บทที่ 8 หนูไม่รู้...หนูเมา

1576 Words
“เฮียเตเขาคงไม่ได้ชอบปรางหรอก เพราะถ้าเขาชอบปราง เขาคงไม่ทิ้งปรางไปตั้งหลายปี” เด็กสาวที่กำลังเมาได้ที่พูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ปนเสียงโศกเศร้าอย่างไม่ปิดบัง “เฮียมันเคยบอกรักมะปรางไหม” เรติกาเอ่ยถาม เมื่อมะปรางพรั่งพรูความจริงออกมาจนหมดเปลือก “ม่ายเคย แต่เฮียเขาชอบบอกว่าปรางเป็นเด็กของเฮีย” “แกนี่มันเลวจริง ๆ เลยนะไอ้เต!” “ม่ายเลว เฮียเตเป็นคนดีแต่ปรางเป็นคนไม่ดี” “เฮียมันทำอะไรกับมะปราง ทำไมดูหลงมันจัง” “ม่ายเคยหลง ปรางแค่ใจอ่อนเวลาที่เฮียเขา... อึก! จูบตรงนี้” มะปรางยกมือขึ้นมาชี้หน้าผากมนของตัวเอง แล้วค่อยเลื่อนนิ้วมาชี้ที่ขมับบาง “แล้วก็จูบตรงนี้ด้วย เฮียเตชอบให้ปรางนั่งตัก แล้วชอบเรียกปรางว่าเด็กดี” “มะปราง!” เตชินที่เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนเรียกชื่อของเธอเสียงดัง เพื่อห้ามปรามไม่พูดอะไรออกมา ขณะที่คาริสาก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดปาก เพราะมาทันได้ยินที่มะปรางพูดในประโยคสุดท้าย เพื่อนหนุ่มที่เธอเคยคิดว่าห่วยแตกเรื่องความรัก แท้ที่จริงแล้วเล่ห์เหลี่ยมและคารมคมคายเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ชายเจ้าชู้บางคนเสียอีก “คะ...คุณมาได้ยังไง มาทำอะไรที่นี่เหรอ?” มะปรางหันไปมองเตชินด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว เธอเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ “เธอนั่นแหละทำอะไรของเธอ ทำไมถึงได้ดื่มเหล้าเมามายขนาดนี้” “ทำไมเรียกเธออ่ะ” เด็กสาวเอ่ยทวงด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยในสรรพนามที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่ม เธอแบะปากคว่ำลงราวกับจะร้องไห้ “คุณอายเหรอที่รู้จักกับหนู อึก! หนูเป็นได้แค่เด็กดีของคุณแค่นั้นเองเหรอ” “มะปรางกลับบ้าน เดี๋ยวไปส่ง” เตชินพูดพร้อมฉุดแขนของเธอให้ลุกขึ้นยืน แต่อีกฝ่ายกลับบ่ายเบี่ยงและขัดขืน “ไม่กลับ! หนูไม่กลับไปกับคุณ หนูมาเองได้หนูก็กลับเองได้ ไม่ต้องพึ่งคุณ” มะปรางสะบัดมือออกจากเกาะกุมพลางสะอื้นไห้ด้วยความน้อยใจ เธอหันหลังให้ชายหนุ่มแล้วงุดหน้าลงจนเกือบทิ่มกับโซฟา ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เธอควบคุมสติและร่างกายของตัวเองไม่ได้ “หนูจะนอนให้สร่างเมาที่นี่แหละ” “ไม่ได้! กลับบ้านเดี๋ยวเฮียไปส่ง” “ไม่ต้องมายุ่งกับหนู ถ้าอายที่รู้จักกับหนูก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน” “ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย หนูไม่รู้หรอกว่าเพื่อนของเฮียสองตัวมันแสบกว่าหนูซะอีก” “เอ้า! ทำไมกลายเป็นความผิดของพวกฉันล่ะ” เรติกาเอ่ยประท้วงเมื่อโดนพาดพิงถึง “แกมันตัวดีเลยยัยเรย์” “อย่ามาว่าพี่เรย์ของหนูนะ” มะปรางแยกเขี้ยวพร้อมตีที่ท่อนแขนของเตชินอย่างแรง เพี๊ยะ! “โอ๊ย! เฮียเจ็บนะ สนิทกันขนาดนั้นเลย?” “มันแน่นอนอยู่แล้ว” “เงียบปากไปเลยนะยัยเรย์” เตชินแหวใส่เพื่อนสาวเสียงเขียว ก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้าเว้าวอน “เด็กดีครับ” “ไม่ต้องมาแตะต้องตัวหนู อึก! เมื่อกี้ยังเรียกว่าเธออยู่เลย” มะปรางเอ่ยพูดเสียงสั่นพลางแสดงท่าทีกระเง้ากระงอดใส่ชายหนุ่ม พรึ่บ! เตชินอุ้มเด็กสาวให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ โดยไม่สนใจว่ามีเพื่อนสาวสองคนนั่งมองอยู่ตรงหน้า มือหนาลูบผมของเด็กสาวเบา ๆ แล้วดันศีรษะทุยเล็กมาแนบอก “ฮือ ปล่อยหนูนะ หนูยังไม่หายโกรธคุณ” “หนูโกรธเฮียเหรอ” มะปรางพยักหน้าให้พร้อมทุบตีที่หน้าอกแกร่งอย่างระบายอารมณ์ โดยไม่สนใจว่าเขาจะเจ็บมากแค่ไหนกับกระทำเอาแต่ใจของตัวเอง เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! “หนูโกรธคุณ โกรธมากด้วย คุณไม่จริงใจกับหนู อึก!” เธอซบใบหน้าลงที่กลางอกแกร่งของเขา หลังจากอารมณ์คุกรุ่นเบาบางลง เตชินไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอเลย เขาก้มลงไปจูบตรงกลางกระหม่อมน้อยของเธออย่างแผ่วเบา “เฮียขอโทษ กลับบ้านกับเฮียนะครับเด็กดีของเฮีย” คาริสากับเรติกามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากสำหรับพวกเธอ “หมดสนุกเลย ฉันอุตส่าห์แต่งตัวจัดเต็มมา ยังไม่ได้ดื่มสักแก้วเลยด้วย” คาริสาบนอุบหลังจากที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ในรถมาสักพัก “เอ้าน๊า ไว้ไปดื่มที่บ้านพัก เผื่อมีหนังสดให้ดู ดื่มไปดูหนังสดไป” เรติกาซึ่งเป็นคนขับรถตอบกลับเพื่อนสาว พลางมองเตชินด้วยสายตาที่มีเลศนัยแอบแฝง “โรคจิตนะยัยเรย์ ฉันไม่ดูด้วยหรอกเดี๋ยวเป็นตากุ้งยิง” “เฮีย...” เด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังกับเตชินเอ่ยเรียกเขาเสียงแหบแห้ง “ครับ” “หนูรักเฮียนะ” เตชินมองหน้าเพื่อนสาวสองคนอย่างเลิ่กลั่ก เมื่อมะปรางพูดในสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมา หัวใจดวงแกร่งของเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง มะปรางขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เธอดันตัวลุกขึ้นไปโอบรัดลำคอของชายหนุ่มหลวม ๆ แล้วพูดอีกครั้ง “เฮียไม่ได้ยินที่หนูพูดเหรอ หนูรักเฮียเตนะคะ” “คนเมามักจะพูดความจริงเสมอ” คาริสาเอ่ยพูดเมื่อเห็นเพื่อนหนุ่มมองมาที่เธอ ราวกับขอความคิดเห็น “ทำไมเฮียเงียบ หรือว่าเฮียไม่ได้ยินที่หนูพูด หนูรักเฮีย ได้ยินไหมว่าหนูรักเฮีย รักแค่เฮียคนเดียวมาตั้งนานแล้ว ได้ยินไหม” เด็กสาวตะโกนพูดที่ข้างหูของเขา หวังให้เขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูด แล้วยอมตอบกลับมาสักที “ได้ยินแล้ว” มะปรางยิ้มหยาดเยิ้มเมื่อได้คำตอบที่ต้องการ ก่อนจะค่อย ๆ หลับตา​ลง เตชินลูบผมของเธอเบา ๆ แล้วก้มไปกระซิบบอกกับเธออีกครั้ง “เฮียได้ยินแล้วครับ” “แกมันเลว! ทิ้งเด็กอย่างมะปรางได้ลงคอ” เรติกาพูดกระแหนะกระแหน​เพื่อนหนุ่ม “ตอนนั้นมะปรางยังเด็กมาก​ จะให้ฉันพรากผู้เยาว์หรือไง?” “ก็น่าจะ​กลับมา​หากันบ้าง​ ไม่ใช่​หายหน้าไปเลย” มะปรางโพล่งขึ้น​พร้อมทุบที่หน้าอกของเขาอย่างแรง “ขอโทษ​ครับ” “นึกว่าหลับไปแล้ว” เรติกาพูด​แล้วหันไปยิ้มกริ่ม​กับคาริสา “เด็กคนนี้ก็ใช้ได้อยู่นะ​ ทำไมแกไม่ดึงเธอเข้าองค์กร?” คาริสาเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “แกก็น่าจะรู้นะเคส กฎขององค์กร​แกจำได้ทุกข้อนี่” คาริ​สา​พยักหน้าด้วยความเข้าใจ​ เพราะหนึ่งในกฎขององค์กร​ คือห้ามไม่ให้หัวหน้ากับลูกศิษย์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน วันต่อมา... “อื้อ!” มะปรางส่งเสียงกระเส่าออกมาในลำคอ หลังจากที่ภาพเมื่อคืนตัดไป เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง “เด็กดีของเฮียตื่นแล้วเหรอครับ จุ๊บ” เตชินหยัดแขนทั้งสองข้างลงบนเตียงนุ่มแล้วก้มลงไปจูบปากอวบอิ่มเบา ๆ เพื่อทักทาย หลังจากที่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มานั่งดูเธอที่ยังหลับอยู๋ได้สักพักใหญ่ ๆ “ฝันดีจัง” “ปวดหัวไหม หายแฮงค์หรือยัง เฮียชงกาแฟดำมาให้” เตชินเดินไปหยิบถ้วยกาแฟที่ตระเตรียมไว้มาให้กับคนที่ยังไม่สร่างเมา กลิ่นหอมของกาแฟทำให้มะปรางทำจมูกฟุดฟิดเพื่อความแน่ใจ ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน “มะ...ไม่ได้ฝันนี่นา หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” “เมื่อคืนหนูเมา เฮียไม่อยากพาหนูกลับบ้านเพราะหนูเมามาก เดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ แต่เฮียให้เพื่อนของเฮียช่วยจัดการเรื่องแม่มะลิให้แล้ว ไม่ต้องห่วง” “เมื่อคืน... หนูไม่ได้ทำอะไรแปลก ๆ ใช่ไหม” เธอพูดเสียงอ่อนลง ขณะที่เตชินวางแก้วกาแฟไว้ตรงหัวเตียง “เมื่อคืนมีเด็กขี้เมาสารภาพรักเฮียด้วย เด็กคนนั้นบอกว่า... หนูรักเฮียมาก รักแค่เฮียคนเดียวมาตั้งนานแล้ว” “...” “เห็นรอยช้ำตรงคอเฮียไหม เมื่อคืนเด็กขี้เมาคนนั้นดูดคอเฮียจนหลับไปเลย” “หนูไม่รู้ หนูไม่รู้อะไรทั้งนั้น” มะปรางยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างพลางส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป เธอเงยหน้ามองเตชินอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะงุดหน้าลงด้วยความเขินอาย “เมื่อคืนหนูเมามาก คุณอย่าถือสาหนูเลยนะ” “เรียกเฮียก่อนสิ แล้วเฮียจะคิดซะว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “เฮีย... อย่าถือสาหนูเลยนะ หนูไม่รู้หนูเมาอ่ะ” เตชินอมยิ้มละไม ก่อนจะยื่นกาแฟดำให้เธอดื่ม ซึ่งมะปรางรับมันมาดื่มด้วยใบหน้าที่ร้อนเห่อ เธอได้แต่หลุบหน้าลงต่ำทุกครั้งที่เตชินมองมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD