‘เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ เกิดเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ในชุมชนบ้านไข่น้ำ คาดว่าสาเหตุเกิดจากยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งคนในชุมชนบ้านไข่น้ำได้รับบริจาคข้าวของเครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ หลายคนตกเป็นเหยื่อและนำไปสู่เหตุจลาจล
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า หลังจากที่นายแดง(นามสมมุติ) ได้ทานยาแก้แพ้เข้าไปทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่ทุบตีภรรยาและลูก นอกจากนี้ยังมีวัยรุ่นคว้ามีดดาบไล่ฟันชาวบ้านไม่เลือกหน้า คาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุเดียวกัน
ด้าน พล.ต.อ. อดิศร ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ มีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจในพื้นที่สามารถจับผู้ก่อเหตุจลาจลครั้งนี้ได้แน่นอน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่สามารถเปิดเผยได้’
‘ยาสามัญฯ ทำพิษชาวบ้านไข่น้ำ ปมเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่
ขณะนี้เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ชาวบ้านกว่า 20 รายตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดชนิดใหม่ที่มาในรูปแบบยาสามัญประจำบ้าน เหตุจลาจลครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายและนำไปสู่การสูญเสียในวงกว้าง มีเหยื่อเสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย ส่วนคนที่เหลืออยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่’
ทั้งการรายงานข่าวตามหน้าจอทีวีที่มีเกือบทุกช่อง และพาดหัวข่าวตามโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ไม่ว่าจะเปิดไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวนี้เต็มไปหมด
เหตุการณ์ความรุนแรงกว่าจะอยู่ในความสงบก็ล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืน เสียงรถไซเรนดังคลุ้งไปทั่วพื้นที่ เพราะต้องห่ามเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้าโรงพยาบาล เมื่อยาเริ่มหมดฤทธิ์ทำให้ชาวบ้านบางคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากต่างอยู่ในอาการมึนงง
พวกเขาไม่ได้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่เลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่ได้มีปัญหาบาดหมางกันเลย แต่ต้องมาตีกันเพราะยานรกพวกนั้น
หลาย ๆ คนจึงหันหน้ามาขอโทษขอโพยกันไป แต่ก็ยังมีอ**บางส่วนที่พร้อมจะมีปัญหากันต่อนอกรอบ
“มะปราง! มะปรางไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก ไม่โดนลูกหลงตรงไหนใช่ไหม” แม่มะลิที่วิ่งร้องห่มร้องไห้เข้ามาในโรงพักเรียกหาลูกสาวของตนเป็นอันดับแรก
เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อตอนเย็น กว่าท่านจะได้เจอกับคนเป็นลูกอีกครั้ง ก็ทำเอาท่านใจหายไปหลายเปราะ กลัวว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะได้รับอันตราย
“ปรางไม่เป็นไรแม่” มะปรางที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องสืบสวนมุ่งหน้าเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่ให้หายตกใจ
เตชินที่เดินตามหลังเด็กสาวออกมา เขายืนมองสองแม่ลูกกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบิดยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงออกไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อเงียบ ๆ
มะปรางมองเตชินที่เดินผ่านหน้าเธอไปด้วยแววตาสั่นระริก เหตุการณ์ใจหายใจคว่ำขนาดนี้เธอเองก็อยากได้กอดจากเขาให้หายตกใจ
อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขามันคือพลังบวกของเธอ
ถึงแม้จะคิดอย่างนั้น เธอก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากมองชายหนุ่มเดินจากไปด้วยความเข้าใจ
“พี่ผิน” ยี่โถเอ่ยเรียกผู้ใหญ่บ้านเสียงหวาน โดยไม่ได้สนใจรังสีอำมหิตจากดวงแขที่แผ่มองมาอย่างอาฆาต
“จ๋า” ผู้ใหญ่ผินคล้อยตามพลางขานรับด้วยน้ำเสียงอ่อนระทวย
“พี่ผินไม่เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรเลยจ้ะน้องยี่โถ”
มะลิที่กำลังยืนกอดลูกสาวอยู่ เมื่อได้ยินเสียงคู่อริที่กำลังทำเสียงออดอ้อนผู้ใหญ่บ้านก็รีบยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองของลูกสาว
“อย่าไปฟังนะลูก ยายเฒ่ากับตาเฒ่ากำลังทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง”
“อีมะลิเน่า! อีเฒ่าม่าย” ยี่โถหันไปต่อว่ามะลิ กล้าดียังไงถึงได้มาจิกกัดและขัดจังหวะหล่อนต่อหน้าผู้ใหญ่ผิน
“แกก็ม่ายอียี่โถ จะออดอ้อนออเซาะใครก็เกรงใจเมียเขาด้วย”
“ไอ้แก่ตัณหากลับ!” เสียงคนเป็นเมียเอ่ยเรียกผู้ใหญ่ผินพร้อมดึงกระชากใบหูอย่างแรง “หล่อนก็ด้วยยี่โถ อย่าทำตัวเหมือนชื่อ”
“ชื่อ? ชื่อยี่โถมันไม่ดีตรงไหน”
“อีพืชมีพิษ!” ดวงแขตอบกลับด้วยถ้อยคำร้ายกาจ สร้างความถูกอกถูกใจให้กับมะลิไม่น้อย
“โอ๊ยแค่นี้ก็สะใจแล้วโว๊ย กลับบ้านกันเถอะลูก อย่าไปอยู่ใกล้พืชมีพิษ เดี๋ยวยางของมันทำให้ระคายผิวได้” มะลิจูงมือมะปรางกลับบ้านด้วยสีหน้าระรื่น โดยไม่ลืมหันไปกล่าวลาเมียรักของผู้ใหญ่ผิน “ฉันกลับก่อนนะคุณนายดวงแข เดี๋ยวไว้เจอกันอีกจ้ะ”
ดวงแขพยักหน้าให้กับมะลิเล็กน้อย ก่อนจะหันมาดึงหูคนเป็นสามีด้วยความหมั่นไส้
“ใจเย็น ๆ จ้ะเมียจ๋า”
“กลับบ้าน!”
ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้ใหญ่ผินนั้นกลัวเมียของตนเป็นที่สุด ยี่โถได้แต่มองตามหน้าละห้อยจนยี่หวาคนเป็นลูกสาวต้องเอ่ยพูดกระฟัดกระเฟียดกับคนเป็นแม่
“แม่... แม่จะไปยุ่งกับพ่อสามีฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม”
“แม่ก็แค่ปั่นหัวพวกนั้นเล่น ๆ เท่านั้นแหละ ตามวิถีคนโสดที่สวยและรวยมาก” ยี่โถกล่าวออกมาด้วยความมั่นอกมั่นใจ โดยที่คนเป็นลูกก็ซึมซับความมั่นใจนั้นไปด้วย
“จะเอายังไงกับชาวบ้านที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนี้ดีครับ” คนเป็นหมวดเอ่ยถามเตชิน ขณะที่ถือแฟ้มเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเดินตามอย่างกระฉับกระเฉง
“ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่ถึงยังไงชาวบ้านทุกคนก็เป็นเหยื่อและไม่ควรจะมีความผิด เช็กประวัติทุกคนให้ละเอียด และหลังจากนี้ทางเราจะส่งรายชื่อชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อให้อยู่ในการดูแลขององค์กรที่เกี่ยวข้อง เพราะขึ้นชื่อว่ายาเสพติด หมายความว่าเสพแล้วติด จะต้องมีคนเกิดอาการอยากยาแล้วกลับมาเสพซ้ำอีกแน่นอน”
“แล้วนักข่าวจะเอายังไงดีครับ”
“เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่มาลงพื้นที่ออกไปแถลงข่าว หมวดได้ชื่อของคนที่เอาของมาบริจาคหรือยัง?”
“เป็นคนนิรนามครับ เขาให้เหตุผลมาว่าเอาของมาบริจาคด้วยใจไม่ได้ต้องการชื่อเสียงอะไร เลยไม่ได้ลงชื่อครับ”
“กว่าของบริจาคจะมาถึงมือชาวบ้านได้ ต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย นี่เจ้าหน้าที่ทำงานบกพร่องขนาดนี้เลยเหรอ”
“ยังมีอีกเรื่องครับผู้กอง”
“ว่ามาเลยหมวด”
“ที่ชุมชนนี้ทุรกันดารมาก ดังนั้นจึงมีกล้องวงจรปิดไม่เพียงพอ”
“ไปกันใหญ่ แล้วอย่างนี้จะจับมือใครดมได้”
เตชินกับผู้หมวดเดินคุยกันจากโรงจอดรถมาจนถึงหน้าโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คนแออัดและเสียงเจี๊ยวจ๊าวผสมปนเปกับเสียงร้องไห้อาลัยอาวรณ์
“ฮื๊อฮือ ลูกชายฉันเป็นคนดี ทำไมต้องเป็นลูกชายฉันที่ตาย”
“ผัวฉันไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย”
ผู้สูญเสียต่างร้องห่มร้องไห้กันระงม บางคนถึงขั้นก่อความวุ่นวายภายในโรงพยาบาล
สื่อหลากหลายสำนักต่างก็ยืนออรอทำข่าวอยู่หน้าสถานีตำรวจ กว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกมาแถลงข่าวก็ล่วงเลยไปเกือบตีสองครึ่ง
คนในชุมชนหลาย ๆ คน ยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลง และกว่าสภาพจิตใจของผู้คนในหมู่บ้านจะกลับมาเป็นปกติคงต้องใช้เวลาเยียวยาไปอีกนานพอสมควร