บทที่5/1

2315 Words
เมื่อนึกถึงอินทุอร สายตาที่มองอาติณณ์อย่างชื่นชมก็เปลี่ยนไป ขวัญข้าวชักมือกลับแล้วถอยหนีอย่างรวดเร็ว จนนามบัตรที่เขาวางให้ในมือร่วงลงบนพื้น อาติณณ์หลุบสายตามองนามบัตร แล้วช้อนสายตาขึ้นมองเธออย่างงุนงง แต่เขาไม่ทันที่จะได้พูดอะไร เสียงห้ามล้อของรถยนต์ก็ดังขึ้นหน้าบ้าน และคนที่ขวัญข้าวกำลังนึกถึงก็ลงจากที่นั่งด้านหน้าคู่คนขับ เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว หน้าตาถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเดินใกล้เข้ามา “พี่ติณณ์มาอยู่ที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่าข่าวซุบซิบพวกนั้นเป็นเรื่องจริง” น้ำเสียงเธอเกรี้ยวกราดเมื่อถามพี่ชาย แต่สายตาที่ดูดุดันนั้นจ้องขวัญข้าว “คนอย่างพี่ติณณ์น่ะหรือจะมองคนอย่างเธอ มันเป็นแผนจับพี่ชายฉันใช่ไหมขวัญข้าว” “น้องอ่อน” อาติณณ์ทำเสียงปรามน้องสาว แล้วหันมามองหญิงสาวข้างๆ อย่างเห็นใจ จึงได้เห็นว่าดวงตาของเธอเป็นประกายเริงโรจน์อย่างโกรธจัด ก่อนเธอจะพรั่งพรูคำพูดออกมา “แผนการเลวร้ายของใครกันแน่ อินทุอร” อาติณณ์หันมองหน้าคนพูดและคนถูกถามอย่างแปลกใจ อินทุอรหน้าสลดลงเล็กน้อย ก่อนรีบสลายสีหน้าแล้วเถียงกลับไป “แผนของใครกันละ ผิดหวังจากพี่พี เลยคิดจะจับพี่ชายฉันแทน ชอบนักใช่ไหมผู้ชายรวยๆ นายคิมห์คนเดียวไม่พอหรือไง ยังมาหลอกล่อจับพี่ชายฉันอีก” เสียงเกรี้ยวกราดของเธอดังจนคนรอบข้างแสบแก้วหู “อินทุอร จะมากไปแล้วนะ” ขวัญข้าวตวาดกลับ เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำ เสียทั้งชื่อ เสียทั้งตัว แล้วยังมาถูกคนที่คิดว่าเป็นเจ้าของแผนการด่าทอฉอดๆ หญิงสาวถลาเข้าไปหาอย่างโกรธจัด แต่ถูกท่อนแขนของอาติณณ์ยืดออกมากั้น แล้วรวบเอวเธอเอาไว้ “ปล่อยฉันนะ” ขวัญข้าวกระชากน้ำเสียงใส่ชายหนุ่มที่เข้ามาขวาง ไม่ยอมให้เธอเข้าถึงตัวน้องสาวเขา ยิ่งเธอดิ้นรนให้หลุดพ้นจากวงแขน เขาก็รัดแน่นขึ้น “พวกคุณสองคนพี่น้องรู้เห็นเป็นใจกัน มันเป็นแผนการชั่วๆ ของเธอใช่ไหมอินทุอร เธอวางยาฉันแล้วให้พี่ชายเธอข่มขืน เลวทั้งพี่ทั้งน้อง” อินทุอรกำลังอึ้งกับคำที่ขวัญข้าวตะโกนใส่หน้า พร้อมทั้งชี้นิ้วสั่นระริกมาทางเธอ ทว่าอาติณณ์ไม่ยอมรับข้อหานี้ “หยุดกล่าวหาพวกเราเสียที น้องสาวผมไม่มีวันทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้น แล้วผมก็ไม่ได้ข่มขืนคุณ คุณสมยอมเองต่างหาก” อาติณณ์เถียงออกไป แม้ในใจเขายังคลางแคลง เขาไม่ค่อยแน่ใจนักว่า อินทุอรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จริงหรือไม่ แต่เขาไม่ชอบให้ใครมาด่าทอต่อว่าน้องสาวสุดที่รักของเขา เรื่องนี้เขาคิดว่าจะค่อยถามไถ่เอาความจริงจากปากอินทุอรเอง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงคนนี้มาบังคับขู่เข็ญให้น้องสาวเขารับสารภาพ แต่เมื่อเขาพูดออกไปเช่นนั้นก็อดตำหนิตนเองไม่ได้ เขากำลังประณามผู้หญิงตรงหน้าว่าใจง่าย แล้วยิ่งเห็นดวงตาเจ็บช้ำของเธอที่จ้องตาเขาอย่างคาดไม่ถึง อาติณณ์ยิ่งสำนึกผิดว่าไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อหน้าบุคคลที่สาม แม้จะเป็นน้องสาวของเขาเองก็ตามที ขวัญข้าวรู้สึกตัวชาวาบกับคำของชายหนุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่กำลังตกลงกันด้วยดี ในเมื่อเขาพูดอย่างนี้ออกมา และคนน่าสงสัยก็อยู่ที่นี่แล้ว มีหรือเธอจะยอมให้มันผ่านไปโดยไม่ได้ความกระจ่าง เรื่องความอับอายนั้นพับไว้ได้เลย เธอไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี สะบัดตัวออกจากวงแขน แล้วตบหน้าอาติณณ์เต็มแรงจนใบหน้าเขาสะบัดตามแรงปะทะ ก่อนจะกวาดนิ้วชี้หน้าเขาและอินทุอร ที่กำลังยืนตะลึงเมื่อเห็นพี่ชายตนเองถูกตบ “เลวทั้งพี่ทั้งน้อง ฉันไม่แปลกใจเลยทำไมน้องสาวคุณถึงได้ร้ายกาจนัก เพราะมีพี่ชายแบบคุณนี่เอง คุณข่มขืนฉันยังไม่พอ ยังบอกว่าฉันให้ท่าคุณอีกหรือ” “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” อาติณณ์รีบปฏิเสธ แม้ใบหน้าเขาจะชาไปทั้งแถบ แล้วยังรู้สึกถึงรสปร่าๆ ที่มุมปาก แต่ไม่ได้โกรธหญิงสาว กลับรู้สึกสงสารและสับสนอย่างบอกไม่ถูก เขาข่มขืนเธอจริงหรือ ยิ่งเวลานั้นเขาคิดว่าตนเองถูกวางยา ทำให้มีอารมณ์ทางเพศจนต้องปลดเปลื้องให้ได้เสียในทันทีทันใด ถ้าเธอไม่ได้มีอาการเดียวกับเขาและยินยอมพร้อมใจในเวลานั้น จนเขามีข้ออ้างว่าไม่ได้ขืนใจเธอ เขาอาจข่มขืนเธอไปจริงๆ ก็ได้ ด้านอินทุอรเมื่อหายตกตะลึง ก็เลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธปรี่เข้าไปหาขวัญข้าวฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าอย่างรุนแรงที่บังอาจมาทำร้ายพี่ชายของตนเอง “น้องอ่อน อย่า” แม้อาติณณ์จะร้องห้าม และพยายามเข้ามาขวางแต่ไม่ทัน ตัวขวัญข้าวเองก็ไม่ทันตั้งตัวเพราะกำลังฟังคำแก้ตัวของอาติณณ์อยู่ หญิงสาวถึงกับหน้าหันและชาไปทั้งแถบ แต่เธอก็ตอบโต้อินทุอรในทันที เรื่องจะปล่อยให้มารังแกกันง่ายๆ นั้นเธอไม่มีวันยอม ฝ่ามือของขวัญข้าวที่หวังให้สัมผัสเต็มหน้าอินทุอรบ้าง กลับถูกหยุดไว้ด้วยมือใหญ่กว่าของผู้ชายอีกคนที่ลงจากรถซึ่งอินทุอรนั่งมา ก่อนถึงใบหน้าอย่างเฉียดฉิว “โตๆ กันแล้วทำไมต้องใช้กำลัง พูดกันดีๆ ไม่ได้หรือ” ขวัญข้าวหันขวับมามองชายผู้เข้ามาใหม่อย่างเต็มตา หน้าตาและน้ำเสียงของเขาเหมือนเธอเคยเห็นและเคยได้ยิน แต่เธอไม่มีโอกาสนึกนาน เพราะถึงแม้ว่าเธอจะถูกชายดังกล่าวหยุดและขัดขวางเอาไว้ แต่อินทุอรนั้นเป็นอิสระ และพุ่งเข้าหาเธออีกครั้งพร้อมฝ่ามือข้างเดิมสัมผัสเข้าเต็มใบหน้าเธออีกครั้ง เวลานี้เธอจึงเหมือนถูกคนพวกนี้รุม “น้องอ่อน” “คุณน้องอ่อน” อาติณณ์และคมกริชอุทานขึ้นพร้อมกัน แต่อาติณณ์เป็นฝ่ายเข้าไปจับตัวอินทุอร ดึงให้ห่างขวัญข้าว ในขณะที่คมกริชรีบปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ เพราะเหมือนเขาจับเธอไว้ให้อินทุอรทำร้ายอย่างไรอย่างนั้น ขวัญข้าวกุมแก้มที่เจ็บระบบเพราะฝีมือของอินทุอร แล้วเลื่อนนิ้วมาแตะมุมปากรับรู้ถึงรสชาติโลหิตที่ซึมออกมา เธอมองอินทุอรอย่างโกรธจัด แต่กลับใช้สายตาตัดพ้ออาติณณ์จนคนถูกมองรีบเบือนสายตาหนี เขารู้เธอโกรธ และเจ็บใจ ถึงแม้เธอไม่พูดอะไรก็รู้ว่าเธอกำลังตำหนิ ที่เขาและคมกริชยื่นมือเข้ามาทำให้เธอตกเป็นรอง ถูกอินทุอรทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อคมกริชปล่อยมือจากหญิงสาว เขาก็ขยับไปยืนข้างอาติณณ์ที่กำลังพยายามรวบไม้รวบมืออินทุอร ซึ่งยังไม่หมดฤทธิ์ โดยเขาไม่รู้เลยว่าหญิงสาวสองคนนี้มีเรื่องบาดหมางใจกันมาแต่ชาติปางไหน แต่ก็จำหน้าเธอได้ ผู้หญิงที่ดูเด่นที่สุดในงานฉลองหมั้นของอินทุอรนั่นเอง ขวัญข้าวปรายตาไปทางชายหนุ่มที่ขยับไปยืนใกล้อาติณณ์ เหมือนแบ่งฝ่ายชัดเจน พวกเขามีกันสามคนเป็นชายสองหญิงหนึ่ง แต่เธอเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่ความสนใจของเธอไม่ได้อยู่ที่จำนวนคน มันกลับอยู่ที่ใบหน้าและดวงตาของชายผู้นั้น เค้าหน้าแบบนี้เคยเห็นที่ไหน เธอมั่นใจว่าต้องเคยพบเห็นผู้ชายคนนี้มาแล้ว เขาขับรถมาให้อินทุอร ต้องรู้จักสนิทสนม หรือเกี่ยวข้องกันอย่างใดอย่างหนึ่ง อินทุอร? งานหมั้น!...ใช่แล้ว “คุณ” นิ้วชี้เธอทำหน้าที่อีกครั้ง ด้วยการชี้เขม็งไปที่ใบหน้าชายผู้นั้น แล้วเปลี่ยนสรรพนามทันที “แก...แก...เป็นคนพาฉันไปห้องนั้น แกมีส่วนเกี่ยวข้องในการวางยาฉันแน่ๆ” เสียงเธอสั่นพร่า เมื่อนึกถึงคืนวันนั้นอีกครั้ง ก่อนจะสวมบทแม่เสือสาวตะครุบเหยื่อ พุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของชายหนุ่ม อย่างไม่เกรงเลยว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วเธอเป็นหญิงสาวตัวบางๆ อาติณณ์และอินทุอรต่างมองอย่างแปลกใจ และไม่คาดคิดว่าหญิงสาวจะกล้าหาญขนาดกระชากคอเสื้อผู้ชายตัวโตกว่า แล้วพูดคาดคั้นขนาดนั้น แต่คำพูดของขวัญข้าวก็เรียกความสนใจจากอาติณณ์ได้ไม่น้อย จริงอย่างที่เธอว่า ห้องพักห้องนั้นเป็นห้องที่เจ้าภาพจองเอาไว้ ถ้าไม่มีคนเปิดประตูให้ หญิงสาวจะเข้าไปได้อย่างไร และก็เป็นไปได้ที่ว่าคมกริชมีกุญแจห้อง เพราะเขาเป็นญาติห่างๆ ที่ช่วยดูแลอินทุอรในกรุงเทพ และในคืนวันงานเขาก็เห็นอินทุอรแอบไปพูดคุยกับคมกริชในที่ลับตา หรือที่หญิงสาวพูดทั้งหมดเป็นความจริง อาติณณ์ปล่อยมือจากอินทุอร หันมาคว้าคอเสื้อคมกริชแทน “พูดความจริงมานายกริช” คมกริชหน้าตาเหลอหลาด้วยความตกใจ จากถูกหญิงสาวกระชากคอเสื้อคนเดียว เวลานี้กลับมีอาติณณ์ซึ่งเป็นเจ้านายและญาติผู้พี่กระชากหนักกว่า และถามน้ำเสียงคาดคั้นยิ่งกว่า “พูดเรื่องอะไรกัน ผมไม่เข้าใจ” เขาปฏิเสธเสียงหลง พยายามยื้อข้อมืออาติณณ์เพื่อดึงออกจากคอเสื้อที่เพิ่มความอึดอัดให้หลายเท่า แต่ไม่กล้าที่จะแตะต้องหญิงสาวแต่อย่างใด “ใช่ พี่ติณณ์จะบ้าตามมันทำไม ปล่อยคมกริชเดี๋ยวนี้นะ” อินทุอรปรี่เข้ามารั้งแขนพี่ชาย แต่อาติณณ์ผู้ที่ตามใจน้องมาตลอด กลับไม่ยอมทำตามเธอเวลานี้ ทั้งยังดุเอาเสียอีก “ถอยไปน้องอ่อน พูดมานายกริช แกวางยาเราสองคนใช่ไหม” คนถูกคาดคั้นอึ้งพูดไม่ออก ได้แต่เหลือบตามองอินทุอรเหมือนขอความเห็น ซึ่งไม่พ้นสายตาของอาติณณ์และขวัญข้าว ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของสองคนมากยิ่งขึ้น “คุณถอยไปก่อน” อาติณณ์ดึงมือขวัญข้าวออกจากคอเสื้อของคมกริชเพื่อเขาจะได้จับสะดวก แล้วหันมาเค้นความจริงจากญาติผู้น้องด้วยกำปั้นที่ห่อหุ้มด้วยความผิดหวัง เคืองโกรธ เมื่อญาติสนิทที่อุปถัมภ์กันมาแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่กลับมาทำกับเขาได้ถึงเพียงนี้ นอกจากหาคุกหาตะรางมาให้หากว่าหญิงสาวเกิดเอาเรื่องขึ้นมาแล้ว ยังทำให้เขากลายเป็นคนเลว กักขฬะในสายตาของหญิงสาวผู้เสียหาย คมกริชถึงกับล้มทั้งยืนด้วยกำปั้นลุ่นๆ ของอาติณณ์ ขวัญข้าวเองก็ยืนตะลึง ไม่คิดว่าอาติณณ์จะทำแบบนี้ ส่วนอินทุอรถึงกับกรีดร้อง แล้วถลาไปประคองคมกริช พลางต่อว่าพี่ชาย “พี่ติณณ์บ้าไปแล้วหรือ มาชกหน้าคมกริชทำไม” “แค่นี้ยังน้อยไป เราก็เหมือนกัน บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ ทั้งหมดมันเป็นแผนของน้องอ่อนใช่ไหม” “แผน?” อินทุอรรีบส่ายหน้า “แผนอะไรนะหรือ ก็แผนอุบาทว์ วางยาฉันแล้วให้พี่ชายเธอข่มขืนฉันน่ะสิ” “เฮ้ย! บอกว่าผมไม่ได้...” อาติณณ์เถียงไปไม่ได้ตลอดก็ต้องหยุดคำพูดเอาไว้ ถึงไม่ตั้งใจ มันก็เป็นไปแล้ว แทนที่จะมาโต้เถียงกับหญิงสาว เขาน่าจะเอาเวลามาไปคาดคั้นสองผู้ต้องสงสัยตัวดีนี่จะดีกว่า “ว่ายังไงอินทุอร” นานๆ ครั้งเขาจะเอ่ยชื่อจริงของน้องสาว และนั่นมันก็ทำให้อินทุอรรู้สึกถึงจุดอันตราย พี่ชายของเธอโกรธจริงๆ แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกเธอแบบนี้ และคงไม่ชกคมกริชเสียเลือดกบปาก แต่สิ่งที่อินทุอรยังงุนงงและไม่เข้าใจ คือสิ่งที่ขวัญข้าวพูด และพี่ชายของเธอก็มาคาดคั้นเอากับเธอและคมกริช “น้องอ่อนไม่รู้เรื่องที่ขวัญข้าวพูด” “โกหก!” ขวัญข้าวก้าวมายืนเคียงอาติณณ์ มองอินทุอรอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร เธอหึงพี่พีฉันรู้ ยิ่งในคืนนั้นเขาให้ความสนใจฉันมาก เธอยิ่งหึงหวง เธอถึงได้ใช้แผนอุบาทว์กับฉัน ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันกินน้ำส้มเข้าไปแล้วจะมึนเมาได้ แล้วการที่ผู้ชายคนนี้เดินมาชนจนน้ำหกรดชุดและอาสาพาไปล้างคราบสกปรกในห้องนั้น มันก็ไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่ๆ” “ไม่จริง ไม่ใช่ ถึงฉันจะไม่เคยชอบขี้หน้าเธอ แต่ฉันรู้จักพี่พีดี เขาไม่กลับไปกินของที่เคยคายทิ้งหรอก แล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเลวๆ อย่างที่เธอกล่าวหาด้วย ขวัญข้าว!” อินทุอรเถียงคอเป็นเอ็น ถึงเธอจะไม่ชอบหน้าขวัญข้าวและหึงหวงพีรัชปานใด ก็ไม่มีทางทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเช่นนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD