเคลื่อนไหวด้านใน เมื่อดูเหมือนไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าคนข้างในจะออกมาเปิดประตูรับเขา ชายหนุ่มจึงกดกริ่งอีกครั้ง เสียงติ๊งต่องยังดังสะท้อนกลับออกมาให้เขาได้ยินแว่วๆ บอกให้รู้ว่ามันยังทำงานได้อย่างดี แต่เขาก็ไม่กดครั้งต่อไปเมื่อรออยู่ครู่หนึ่งขวัญข้าวก็ยังไม่ออกมาเปิดประตูให้เขา ชายหนุ่มตัดสินใจโทรศัพท์เข้าไป สัญญาณเรียกยาว ดังอยู่เรื่อยๆ จนตัดไปเอง ตอนนี้เขาเริ่มใจไม่ดี คิดเป็นกังวลนึกห่วงเธอขึ้นมาเสียแล้ว คำพูดที่เธอเผลอพูดออกมายังจำได้แม่น ‘ข้าวไม่ได้เต็มใจ ข้าวถูกข่มขืน เขาข่มเหงข้าว ข้าวถูกข่มขืน’ “ข้าวอยู่ไหม เปิดประตูให้ที ข้าว” คิมห์ตะโกนสุดเสียง การที่ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งถูกข่มขืน มันช่างเป็นเคราะห์กรรมที่หนักหนาและร้ายแรงไม่ใช่น้อย ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอย่างถูกครรลองเช่นขวัญข้าวต้องร้าวรานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างมาก และอาจมากถึงขั้นคิดทำอัตวินิบาตกรรม “ข้าว ไม่ออกมาผมปีนเข้าไปนะ ข้าว” คิมห์เตรียมพร้อมสำหรับการโหนตัวข้ามประตูรั้วเหล็กดัด “ทำอะไรพี่ชาย” เสียงร้องถามขึงขังด้านหลัง พร้อมมือคล้ำเส้นโลหิตปูดข้างหนึ่งวางลงใกล้มือของคิมห์ที่จับอยู่บนขอบประตูเหล็กดัด คนถูกถามหันขวับไปมองหน้าเจ้าของมือเจ้าของเสียงทันที เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยยามเขามาหาขวัญข้าว “อ้อ โด่ง ข้าวอยู่ไหมทำไมเงียบอย่างนี้” เขาแกล้งถามแก้เก้อ เพราะการกระทำของเขาที่คิดจะปีนเข้าไปนั้นถือเป็นการบุกรุกผิดกฎหมายบ้านเมือง โด่งทำหน้ายุ่งยาก แล้วฉีกยิ้มแห้งๆ ให้คิมห์ ก่อนพยักหน้าช้าๆ “คิดว่าอยู่พี่ แต่อาจไม่อยู่คนเดียว พี่อย่ากวนเขาเลย” “ไม่อยู่คนเดียว” คิมห์ทวนคำงุนงง ก่อนมองตาโด่งอย่างคาดคั้น เขารู้จากปากขวัญข้าวว่าเด็กหนุ่มคนนี้นิสัยดี แม้จะขี้เล่นแต่ไม่ใช่พวกปากหอยปากปูชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น “ก็อยู่กับคนที่เป็นข่าวนะพี่ ผมเห็นเขามาตั้งแต่ตอนสายๆ แล้ว” โด่งมองกวาดสายตาไปทั่ว ทั้งในรั้วบ้านและด้านนอก “เอ...ไม่เห็นรถ หรือเขาออกไปข้างนอกกัน” คิ้วได้รูปของคิมห์ขมวดจนผิดรูป นายอาติณณ์พี่ชายของอินทุอรมาหาขวัญข้าวที่บ้านนี่หรือ ถ้าเป็นอย่างที่โด่งบอก เขามาตอนสายๆ ก็คงมาเพราะเรื่องข่าวซุบซิบในหนังสือพิมพ์ “นายแน่ใจหรือว่าใช่เขา” “แน่ใจสิพี่ วันก่อนที่เขามาส่งกันผมก็เคยเห็นจำแม่น หล่อสมกับพี่ข้าวดีนะพี่ อ่านข่าวรู้ว่ารวยเสียด้วย พี่ข้าวโชคดีไปเลยได้แฟนทั้งหล่อและรวย แต่ไม่ดีตรงที่มันเป็นข่าวแบบนี้พวกปากหอยปากปูมันชอบคิดไปในทางอกุศล พูดกันจนพี่ข้าวไม่เหลือชิ้นดีเลย คนเห็นกันมาตั้งนานไม่น่าเอาไปพูดให้เสียหายแบบนั้น” โด่งปิดท้ายประโยคด้วยเสียงถอนหายใจเหนื่อยหน่าย นึกเห็นใจขวัญข้าวอยู่ในที มือที่กำขอบประตูรั้วเหล็กดัดของคิมห์กำแน่นโดยเขาไม่รู้ตัว และเขายิ่งแน่ใจว่าขวัญต้องอยู่ในบ้านแน่นอน ไม่คิดว่าจะออกไปข้างนอกกับนายอาติณณ์ตามที่เด็กหนุ่มสันนิษฐานแต่อย่างใด “พี่กลับก่อน ฝากนายช่วยดูๆ ด้วยก็แล้วกัน ปากคนมันน่ากลัวกว่าปากกาเยอะ” “ครับ ผมแวะผ่านมาดูพี่ข้าวเสมอๆ ตั้งแต่ยายของแกเสียไป ไม่ต้องห่วงนะครับผมรักพี่ข้าว เหมือนพี่สาวคนหนึ่งของผม” โด่งยิ้มกว้าง มอบความมั่นใจให้คิมห์ ก่อนจะมองตามเมื่อเขาก้าวขึ้นรถ แต่ยังไม่ได้ขับออก คิมห์ก้าวเข้ามานั่งในรถยนต์ของตนเอง พร้อมกดส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ไปหาขวัญข้าว ถึงแม้เธอไม่รับโทรศัพท์เขา แต่ข้อความเธอต้องเปิดอ่าน ผมเป็นกำลังให้ข้าวเสมอ มีอะไรให้ช่วยโทรหาผมได้ตลอดเวลา...มดแดงตัวเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD