ในค่ำคืนที่แสนอลวนวุ่นวาย ทุกปีจะมีเทศกาลงานวัดจัดขึ้นเพื่อพัฒนาชุมชนเล็ก ๆ ที่ทั้งแออัด ทุรกันดาร และห่างไกลความเจริญ
ผู้ใหญ่ผินถือโอกาสนี้เปิดตัวหลานชาย เตชิน สกุลเกียรติ ในฐานะร้อยตำรวจเอกหรือผู้กองหนุ่มไฟแรง ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนาริน สกุลเกียรติ พี่สาวของผู้ใหญ่ผิน
ด้วยใบหน้าหล่อคมทรงเสน่ห์ของผู้กองหนุ่มทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่มาร่วมเทศกาลงานวัดต่างฮือฮากันทั้งชุมชน
เทศกาลงานวัดประกอบไปด้วยชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ปาลูกโป่ง สาวน้อยตกน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย หากแต่ว่าการละเล่นต่าง ๆ ภายในงานก็ยังหนีไม่พ้นการพนันขันต่อเหมือนอย่างทุกปี
พนันมวยที่ท้าดวลระหว่าง มะปราง ลูกสาวคนเดียวของแม่มะลิ กับ กวิน ลูกชายคนเดียวของผู้ใหญ่ผินที่ทำทรงเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน
รอบสังเวียนมวยอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างแห่มาดูศึกดวลครั้งนี้ โดยมีแม่มะลิตั้งตัวเป็นเจ้ามือคอยรับแทงพนันกันอย่างลับ ๆ
แน่นอนว่าคนที่ไม่มีศิลปะมวยไทยอย่างมะปรางจะต้องใช้แผนซ้อนแผน เพื่อจัดการกับกวินที่เป็นคู่ปรับของเธอตั้งแต่สมัยอนุบาล กวินต้องการที่จะเอาชนะมะปรางสักครั้ง จึงท้าดวลกับมะปรางในเรื่องที่ตนเองถนัด
“เดี๋ยวแกไปทำตามแผนที่วางไว้นะ” มะปรางกระซิบกระซาบออกคำสั่งกับเติร์ด ลูกสมุนของเธอ เพื่อทบทวนแผนการกันอีกครั้ง
“จัดให้พี่ปราง งานนี้ไอ้กวินมันต้องแพ้พี่ปรางแหง ๆ” ว่าแล้วเติร์ดก็รีบวิ่งออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
เมื่อสองวันก่อนกวินประกาศปาว ๆ ว่าถ้ามะปรางล้มมวยเขาได้ เขาจะให้เงินมะปรางจากการพนันอีกสิบเท่า และก็เป็นอย่างที่คิด คนที่มาร่วมแทงพนันต่างเลือกแทงข้างกวินกันเป็นส่วนใหญ่
ถ้าชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของมะปราง เงินที่ได้จากคนที่เข้าร่วมแทงพนันคูณอีกสิบเท่า กำไรชัด ๆ
ยกที่หนึ่ง เสียงระฆังดังกริ๊ง นักพากย์มวยเริ่มออกลวดลายวาทศิลป์ ผู้คนรอบสังเวียนต่างส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม กวินทำทีมีลูกเล่นทั้งที่ใจจ้องจะปล่อยหมัดใส่หน้าคู่ปรับ ถึงมะปรางจะเอาชนะกวินในการต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอก็มีไหวพริบในการหลบหนีเอาตัวรอด
“ไอ้ปรางมันทำอะไรของมันวะนั่นน่ะ”
“นั่นนะซิ ทำไมไม่ต่อย เอ้าต่อยกันหน่อย”
ผู้คนเริ่มส่งเสียงร้องโห่ เมื่อมะปรางเล่นวิ่งหลบหนีหมัดหนัก ๆ จากคู่แข่ง วิ่งวนไปวิ่งวนมารอบสนามจนคนดูเริ่มปวดหัว กวินเองก็เริ่มหัวร้อนที่มะปรางเอาแต่วิ่งหนีไม่ยอมสู้กับเขาอย่างที่ปากพูดไว้
วิ่งจนเหนื่อยหอบก็ยังไม่หมดยกสักที เพียงแค่มะปรางพักหายใจ มันก็เปิดโอกาสให้กวินได้ปล่อยหมัดซ้ายกระแทกศอกขวาอัดเบ้าหน้าจนต้องเดินโซซัดโซเซเพราะทั้งเจ็บทั้งจุกหนัก ทำเอาคนดูและคนที่ร่วมแทงพนันต่างเพิ่มมูลค่าเงินแทงข้างกวินทวีคูณมากขึ้น
เสียงระฆังดังขึ้นบ่งบอกว่าหมดเวลาของยกแรกแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เติร์ดวิ่งกลับมาจากบ้านของกวินพอดี
กวินมองมะปรางอย่างคนที่อยู่เหนือกว่า เขาทะนงตนคิดว่ายังไงเขาก็เอาชนะมะปรางได้สบาย ๆ จึงสั่งให้ลูกน้องไปแทงพนันเพิ่ม
“เป็นไงบ้างพี่ปราง”
“เจ็บสิวะถามได้ ไอ้กวินมันต่อยไม่ยั้งมือเลย กะจะชนะน็อกฉันให้ได้” มะปรางพูดด้วยความเจ็บใจ ร่างอรชรอ้อนแอ้นของเธอระบมไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้หรอก หัวใจคนอย่างมะปรางใหญ่กว่าตับอยู่แล้ว เธอไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ใช้กำลังสู้ไม่ได้ก็ใช้ความฉลาดแกมโกงเข้าสู้ “ไอ้เติร์ด! เอาน้ำมาดื่มหน่อย”
กวินเห็นว่ามะปรางเรียกหาน้ำดื่ม เขาจึงวานให้ลูกน้องเอาน้ำมาให้ตัวเองดื่มบ้าง
เป็นไปตามแผนการที่วางไว้
มุมปากร้ายยกยิ้มขึ้นสูงด้วยความสะใจ เมื่อกวินเพื่อนรักดื่มน้ำเข้าไปจนหมดขวด ยานอนหลับชนิดน้ำที่เติร์ดได้แอบหยดใส่ไว้ก่อนหน้านี้ก็เริ่มออกฤทธิ์ทันที
“ไอ้กวินไอ้โง่!”
“งานนี้มันเสร็จพี่ปรางแน่” สองลูกพี่ลูกน้องมองหน้ากันแล้วเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้าย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก่อนระฆังยกที่สองจะดังขึ้น
เมื่อเห็นกวินเริ่มมีอาการง่วงซึม ใกล้จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ มะปรางก็ใช้โอกาสนั้นปล่อยหมัดซ้ายใส่หมัดขวาอัดเข้าหน้ากวินไม่ยั้ง ทำเอาตลาดหลักทรัพย์วุ่นวายกันไปหมด
กวินเริ่มยืนไม่อยู่กับที่ สายตาพร่ามัวใกล้จะหลับเต็มทน มะปรางจึงรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีตวัดขาแตะก้านคอแล้วดึงแขนคู่ต่อสู้จับทุ่มลงพื้น ทำเอากวินน็อกคาที่ในเวลาไม่ถึงนาที กรรมการจึงเริ่มนับถอยหลัง
…ห้า …สี่ …สาม …สอง …หนึ่ง
เมื่อไม่มีวี่แววว่ากวินจะลุกขึ้นมาสู้กับมะปรางต่อได้ เธอจึงเป็นผู้ชนะในศึกสังเวียนครั้งนี้
มะปรางรู้ดีว่าชัยชนะครั้งนี้เธออาจได้มาเพราะการเล่นสกปรก แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มะปรางทำแสบกับกวิน เพราะอย่างนี้กวินถึงไม่ชอบขี้หน้าเธอสุด ๆ
ศึกครั้งนี้ยังคงเป็นที่ติดปากกันต่อไปว่ากวินไม่มีทางเอาชนะมะปรางได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร และเงินที่ได้จากการแทงพนันของคนในหมู่บ้าน เธอและแม่มะลิเก็บกินเรียบ
ผู้กองเตชิน...หนึ่งในผู้ชมศึกสังเวียนครั้งนี้ เขารู้ดีว่ามะปรางคงทำเรื่องแสบไว้เช่นเคย มันเป็นไปได้ยากที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะชนะน็อกผู้ชายอกสามศอกอย่างกวินได้เพียงแค่ออกแรงต่อยไปไม่กี่หมัด เขาได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้กับชัยชนะของเธอในครั้งนี้