บทที่ 1 โคจรมาเจอกัน

1747 Words
หลังจากนับเงินจากการแทงพนันเสร็จสรรพ แม่มะลิก็ด่วนกลับบ้านไปก่อน​ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำอาหารไปขายที่โรงเรียน ส่วนมะปรางกับเติร์ดก็​เดินเที่ยวชมการละเล่น​ในงานวัดกันต่อ เห็นผู้กองหนุ่มร่างสูงโปร่ง​เดินมาแต่ไกล เติร์ดจึงรีบกระซิบบอกมะปรางทันทีว่าผู้ชายคนนี้เป็นตำรวจที่เพิ่งย้ายมาประจำการใหม่ที่ชุมชน เตชินมองมะปรางเหมือนมีอะไรบางอย่างจะพูดด้วย เนื่องจาก​ว่าทั้งคู่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี “มองหน้าฉันแบบนี้ มีอะไรคะผู้กอง” มะปรางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างตามนิสัยแก่นแก้วของเธอ “ฉันแค่เดินสำรวจความเรียบร้อย เผอิญ​เก็บยานอนหลับได้ด้วยนะ” “ใครอยากรู้?” มะปราง​พูดทั้งที่สายตาล่อกแล่กไปมา “ฉันก็แค่สงสัยว่ากวินต่อยเธอจนแทบกระอักเลือดแต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย ต่างจากเธอที่ต่อยกวินไปแค่หมัดสองหมัด ซึ่งไม่น่าจะทำให้เขาน็อกได้ ฉันคิดว่าเขาอาจจะ​แค่หลับเพราะฤทธิ์ยานี่หรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำนะครับ แถมยังทิ้งหลักฐานเอาไว้อีกต่างหาก” เตชินพูดพร้อมมองไปที่เติร์ดแล้วหันมาสบตากับมะปรางอย่างยิ้มเยาะ ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่มองค้อนกลับไปอย่างไม่พอใจนัก ตามศักดิ์แล้ว เตชินก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกวิน จะปกป้องกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก “หลักฐาน! หลักฐานอะไรเหรอคะคุณตำรวจ แล้วนี่เพิ่งมาประจำการใหม่เหรอ” มะปรางพูดพร้อมยกมือขึ้นมาป้องปากที่กำลังกลั้วหัวเราะกลบเกลื่อน อันที่จริงเมื่อหลายปีก่อนเตชินเคยมาทำงานเป็นเด็กฝึกอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลของชุมชนนี้ ตอนนั้นเธอก็ไม่เห็นรู้ว่าเขาเรียนเป็นนายสิบนายร้อย กลับมาอีกทีก็กลายเป็นตำรวจชั้นผู้กองซะแล้ว​ “ขอให้อยู่ได้นาน ๆ นะผู้กอง แต่บอกไว้ก่อนว่าชุมชนนี้มันเถื่อน!” มะปรางเอ่ยกับเตชินประโยคเดียวกับที่เจอกันครั้งแรก ก่อนจะเดินจากไปโดยมีเตชินมองตามเธอจนสุดทางเดิน เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด การกระทำของเธอยังสามารถเรียกรอยยิ้มให้กับคนที่ยิ้มยากอย่างเขาได้เสมอ “แกทำแล้วทำไมถึงได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้ฮะไอ้เติร์ด!” มะปรางรีบเดินเร็ว ๆ พลางกัดฟันพูดกับลูกสมุนของตัวเอง​เสียงกระซิบ​กระซาบ “เปล่านะพี่ปราง ผมยังไม่ได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้เลย นี่ไงยานอนหลับก็ยังอยู่” เติร์ดพูดพร้อมหยิบยานอนหลับออกมาจากกระเป๋ากางเกง มะปรางก้มมองยานอนหลับในฝ่ามือของเติร์ดพลางขมวดคิ้ว​เป็นปมหนา เธอเสียรู้เตชินเข้าซะแล้ว แต่ก็ยังดีที่เธอไม่มีพิรุธอะไร “คิดจะจับผิดฉันเหรอ!” มะปรางหันกลับไปหวังจะเอาคืนเตชินที่กล้ามากลั่นแกล้งเด็กแก่นประจำท้องถิ่น​อย่างเธอ​ แก๊งอันธพาลกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าพ่อที่ทรงอิทธิพลในชุมชนแห่งนี้ เดินมุ่งหน้ามาหวังจะหาเรื่องตำรวจคนใหม่อย่างเตชินโดยเฉพาะ​ “กูได้ข่าวว่ามีตำรวจหน้าใหม่มาประจำการอยู่ที่นี่ว่ะ แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอกเพราะตำรวจคนก่อน ๆ ถ้าไม่ลาออกไปก็ตายสถาน​เดียว​!” “กูอยากรู้นักว่าไอ้ตำรวจใหม่คนนี้มันจะยอมตายหรือจะยอมลาออกไปซะดี ๆ” ชายฉกรรจ์สองคนพูดคุยกันอย่างสนุกปาก ขณะที่มะปรางเดินมุ่งหน้ามาหาเตชิน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยี่หวาและผองเพื่อนกำลัง​เดินมุ่งหน้าไปหาเตชินเช่นกัน ยี่หวาคือหญิงสาวที่คอยตามจีบกวินมาตั้งแต่เด็ก ๆ อีกทั้งยังเป็นคู่อริกับมะปราง “มาอยู่นี่นี่เอง ฉันตามหาแทบแย่” “พูดเรื่องอะไร” เตชินหันไปกระซิบถามมะปรางอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อสักครู่ก็เพิ่งคุยกันอยู่หยก ๆ มะปรางทำปากขมุบขมิบ ตอนแรกกะจะมาเอาคืนแต่กลายเป็นว่าเธอต้องช่วยเหลือเขาซะงั้น “ฉันเพิ่งชนะน็อกมา ขอบคุณมากเลยนะที่สอนศิลปะ​มวยไทยให้ฉัน วิธีของคุณช่วยฉันได้เยอะเลย นี่ฉันชกไอ้กวินไปแค่สองหมัดนะ ทำเอามันน็อกคาที่นอนคุยกับพื้นสนาม​ ป่านนี้คงได้หยอดน้ำข้าวต้มอีกหลายวันเลย” มะปรางพูดโวพร้อมกลอกตาไปมาใส่เตชิน ทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าทุกอย่างที่เธอพูดมันเป็นเพียงแค่อุบาย “นี่ขนาดแรงผู้หญิงนะ​ ยังเอาผู้ชาย​อย่างกวินน็อกคาที่เลย แล้ว​ถ้าฉันจะชกกับไอ้พวกปากหมาแถวนี้เธอคิดว่าพวกมันจะเป็นยังไง” “ไม่รู้สิ ลองดู​หน่อยไหมล่ะ” มะปรางตอบ เธอเองก็หมั่นไส้พวกลูกกระจอกของนายเจษฎาผู้ที่มีอิทธิพลในชุมชนแห่งนี้เหมือนกัน ชอบทำตัวเป็นมาเฟียกดขี่รังแกคนไม่มีทางสู้ “ฉันคิดว่าถ้ามันไม่ตายก็คงจะพิการ” เตชินเอ่ยพูดขณะที่​สายตามองชายฉกรรจ์ที่จงใจมาหาเรื่องเขาก่อนหน้านี้ “มึงจะเอาเหรอวะ” ด้วยความใจร้อนของพวกเขามันก็เกิดเรื่องจนได้ “กูพูดอยู่กับเด็กของกู พวกมึงมีปัญหาอะไร” เขาพูดพร้อมเอามือมาโอบกอดมะปรางอย่างหยอกล้อ แต่การกระทำนั้นทำให้ยี่หวาเกิดอาการสติแตก “อีมะปราง! แกอ่อยผู้กองเตชินเหรอ” ยี่หวากระชากแขนของมะปรางออกมาจากอ้อมกอดของเตชินแล้วตบหน้าของมะปรางอย่างแรง คนโดนกระทำหันไปมองยี่หวาตาค้อน อยู่ ๆ ก็มาทำร้ายเธอ​ด้วยเหตุผลไร้สาระ​ ผัวะ! หมัดหนัก ๆ ชกเข้าที่กลางใบหน้าของยี่หวาอย่างแรง “อ๊ะส์ อร้ายยยยย!” ยี่หวากรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากทางจมูก​ของตัวเอง​ “พวกแกจับอีมะปรางเอาไว้​ ฉันจะตบมัน!” ยี่หวาออกคำสั่งกับเพื่อนอีกสองคนให้จับตัวมะปรางเอาไว้ ซึ่งมะปรางก็ไม่น้อยหน้า เธอยกนิ้วชี้หน้าด่าเพื่อนของยี่หวาอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย “เข้ามาสิ แน่จริงก็เข้ามาเลย แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าพวกแกเข้ามา​ ฉันจะชกพวกแกสองคนให้จมูกเบี้ยวซิลิโคน​หลุดตามยัยยี่หวาไปเลย เอาไหมล่ะ” “ไม่ต้องไปกลัวมัน พวกแกจับมันเอาไว้ วันนี้ฉันจะตบแกให้หน้าเละเลยอีมะปราง” และแล้วมันก็เป็นเรื่องเป็นราว จนทำให้มะปรางและพวกของยี่หวาต้องไปเคลียร์กันที่โรงพัก แต่เรื่องมันก็ยังไม่จบง่าย ๆ “คุณตำรวจดูนี่สิ อี... มะ...มะปรางน่ะค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย เขาก็มาชกฉันจนเลือดตกยางออก​ ดูสิคะคุณ​ตำรวจ​” “อย่ามาตอแหล แกนั่นแหละที่ตบหน้าฉันก่อน” มะปรางพูดอย่างไม่ยอมความ เธอไม่ใช่นางเอกผู้อ่อนแอที่จะต้องมาก้มหน้ารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ “อย่าไปเชื่อนะคะคุณตำรวจ มันหาเรื่องฉันก่อนจริง ๆ​ ค่ะ” “แกนั่นแหละที่หาเรื่องฉันก่อน ตอแหลหน้าด้าน ๆ” “ไหน ๆ ๆ ใครทำอะไรลูกฉัน” ยี่โถเจ้าของร้านเสริมสวย​ แม่ของยี่หวาเดินเข้ามาพร้อมเอะอะโวยวายใหญ่โต “อ๋อ...แกนี่เองอีมะปรางลูกอีมะลิเน่า!” “อ่าวพูดงี้ก็สวยดิป้า!” “มันแน่นอนอยู่แล้ว ฉันเจ้าของร้านเสริมสวยนะย๊ะ” ยี่โถพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ​ “แม่! อีมะปรางมันชกจมูกหวาจนเลือดออกเลย” ยี่หวาฟ้องผู้เป็นแม่ ยี่โถจึงรีบเข้าไปดูลูกสาวของตัวเองด้วยความเป็นห่วง “อีมะปรางอีลูกพ่อแม่ไม่เคยสั่งสอน” “สอนสิ! สอนแล้วลูกฉันมันก็จำเอาเป็นเยี่ยงอย่าง​ด้วย” ขณะที่ยี่โถกำลังต่อว่าด่าทอมะปรางอยู่ มะลิผู้เป็นแม่ของมะปรางก็เดินมาพอดิบพอดี จึงทันได้ยินใครบางคนกำลังกล่าวถึงตัวเองอยู่ มะลิตอบโต้ยี่โถกลับไปเสียงเขียว ทั้งคู่เป็นคู่อริกันมาแต่ไหนแต่ไร “นี่สอนแล้วเหรอ สอนได้ดีแค่นี้นะเหรอ พวกแกมันก็เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก จรจัดทั้งคู่!” “หน็อยแน่! พวกแกมันสูงส่งมาจากไหนฮะถึงด่าคนอื่นว่าจรจัด ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะสอนลูกฉันมาเป็นอย่างดี แล้วฉันก็ยังสอนมันอีกว่าถ้ามีใครมาดูถูกเหยียบหยามศักดิ์ศรีเราแบบนี้ ก็ให้ตบมันได้เลยไม่ต้องไปไว้หน้ามัน” สิ้นคำพูด​ มะลิก็ตบหน้ายี่โถอย่างเอาเรื่อง บรรดาแม่ ๆ ของมะปรางกับยี่หวาต่างตบตีกันกลางโรงพักอย่างไม่มีใครยอมใคร “หยุด ๆ ๆ หยุดเดี๋ยวนี้! นี่โรงพักนะแม่คุณไม่ใช่ตลาดสด เกรงใจผมที่เป็นตำรวจยืนหัวโล้น ๆ อยู่ตรงนี้บ้าง” ตำรวจที่นั่งสอบสวนประจำการอยู่ตรงนั้นลุกขึ้นมาห้ามปรามพลางถอดหมวกโชว์ศีรษะไร้เส้นผมให้เหล่าบรรดาที่ทะเลาะวิวาทเมื่อครู่ดูอย่างประชดประชัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก​ที่สองบ้านนี้มีเรื่องมีราวกัน “เอาอย่างนี้ นอนคุกกันหมดนี้แหละ ไว้ผู้ปกครองมาประกันตัวเด็ก ๆ พรุ่งนี้แล้วกัน” “ไม่เห็นยุติธรรมเลยค่ะคุณตำรวจมันหาเรื่องฉันก่อนนะคะ” ยี่หวาพูดอย่างไม่ยอมความ ขณะที่ถูกตำรวจอีกสองนายควบคุมตัวให้ไปยังห้องขังของโรงพัก​ เพื่อสงบสติอารมณ์​ “ไป ๆ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน เออไอ้ปรางไปพบผู้กองก่อน ส่วนที่เหลือก็ไป” “ว่าไงนะคุณตำรวจ ทำไมมะปรางถึงได้เจอกับผู้กองเตชินก่อน” “เห้อ! ไป ๆ ๆ ไปเข้าห้องขังไม่ต้องถามมาก อยู่ดีไม่ว่าดีมีแต่เรื่อง” ตำรวจที่ควบคุมพูดออกมาอย่างเอือมระอา โดยที่ยี่หวากับผองเพื่อน​ต่างส่งเสียง​โวยวายไม่หยุดหย่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD