"แสบนักนะ…ไอ้ตัวเล็ก"
เมย์ลดาขับรถออกมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่และสาบานกับตัวเองไว้เป็นแน่วแน่ว่าเธอจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ถ้าเธอผิดคำพูดขอให้ได้คนใจร้ายเป็นสามีเธอคิดแบบนั้น ถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางได้คนหน้ายักษ์มาเป็นสามีหรอกเธอมั่นใจ
เมย์ลดากลับมาถึงคอนโดเธอใช้ห้องนี้เป็นที่พักตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยจนถึงปัจจุบัน มือเล็กกดโทรศัพท์ต่อสายหาผู้ที่เธอรักดั่งดวงใจ รอสายไม่นานเสียงหวานของคุณแม่ดาวของเธอก็เอ่ยขึ้น
"ว่าไงคะคนสวยของคุณแม่"
"งื้อ หนูเมย์คิดถึงคุณแม่กับคุณพ่อจังค่ะสัมภาษณ์งานวันนี้ไม่ดีเลย แต่หนูเมย์ว่าหนูเมย์ทำดีที่สุดแล้วนะคะคุณพ่อคุณแม่"เสียงหงอยๆถ่ายทอดออกไป จนดาวลดาอดห่วงลูกสาวตัวน้อยไม่ได้เพราะกลัวเธอคิดมาก
" อย่ายอมแพ้นะลูก วันนี้ไม่ใช่วันของเราสักวันมันต้องใช่วันของหนูเมย์ลูก"คุณแม่คนสวยเอ่ยปลอบใจลูกสาวด้วยเสียงที่นุ่มนวลจนคนฟังยิ้มตาหยีอีกครั้ง
"หนูเมย์ไปทำงานที่บริษัทของเราได้ไหมคะคุณแม่"
"ไม่ได้นะลูก อ๊ะ!!…"
เสียงร้องเจ็บปวดของผู้เป็นแม่ทำให้เด็กสาวใจร้อนรน โทรศัพท์ของดาวลดาร่วงลงพื้นโดยไม่ได้กดตัดสาย อาการปวดหัวถึงขั้นรุนแรงทำให้ดาวลดาถึงกับเลือดจมูกไหลสีมันแดงเข้มจนน่ากลัว
"พี่เตช่วยหนูดาวด้วย ฮึก ฮื่อ หนูดาวปวดหัว"
"หนูดาวทำไมเลือดออกแบบนี้ครับ พี่จะไม่ยอมให้หนูเป็นอะไรพี่จะพาหนูไปรักษาตัวที่เมืองนอก ทุกอย่างต้องดีพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปคุยกับเค้าพี่จะขายบริษัท"
เมย์ลดาได้ยินหมดทุกอย่าง ใจดวงน้อยอ่อนยวบเมื่อได้ยินกับหูว่าคุณแม่สุดที่รักของเธอไม่สบาย ทำไมเธอไม่รู้ทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงไม่บอก เมื่อได้สติเมย์ลดารีบขับรถไปยังโรงพยาบาลประจำตระกูลของเธอทันที
"คะ…คุณพ่อ"
เตชินถึงกับตกใจที่เห็นลูกสาววิ่งร้องไห้หาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ร่างเล็กอยู่ในอ้อมอกผู้เป็นพ่อ เธอร้องไห้จนตัวโยนสั่นเทิ้มแทบจะขาดใจตาย สิ่งที่เมย์ลดากลัวมากที่สุดคือกลัวท่านทั้งสองจะเป็นอะไร เธอกลัวท่านจะจากเธอไปแล้วปล่อยเธอไว้บนโลกใบนี้อย่างเดียวดาย แค่คนโตพี่ชายสุดที่รักทิ้งเธอไปเมื่อหลายสิบปีก่อนแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ตอนนั้นเธอเสียใจมากที่คนโตไปโดยไม่ลา เธอยังเล็กแต่ก็ยังพอสามารถจับใจความได้ ว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอโกหกว่าคนโตเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้อง จนทางคุณลุงไคท์ทราบข่าวว่าลูกชายแท้ๆของตัวเองที่ให้คุณหนูแม่ดาวอุ้มบุญให้ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจึงอยากรับคนโตไปอยู่ด้วยซึ่งตอนนั้นทั้งคุณลุงไคท์คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันยกใหญ่ และสุดท้ายทุกอย่างก็เงียบลง จนเธอมารู้อีกทีก็ตอนที่คนโตพี่ชายสุดที่รักของเธอได้ขึ้นรถคันใหญ่ออกจากรั้วบ้านไป ตอนนั้นเธอเสียใจมากวิ่งตามก็ไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุเข้ากับตัวจนได้
"หนูเมย์"
"ทำไมถึงไม่บอกหนู ฮึก ทำไมถึงปิดบังหนู"ร่างหนาปลอบโยนลูกรักด้วยการกอดให้แน่นขึ้น เค้าจะบอกได้ยังไงในเมื่อรับปากกับหนูดาวภรรยาสุดที่รักไว้แล้วและจะบอกได้ยังไง ถ้าลูกรู้เข้าใจคนเป็นพ่อก็กลัวเธอเสียใจแบบนี้ไง
"อย่าร้องไห้ลูกเดี๋ยวหายใจไม่ออกพ่อเป็นห่วง"เมย์ลดาเริ่มหายใจติดขัดถ้าเธอร้องไห้หนักๆเธอจะหายใจไม่ออก ตอนนั้นเธอเกือบตายที่คนโตจากไป เมย์ลดาร้องไห้จนต้องแอดมิทอยู่โรงพยาบาลหลายคืนเพราะร้องไห้เสียใจอย่างหนัก
เธอใช้มือเล็กๆทุบอกสองถึงสามครั้งทุกอย่างจึงค่อยๆดีขึ้น ดวงตากลมโตที่เคยหวานซึ้งกลับฉ่ำไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างเตชินด้วยคำถามมากมาย
"จะไปคุยกับเค้าคนนั้นเมื่อไรค่ะเรื่องขายบริษัท ให้หนูเมย์ไปด้วยได้ไหมคะ ให้หนูเมย์ไปเป็นเพื่อนคุณพ่อนะคะ"
"หนูอยู่กับคุณแม่นะลูกทุกอย่างพ่อจะจัดการเอง"
"แต่…"
เสียงประตูห้องฉุกเฉินที่ผลักออกมา ใบหน้าของหมอในตอนนี้มีความกังวลอย่างที่สุด เตชินกับเมล์ลดารีบเดินเข้าไปหาคุณหมอที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างร้อนรน เพราะอาการปวดหัวของหนูดาวมันเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
"ลุงหมอคุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ"
"ต้องผ้าตัดด่วนแล้วนะเต ก้อนเนื้อขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าช้ากลัวนี่พี่เกรงว่า…" ธีทัชลุงหมอผู้ใจดีของหนูเมย์ไม่กล้าเอ่ยอะไรไปมากกว่านี้ เพราะสายตาที่เตชินมองมาทำให้เค้าต้องหยุดพูด เค้าเข้าใจเตชินคงกลัวเด็กน้อยข้างกายใจเสียไปมากกว่านี้
"หนูอยู่กับลุงหมออยู่กับคุณแม่นะคะเดี๋ยวพ่อมา"