“หนูทำอะไรอยู่ ไม่รีบกลับบ้านเหรอ” เตชินเดินเข้ามาในครัว หลังจากที่สั่งงานเด็กฝึกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเพื่อนรักทั้งสองคนก็ส่งกลับบ้านตั้งแต่เช้ามืด เหลือแค่มะปรางที่กว่าจะสร่างเมาจากอาการเมาค้างก็ล่วงเลยเวลามาจนเกือบเที่ยง
“หนูยังปวดหัวนิดหน่อย เลยกินยาดักไว้ก่อนเผื่อไข้ขึ้น เหลืออยู่หนึ่งเม็ดพอดี” พูดจบเธอก็ป้อนยาเม็ดเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามทันที
“กินยา? ยาอะไร?”
“ก็ยาลดไข้ไง ปวดหัวให้กินยาคุมเหรอเฮีย” เด็กสาวพูดติดตลกพร้อมยื่นกระปุกยาขนาดเล็กให้เตชินดู
“ที่นี่มียาลดไข้ด้วยเหรอ” เตชินรับกระปุกยามาพิจารณาดู เขาทำสีหน้าตกใจพร้อมกับรีบไปล้วงคอเด็กสาว “มะปรางคายมันออกมา นี่มันไม่ใช่ยาลดไข้...”
มันคือตัวอย่างยาที่เขาให้เด็กฝึกขโมยมา ครั้งเมื่อไปสืบเรื่องอุโมงค์หลังสนามเด็กเล่น เขาเอาตัวยาออกมาให้คาริสานำไปตรวจสอบที่แล็ปขององค์กร แล้วยังไม่ได้เก็บมันให้เข้าที่เข้าทาง ใครจะไปนึกว่ามะปรางจะเอามากินเพราะคิดว่าเป็นยาลดไข้ แม้ลักษณะของมันจะคล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก
“อื้อ! เฮียมันคือยาอะไร”
“คายมันออกมาเร็วเข้า เฮียไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร มันอาจจะอันตรายถึงตายได้”
มะปรางสำลักจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด เธออาเจียนออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากตัวยามันละลายกลายเป็นของเหลวไปเรียบร้อยแล้ว นั้นหมายความว่าตัวยาบางส่วนยังอยู่ในร่างกายของมะปราง
อัวะ อ๊วกกกก!
มะปรางล้วงคออาเจียนออกมาอีกครั้ง โดยมีเตชินช่วยลูบหลังให้
“เฮีย... หนูเวียนหัว”
“วะ...เวียนหัว แล้วถอดเสื้อผ้าออกทำไม”
“หนูอึดอัด มันร้อนข้างใน” มะปรางพูดเสียงกระเส่าพร้อมกระชากเสื้อผ้าของตัวเองออกจนขาดวิ่น
“มะปราง หนูใจเย็น ๆ ก่อน”
พรึ่บ!
เตชินพูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กสาวก็กระโดดเข้ามากอดชายหนุ่ม เธอซุกไซร้และสูดดมร่างกายของเตชินอย่างหื่นกระหาย
“หนูทำอะไร”
“ตัวเฮียหอมมากเลย หนูขอได้ไหม” ฤทธิ์ของยาที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายทำให้เธอควบคุมสติของตัวเองไม่ได้ “เฮีย... หนูขอนะคะ ให้หนูได้ไหม”
“มะปราง!” เตชินอุ้มกระเตงเด็กสาวเข้าไปภายในห้องส่วนตัว เขาเดินมุ่งหน้าไปยังทิศทางของห้องน้ำ ขณะที่เด็กสาวก็พยายามซุกไซร้และบดเบียดหน้าอกของตัวเองแนบชิดกับร่างกายของเตชินอย่างไม่รู้สึกอาย
ซ่า~ ซ่า~
เตชินวางร่างเล็กลงในอ่างแล้วเปิดฝักบัวราดลงบนตัวของมะปรางทันที หวังจะให้สายน้ำที่เย็นชุ่มฉ่ำชโลมร่างกายที่ร้อนรุ่มของเธอ
“ไม่เอาน้ำนี้ อยากได้น้ำของเฮีย” เด็กสาวคลานเข้าไปสวมกอดเขาแน่น เธอพยายามซุกไซร้ซอกคอของเตชินอย่างระบายอารมณ์
“เฮียจะไม่ถือสานะ เพราะว่าหนูไม่มีสติ” เตชินยังคงชโลมน้ำเย็นฉ่ำลงบนร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง ด้วยหวังว่าอาการของเธอจะค่อย ๆ ทุเลาลงเอง
“หนูบอกว่าไม่เอาน้ำนี้ไง” พูดจบ มะปรางก็กระชากฝักบัวจากมือของเตชินขว้างออกไปให้ห่างตัว อารมณ์ที่รุนแรงของมะปรางทำให้เขาตกใจและทำอะไรไม่ถูก “จะยอมไหม อย่าให้หนูต้องใช้กำลังนะ”
“มะปราง!” เตชินเบิกดวงตาโต เนื่องจากมะปรางถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนเปลือยเปล่า ชายหนุ่มรีบหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาห่อหุ้มเรือนร่างเปลือยเปล่าของเด็กสาวเอาไว้ แล้วอุ้มเธอไปยังที่นอนของตัวเอง เขาใช้เศษผ้ามัดข้อมือของเธอตรึงไว้กับหัวเตียง เพราะอาการคลุ้มคลั่งของเธอมันเริ่มฉุดไว้ไม่อยู่แล้ว ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์เพื่อต่อสายหาคาริสา
“เอาตัวยาไปตรวจสอบหรือยัง” เตชินเอ่ยถามเพื่อนสาวทันทีที่ต่อสายสำเร็จ
‘มันคือยาเสพติดชนิดใหม่ ลักษณะภายนอกมีความคล้ายคลึงกับยาสามัญประจำบ้าน มีปฏิกิริยาร่วมกับน้ำและออกฤทธิ์ภายในสามนาที’
คาริสาตอบกลับมา เธอเพิ่งออกมาจากห้องแล็ปหมาด ๆ และกำลังจะโทรมาบอกเตชินพอดี ‘มันอันตรายมากนะ เพราะมันทำให้คนที่เสพเข้าไปขาดสติ คลุ้มคลั่ง และเกิดภาพหลอน เหยื่อที่เสพอาจจะช็อกตายได้ สิ่งต้องห้ามคืออย่าทำให้เหยื่อสลบ หรือหลับ เพราะอาจจะให้เหยื่อใหลตายได้เหมือนกัน’
“มันมีส่วนผสมของยาปลุกเซ็กซ์ด้วยไหม”
‘...มี’
“ขอวิธีแก้ด่วนเลย”
‘ไม่มีวิธีแก้ นอกจากรอให้ยาหมดฤทธิ์ ประมาณสักสองถึงสามชั่วโมง’
“เฮียขา ฮือ ๆ หนูหนาว” มะปรางพูดเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างอัดอั้น เพราะเธอต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
เตชินวางสายจากเพื่อนสาวแล้วเดินไปหาคนที่ถูกมัดไว้กับหัวเตียง เขายอมแกะเชือกให้เธออย่างไม่มีทางเลือกอื่น
“หนูดีขึ้นบ้างหรือยัง” มะปรางส่ายหน้าไปมา เธอสลัดชุดคลุมอาบน้ำออกจากร่างกายแล้วผลักอีกฝ่ายให้นอนราบกับเตียงหลังจากได้รับอิสระ เธอขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวของเขาแล้วนำเชือกที่ถูกมัดก่อนหน้านี้ เอามามัดข้อมือของเตชินแทน
“เฮีย เป็นของหนู”
“มะปรางครับ หนูต้องต่อสู้กับมันนะ หนูเก่งกว่ายานรกนั้นตั้งเยอะ หนูต้องเอาชนะมันให้ได้นะ” ที่เอ่ยอย่างนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขารังเกียจในตัวเด็กสาว แต่จะให้เขาล่วงเกินเธอได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่มีสติ
เด็กสาวหยุดชะงักการกระทำของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เธอมองหน้าเตชินนิ่ง ๆ ก่อนจะดึงเชือกให้แน่นขึ้น ราวกับว่าสิ่งที่เตชินพูดไปก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
มือเล็กดึงเสื้อยืดของชายหนุ่มขึ้นไปกองไว้ตรงอก แล้วรีบถอดเข็มขัดหนังออกอย่างรวดเร็ว เธอปลดกระดุมกางเกงยีนแล้วดึงมันออกไปในสุด เตชินมองการกระทำของเด็กสาวอย่างเวทนา เขาเป็นผู้ชายเขาไม่เสียหายหรอก แต่เธอจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้
“อ๊าส์” เธอส่งเสียงกระเส่าออกมาอย่างไม่รู้สึกอาย ใบหน้าหวานตวัดเรียวลิ้นโลมเลียไปทั่วร่างกายกำยำ เพียงแค่นั้นเตชินก็เกิดมีอารมณ์ร่วมขึ้นมา ความเป็นชายของเขาค่อย ๆ พองโตและแข็งชันขึ้นเมื่อมันถูกบดเบียดเสียดสีกับบั้นท้ายงอนงาม
“อ๊าส์! มะปราง” อารมณ์ของเด็กสาวรุนแรงจนน่าตกใจ เธอสอดใส่แก่นกายแกร่งเข้าไปในช่องคับแคบของตัวเอง โดยไม่มีน้ำหล่อลื่นเป็นตัวเบิกทาง ไม่รอให้ร่างกายได้ปรับตัวเธอก็ขยับมันขึ้นลงอย่างรุนแรงโดยไม่กลัวว่าอวัยวะส่วนนั้นจะฉีกขาด “หนูไม่ควรรุนแรงกับครั้งแรกของตัวเองขนาดนั้นนะ มันอันตราย”
“คะ...ควบคุมไม่ได้” มะปรางเอ่ยพูดเสียงกระท่อนกระแท่น เธอระบายอารมณ์ความต้องการของตัวเองออกมาอย่างหนักหน่วง
เตชินดิ้นจนข้อมือของเขาหลุดพ้นจากพันธนาการ เขาจับสะโพกงอนงามให้ผ่อนแรงลง เพราะกลัวว่าความรุนแรงที่เด็กสาวมอบให้จะสร้างอันตรายให้กับร่างกายของเธอเอง เขาเอื้อมมือไปช่วยบังคับสะโพกให้กระดกขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะในแบบที่ควรจะเป็น
“อ๊าสสสสสสส์!”
“อร๊ายบยยยย!”
สองหนุ่มสาวประสานเสียงร้องออกมาดังลั่น ครั้งเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย น้ำรักที่ปลดปล่อยเข้ามาภายในร่างกายทำให้มะปรางรู้สึกดีไม่น้อย
มะปรางเอื้อมมือไปค้ำหัวเตียงเอาไว้ราวกับว่าความต้องการของเธอมันไม่ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
“มะปรางหยุดก่อน” เตชินหยัดกายลุกขึ้นนั่งทั้งที่เขายังเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ
“มะ...ไม่หยุดนะ อย่าทรมานหนู” เธอรีบกอดรัดลำคอของชายหนุ่มไว้แน่น ส่งผลให้สองเต้าอวบแนบชิดกับใบหน้าคมคายพอดิบพอดี ไม่รอให้เขาตอบอะไรกลับมา มะปรางก็พยายามบดเบียดเสียดสีช่องรักคับแคบของตัวเองเข้ากับแก่นกายใหญ่อย่างหนักหน่วงและรุนแรง “ช่วยหนูนะคะ”
“เฮียกำลังช่วยหนูอยู่ แต่หนูต้องต่อสู้กับมันด้วยนะ อย่าเป็นทาสของมัน” มะปรางพยักหน้ารับแบบขอไปที ทั้งที่สติสัมปชัญญะของเธอมันไม่สามารถควบคุมร่างกายที่มีแต่ความต้องการได้
เตชินจูบปลอบเด็กสาวพร้อมอุ้มกระเตงเด็กสาวเข้าไปภายในห้องน้ำ หวังให้น้ำเป็นตัวช่วยชโลมร่างกายที่ร้อนรุ่มให้เบาบางลง
สองชั่วโมงผ่านไป อารมณ์ความต้องการของมะปรางเริ่มเบาบางลงเมื่อยาเริ่มหมดฤทธิ์ ความเจ็บปวดบริเวณช่องรักเข้ามาแทนที่จนเธอพรั่งพรูหยาดน้ำตาออกมาอย่างน่าสงสาร
“อื้อ! เจ็บ” เธอผ่อนแรงลงแล้วหยุดขยับร่างกายในที่สุด แต่เธอยังคาท่อนเอ็นใหญ่ไว้ในร่างกายไม่กล้าที่จะถอดมันออกไป มันคับแน่นและทำท้องน้อยของเธอปั่นป่วน
“หนูโอเคขึ้นแล้วใช่ไหม” เตชินเอ่ยถามเสียงแหบพร่า กว่าความต้องการของเธอจะเบาบางลงก็ทำเอาเขาเหนื่อยจนแทบหมดแรง เขาช่วยยกสะโพกของเธอขึ้นเล็กน้อย แล้วจัดการกับตัวเองจนเรียบร้อย ทั้งที่มะปรางยังนั่งคร่อมอยู่บนร่างของเขาในอ่างอาบน้ำ
“กรี๊ดดดดดด!” มะปรางกรีดร้องออกมาดังลั่น เธอทั้งเจ็บทั้งระบมไปทั่วร่างกาย เธอไม่สามารถยอมรับการกระทำของตัวเองได้
เตชินโอบกอดมะปรางไว้ในอ้อมอกทั้งที่ร่างกายของทั้งคู่ยังเปลือยเปล่า
“ไม่เป็นไรนะครับเด็กดีของเฮีย”
“ฮือ ๆ หนูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อึก! หนูจะกล้ามองหน้าเฮียได้ยังไง” เธอทั้งอายทั้งรู้สึกผิด รอยช้ำที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของชายหนุ่มมันบ่งบอกชัดเจนว่าเธอใช้ความรุนแรงและป่าเถื่อนกับเขามากแค่ไหน
“เอาไว้ตรงนี้ไง” เขาดันศีรษะของเด็กสาวมาแนบอกแกร่งพร้อมกับลูบผมของเธอเบา ๆ “มันไม่ใช่ความผิดของหนูนะ”
“อึก! เฮียเจ็บไหม”
“เฮียไม่เจ็บเลย อย่าโทษตัวเองเลยนะ” เตชินจูบหน้าผากมนอย่างละไม ก่อนหยิบฟองน้ำมาทำความสะอาดร่างกายให้กับเธอ
ชายหนุ่มวางร่างของเด็กสาวลงบนเตียงนุ่ม หลังจากที่จัดการทำความสะอาดร่างกายของเธอเสร็จสรรพเรียบร้อย สายตาของมะปรางยังมองเขาด้วยความรู้สึกผิด ร่างกายที่อ่อนเพลียทำให้เธอเหมือนจะหลับ
“เฮีย...”
“ครับ”
“ช่วยซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้หนูหน่อยได้ไหม”
“เดี๋ยวเฮียจัดการให้นะ” เตชินดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของมะปรางเอาไว้ “หนูไม่ต้องกังวลนะครับ”