พลีสรวบรวมสติเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินข้าวกันอย่างสบายใจ ทว่ายังไม่ทันเดินไปถึงโต๊ะ กิ่งแก้วก็ยืนขึ้นและยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากเธียเตอร์ก่อนจะถอยหน้าออกมาเผยรอยยิ้ม ก่อนทั้งคู่จะสังเกตเห็นคนมาใหม่
“อ้าว พลีส มาได้ยังไงน่ะ ไม่ใช่ว่าวันนี้นอนพักผ่อนอยู่ห้องอย่างนั้นเหรอ” เธียเตอร์ถามด้วยความสงสัย
พลีสไม่ตอบ แต่กลับยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาสาดใส่หน้าอีกฝ่าย ก่อนจะปาแก้วเข้ากำแพงจนเศษแก้วแตกกระจายไปทั่วโต๊ะอาหาร ผู้คนในร้านต่างหันมามองเธอเป็นจุดเดียว ทว่าเธอไม่สนใจใครทั้งนั้น ร่างบางหันหลังและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเรย์กับเอ็มเห็นเพื่อนสาวเดินออกมาก็รีบเข้าไปประกบข้าง พยายามปลอบใจที่กำลังบอบช้ำเกินจะทน ทว่ากลับพลีสยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม จนต้องลงไปนั่งยองกอดขาตัวเองอยู่ที่พื้น ทันใดนั้นเธียเตอร์ก็วิ่งออกมาหาแฟนสาว
“พลีส”
เอ็มไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้แตะต้องตัวเพื่อนสาว รีบเดินเข้าไปต่อยหน้าคมสันหนึ่งหมัด จนร่างสูงล้มลงไปนั่งอยู่ที่พื้น ก่อนจะชี้หน้าใส่ด้วยความโมโหแล้วกล่าวต่อว่า
“ออกไปให้ห่าง ๆ จากพลีสเลยนะพี่เธียเตอร์ พี่ทำให้พลีสเสียใจมาหลายครั้งแล้ว รู้บ้างรึเปล่า”
เธียเตอร์ไม่ได้ตอบกลับไป เพราะเขายังคงมองพลีสจากด้านหลัง รับรู้ได้ถึงความเสียใจที่เธอกำลังแสดงออกมา
“พลีส พี่ขอโทษ”
“พี่รู้จักคำว่าขอโทษด้วยเหรอคะ หนูว่านะ ถ้าพี่จะขอโทษจริง ๆ พี่หายไปจากชีวิตของพลีสเถอะ ให้เธอไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าพี่” เรย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เรย์ เอ็ม พี่ขอคุยกับพลีสเถอะ”
“ไม่ต้อง ออกไปไกล ๆ เลย” พลีสตะโกนแทรกขึ้นมาทันที
ได้ยินอย่างนั้นเธียเตอร์ก็ยอมเดินกลับเข้าไปในร้านอาหาร จากนั้นพลีสก็รู้สึกมึนหัวจนล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น เรย์และเอ็มต่างรีบพยุงร่างกายเพื่อนสนิทกลับไปที่คอนโดฯ ด้วยความเป็นห่วง
เมื่อพลีสลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเองแล้ว ก่อนจะหันไปเห็นเรย์และเอ็มนั่งอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง ทั้งคู่ต่างทำสีหน้าเป็นห่วง แต่ภายในมือเรย์นั้นกำลังถือบางอย่างอยู่ เป็นที่ตรวจครรภ์ที่เธอทิ้งเอาไว้ในถังขยะห้องน้ำ เรย์ชูขึ้นมาให้พลีสได้เห็นก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล
“พลีส มึงท้องเหรอ รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไร”
พลีสนิ่งเงียบไป จนเรย์ต้องวางที่ตรวจครรภ์ไว้ข้างเตียง แล้วลุกมาโอบกอดเธอด้วยความห่วงใย พานให้พลีสร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เอ็มเห็นดังนั้นจึงเข้ามาสวมกอดเธอด้วยอีกคน ต่างช่วยกันปลอบประโลมจิตใจอยู่ไม่ห่าง ทั้งคู่ไม่นึกเลยว่าพลีสจะต้องมาเผชิญเรื่องพวกนี้ตัวคนเดียว คราวนี้พวกเธอจะเป็นฝ่ายปลอบพลีสเสียบ้าง ปกติมีแต่พลีสที่คอยเป็นที่ปรึกษาและเป็นฝ่ายปลอบใจเพื่อนทุกครั้ง
...
เรย์และเอ็มอยู่กับพลีสจนถึงเที่ยงคืนก่อนจะขอตัวแยกย้ายกลับบ้าน ปล่อยให้คนอกหักนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องไป แต่ค่ำคืนนี้ฝนกลับตกหนัก ฟ้าร้องเสียงดังโครมครามจนเธอไม่สามารถนอนหลับได้ บรรยากาศเป็นใจให้คนที่กำลังโศกเศร้าเริ่มสองจิตสองใจ ครุ่นคิดว่าจะเก็บเด็กเอาไว้หรือจะทำแท้งดี เนื่องด้วยสังคมสมัยนี้การทำแท้งไม่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อยู่ที่ตัวผู้หญิงนั้นพร้อมจะให้กำเนิดลูกน้อยหรือไม่ หากเด็กเกิดมาในภาวะที่การเงินยังไม่พร้อมจะยิ่งลำบากกว่าเดิม
พลีสทำงานเก็บเงินอดออมมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่ว่าจะทำงานพาร์ตไทม์ ทำงานฟรีแลนซ์ และยังขายของในบูทของมหาวิทยาลัยที่มีการจัดแต่ละครั้งด้วย จนสามารถซื้อคอนโดฯ ด้วยเงินของตัวเองในตอนเรียนจบได้ ถือว่าความฝันของเธอนั้นสำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่เวลานี้เงินเก็บเหลือเพียงเล็กน้อย ต้องกลับมาเก็บเงินอดออมใหม่ตั้งแต่ต้น ขณะที่เธียเตอร์ไม่เคยช่วยเรื่องการเงินเลยสักครั้งเดียว มีแต่ขอเงินเธอเพื่อซื้อของเข้ามา ใช้เงินจ่ายฟุ่มเฟือยไปกับของกินบ้าง ของใช้บางอย่างที่ไม่จำเป็นบ้าง บางครั้งก็ซื้อเกมใหม่มาเล่นโดยไม่บอกพลีสสักนิดเดียว
หญิงสาวนอนกระสับกระส่ายครุ่นคิดไม่ตก จึงตัดสินใจลุกขึ้นมาทำงานต่อจากเมื่อเย็น ผ่านไปได้สักพักเธียเตอร์ก็ไขกุญแจเข้ามาในสภาพเปียกชุ่มไปทั้งตัว พลีสยังคงทำตัวเฉยชา ไม่สนใจอีกฝ่าย ก้มหน้าก้มตาทำงานตัดคลิปตรงหน้าต่อ เขาอยากทำอะไรก็เชิญ หากจะขนเสื้อผ้าออกจากห้องก็ไม่ห้าม ทว่าเธียเตอร์กลับเดินตรงมาสวมกอดเธอจากด้านหลัง
“พลีส พี่ขอโทษ” เธียเตอร์กล่าวเสียงอ่อน
“พี่ขอโทษหนูไปกี่ครั้งแล้ว นับได้ไหม”
เธียเตอร์นิ่งเงียบไป พลีสจึงเอามือเขาออกและหันหน้าไปกอดอกมองอีกฝ่าย ดวงตาของหญิงสาวเวลานี้บวมแดงจากการร้องไห้มาตลอดทั้งวัน
“หะ...ให้โอกาส พี่อีก...” เขายังไม่ทันพูดจบ เธอก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
“หนูให้โอกาสพี่ไปหลายครั้งมากนะ พี่เคยคิดถึงอนาคตของเราสองคนไหม เก็บเงินไว้ใช้จ่ายฉุกเฉินในอนาคต ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่มีผู้หญิงคนอื่นนอกจากหนู ช่วยทำความสะอาดห้อง ไม่ใช่ทำรกเละเทะเหมือนห้องเป็นกองขยะ นิสัยบางอย่างที่ผ่านมา หนูยอมปล่อย ๆ ไปได้นะ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือพี่เจ้าชู้ ไม่นึกถึงผลที่จะตามหลังมาเลย ที่หนูยอมกลับมาคบกับพี่อยู่หลายครั้ง ก็เพราะว่าหนูรักพี่” พลีสระบายความในใจทั้งหมดออกมาพร้อมด้วยน้ำตานองหน้า แต่เธอก็พยายามปาดน้ำตาออกไป
“ขอโทษ” เธียเตอร์กล่าวคำขอโทษอีกครั้งเสียงแผ่วเบา
“ขอโทษบ่อยเกินไปแล้วนะคะ คิดว่าคำขอโทษที่พูดออกมาจากปากแค่นั้นจะช่วยทำให้หนูหายโกรธเหรอ ถามจริง ๆ นะ พี่เคยรักหนูจริง ๆ ...รึเปล่า” ท้ายประโยคน้ำเสียงของพลีสเริ่มสั่นคลอเล็กน้อย
“รักดิ ไม่อย่างนั้นพี่จะขอกลับมาคบกับหนูทำไมหลายครั้งล่ะ”
พลีสลุกขึ้นจากเก้าอี้และพูดต่อ “ถ้ารักหนูจริง ก็เลิกเจ้าชู้สักทีสิ ทำได้จริง ๆ รึเปล่า ถ้าทำไม่ได้ หนูว่าเราห่างกันสักพักเถอะ”
“ไม่ พี่ไม่ยอมเลิกแล้ว พี่รู้ว่าหนูไม่อยากเลิกกับพี่จริง ๆ หรอก” เธียเตอร์พูดพร้อมกับยื่นมือมาจับไหล่บางไว้ ทว่พลีสกลับปัดมือเขาออกไป