เมเตโอชะงักเท้างัน คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่เห็น แต่ยังไม่ทันจะได้พูดทักทายอะไรออกไป นิ้วเรียวของเด็กผู้หญิงที่พึ่งเคยเจอกันสองครั้งก็ชี้มายังร่างของเขาเสียก่อน
“หนู... หนูเข้ามาหาสามีของหนูค่ะ”
“สามี?”
คุณปู่ของเขาครางเบาๆ ในลำคอด้วยความตกใจ ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็ทั้งมึนงง และตกใจไม่แพ้โอลิเวอร์แม้แต่นิดเดียว
โอลิเวอร์เอียงคอหันไปตามนิ้วของคู่สนทนา ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหลานชายยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“หนูว่ายังไงนะ เจ้าแม็ตเป็น... สามีของหนูอย่างนั้นเหรอ?”
วาดดาวไม่อาจจะหาทางรอดใดได้อีกแล้ว นอกจากจำต้องโกหกแบบนี้ หล่อนมองเมเตโออย่างขอความเห็นใจ ก่อนจะกัดฟันยืนยันออกไปอีกครั้ง
“ใช่... ใช่ค่ะ หนู... หนูเป็นเมียของผู้ชายคนนั้นค่ะ”
บ้าไปแล้ว!
เมเตโอแทบสิ้นสติกับสิ่งที่ได้ยิน เขาสะบัดศีรษะแรงๆ ขณะก้าวยาวๆ เข้าไปหายายเด็กขี้โกหกอย่างเอาเรื่อง
“เธอพูดบ้าอะไรของเธอน่ะ”
“คุณปู่ดูสิคะ... ขนาดอยู่ต่อหน้าคุณปู่ คุณแม็ตยังทำท่ารังเกียจหนูเลย แล้วแบบนี้จะไม่ให้แอบเข้ามาได้ยังไงกันล่ะคะ” วาดดาวพึ่งรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าชื่อเล่นว่าแม็ตก็ตอนที่ชายชราเอ่ยเรียกนั่นแหละ
“เจ้าแม็ต นี่แกแอบมีเมียเด็ก แล้วยังไม่คิดจะรับผิดชอบอีกเหรอ”
“คุณปู่ครับ คือผม...” เมเตโอจ้องหน้าวาดดาวด้วยความเดือดดาล ในขณะที่เด็กสาวพยายามวิงวอนทางสายตา
‘ช่วยฉันหน่อย... ช่วยฉันหน่อยนะคะ’
แต่เมเตโอจะได้ยินเสียงในใจของหล่อนได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อหล่อนแค่วิงวอนในอกเท่านั้น
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแกจะเป็นคนไร้ความรับผิดชอบแบบนี้”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณปู่”
“ต้องให้เมียปีนรั้วเข้ามาหา แกนี่มัน... มัน...” โอลิเวอร์พูดได้แค่นั้นก็ยกมือขึ้นกุมหน้าอก สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เมเตโอเห็นก็ตกใจ รีบยอมรับเพราะไม่ต้องการให้ท่านเครียดมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ครับ คุณปู่... เด็กคนนี้เป็นเมียของผมครับ”
วาดดาวได้ยินก็ลอบเป่าปากอย่างโล่งอก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เหล่าบรรดาคนใช้แห่กันเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณแม็ต”
ป้าเกรซถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นเมเตโอคุกเข่าอยู่ข้างรถเข็นของโอลิเวอร์
“รบกวนป้าเกรซไปหยิบยาของคุณปู่มาให้ผมหน่อยครับ คุณปู่อาการกำเริบอีกแล้ว”
“ไม่ต้อง... ปู่ไม่เป็นอะไรแล้ว” โอลิเวอร์เงยหน้าขึ้น พลางเหลือบตาไปมองวาดดาว
“หนูไม่ได้หลอกฉัน หนูเป็นเมียของเจ้าแม็ตจริงๆ ใช่ไหม”
“เมีย?!” คนใช้ทุกคนต่างพร้อมใจกันประสานเสียง
วาดดาวกระอักกระอ่วนที่จะโกหกต่อไปเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่กันแค่สามคนเหมือนเมื่อครู่นี้แล้ว แต่หล่อนมีทางเลือกหรือ
“จะ... จริงค่ะ”
เสียงคำรามเบาๆ ดังขึ้นในลำคอแกร่งของผู้ชายที่มองมายังหล่อนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาจ้องหน้าหล่อนเขม็งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะหันไปพูดเสียงนุ่มกับชายชรา
“คุณปู่ไปพักผ่อนก่อนนะครับ ผมขอเวลาจัดการกับ... เมียสักครู่ครับ” น้ำเสียงของเขาช่างดุดันนักยามเอ่ยคำว่า ‘เมีย’
โอลิเวอร์หันมายิ้มกว้างให้หล่อน นัยน์สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดูจนหล่อนละอายใจ
“ไว้เจอกันมื้อค่ำนะหนู... เอ่อ ฉันยังไม่รู้จักชื่อของหนูเลย”
“วาด... วาดดาวค่ะ”
“วาดดาวหรือ” โอลิเวอร์อมยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ห่างหายไปจากใบหน้าชราสิบกว่าปีแล้ว “ชื่อเพราะจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าแม็ตมันจะตาถึงเลือกหนูมาเป็นเมีย”
“ครับคุณปู่” เมเตโอกัดฟันก้มหน้าลงซ่อนความเดือดดาลจากสายตาของโอลิเวอร์อย่างสุดความสามารถ
“ติดนิดเดียว หนูดูเด็กไปหน่อย”
“เด็กสมัยนี้แก่แดดจะตายไปครับ”
ผู้ชายรูปหล่อตรงหน้าจงใจว่าหล่อนตรงๆ เขาจ้องหน้าหล่อน จนหล่อนต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
“เอาน่าเจ้าแม็ต ถึงหนูวาดดาวจะดูเล็กไปสักหน่อย แต่ดูจากทรงแล้วมีลูกได้ไม่ยาก”
“ลูก?!” วาดดาวครางเสียงแหบแห้งอย่างตกใจ เมเตโอแค่นยิ้มหยัน ในขณะที่โอลิเวอร์ยิ้มพึงพอใจ
“เอาล่ะฉันชักจะง่วงจริงๆ แล้วสิ แม่เกรซมาพาฉันไปพักหน่อย ได้นอนก่อนเวลามื้อค่ำคงจะทำให้สดชื่นไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ค่ะ คุณท่าน”
ป้าเกรซเองก็งงจนแทบทรุด แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยถามอะไรออกไปได้ นอกจากทำตามคำสั่งของโอลิเวอร์เท่านั้น
วาดดาวอาศัยช่วงจังหวะที่ทุกคนหันไปสนใจโอลิเวอร์จะปลีกตัวหนี แต่เมเตโอหันมาเห็นซะก่อน
“จะรีบไปไหนล่ะ แม่เมียเด็กของฉัน!”
คนตัวเล็กชะงักตัวแข็งทื่อ เท้าก้าวหนีไปไหนไม่ได้ราวกับตกอยู่ในหลุมมนต์ดำ
เมเตโอหัวเราะเยาะในลำคอ ขณะเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้าของยายเด็กนรกที่เขาไม่คิดว่าจะแสบสันขนาดนี้
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
แล้วข้อมือของหล่อนถูกคว้าหมับ
“เยอะเลย”
ร่างของหล่อนถูกกระชากให้เดินตามมัจจุราชลงไปในนรกอย่างไม่อาจจะขัดขืนอะไรได้อีกแล้ว