สองเดือนต่อมา แสงแดดยามเช้าที่แสนสดใสสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ทว่าวันนี้พลีสกลับไม่สดใสเอาเสียเลย เธอลุกขึ้นวิ่งจากเตียงไปที่ห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง หญิงสาวมีอาการนี้ในยามเช้ามาเกือบหนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว และทุกครั้งที่อาเจียนเสร็จก็มักจะอ่อนแรงจนต้องขอนอนพักต่อ ส่วนเธียเตอร์นั้นยังไม่กลับมาที่ห้องตั้งแต่เมื่อคืน ในช่วงหลัง ๆ นี้เขาไม่ค่อยกลับห้องเท่าไรจนพลีสเริ่มมั่นใจแล้วว่าเขาต้องแอบไปมีชู้อีกแน่นอน
หญิงสาวคิดไม่ตก นอกจากเรื่องของแฟนหนุ่มแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาประจำเดือนเธอก็ขาดไปแล้วถึงสองเดือน ทีแรกคิดเพียงแค่ประจำเดือนอาจจะเลื่อนเพราะความเครียด ทำงานหนักเกิน และพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่นานวันเข้าก็เริ่มผิดสังเกต เธอจึงตัดสินใจลองตรวจครรภ์ดู
หัวใจของพลีสตกลงไปอยู่ตาตุ่มในทันทีที่เห็นผลตรวจขึ้นสองขีด ได้แต่สบถซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลคลอเบ้าอาบแก้มทั้งสองข้าง ในที่สุดสิ่งที่เธอกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น หญิงสาวรีบเดินไปที่โต๊ะทำงาน คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.หาเธียเตอร์อย่างไม่รอช้า ทว่าโทร.เท่าไรก็ไม่ติด ร่างบางทิ้งตัวลงไปนั่งกอดขาอยู่ข้างเตียง แล้วก้มหน้าร้องไห้เบา ๆ เธอยังไม่พร้อมจะมีลูกในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้
ผ่านไปเกือบสามชั่วโมง ในที่สุดสายที่เธอกำลังรอคอยก็ดังขึ้นมา พลีสรีบเช็ดน้ำตาและกดรับสายอย่างรวดเร็ว
(ฮัลโหล หนูโทร.มาหาพี่มีอะไรรึเปล่า) เธียเตอร์ถามด้วยความสงสัย
“พี่อยู่ที่ไหนเหรอ ตอนนี้” หญิงสาวพยายามไม่ให้เสียงสั่น
(พี่อยู่ที่บริษัทน่ะ)
ระหว่างนั้นพลีสได้ยินเสียงของกิตรกับสิงห์แทรกเข้ามา ผู้ช่วยผู้กำกับของเขากำลังพูดคุยกันเรื่องสำคัญกับฝ่ายเขียนบท เกี่ยวกับบทละครเรื่องใหม่
“งั้นเหรอคะ แล้วเมื่อคืนทำไมไม่กลับ”
(พี่ก็วุ่นวายกับงานอยู่ยังไงล่ะ ว่าแต่หนูมีอะไรรึเปล่า)
พลีสยังไม่กล้าพูดความจริงออกไป เธอกำโทรศัพท์ในมืออย่างแน่นก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงสิ้นหวัง
“ไม่มีอะไรหรอกคะ แค่อยากรู้ว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่”
(ถ้าไม่มีอะไร งั้นพี่ขอทำงานต่อนะ)
“ค่ะ”
ทันใดนั้นเธียเตอร์ก็ตัดสายไปทันที เธอนั่งก้มมองพื้นด้วยความเศร้าพร้อมกับวางโทรศัพท์ไว้ข้างเท้าตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่าความจริงแล้ว ทุกครั้งที่เธียเตอร์ไม่ได้กลับห้องเขามักไปอยู่กับกิ่งแก้วที่ห้องนอนของเธอทั้งคืน
ทางด้านเธียเตอร์ที่กำลังประชุมงานอยู่นั้น เมื่อโทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือนขึ้นเขาก็หยิบขึ้นมาดู และทันทีที่รู้ว่าเป็นกิ่งแก้วจึงรีบกดเปิดอ่านข้อความอย่างรวดเร็ว
“คืนนี้สนใจมาหาที่ห้องไหม มีของดีให้ดูด้วยนะ” หลังจากนั้นกิ่งแก้วก็ส่งรูปเสื้อผ้าที่ชุดใหม่ให้เขาได้ดู เป็นชุดนอนที่ไม่ได้นอน
“คืนนี้คงไม่ได้นะครับ แฟนผมโทร.จิกตั้งแต่เช้า คุณก็รู้”
“งั้นเหรอ”
“ครับ”
“ถ้างั้น คืนนี้เราไปนั่งกินข้าวกัน”
“ได้ แต่ก่อนกลับจากร้านอาหาร ผมขอสักน้ำกับคุณในห้องน้ำได้ไหม”
กิ่งแก้วส่งสติกเกอร์โอเคตอบกลับมาทันที ถือเป็นการตกลงในแบบลับ ๆ
เธียเตอร์พิมพ์แชตพร้อมกับยิ้มมุมแก้ม โดยไม่ได้ยินกิตรที่เรียกเขาซ้ำอยู่หลายรอบ กระทั่งอีกฝ่ายเรียกด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมจึงรู้สึกตัว เขารีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่ออย่างเคร่งเครียด
...
ผ่านมาถึงช่วงเย็นที่พลีสกำลังนั่งตัดต่อคลิปอยู่ที่โต๊ะทำงาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น หญิงสาวหันไปมองดูโทรศัพท์ด้วยแววตาเศร้าหมอง ก่อนยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายและกดเปิดลำโพง แล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะทำงาน สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า มือขยับลากตัวฟุตเทจบางตัวไปยังตำแหน่งที่สมควรวาง
“มีอะไรเอ็ม” พลีสพูดกับคนปลายสาย
(มึง ยังคบกับพี่เธียเตอร์อยู่ใช่ไหม) เพื่อนสนิทถามด้วยความสงสัย
“อืม ทำไมเหรอ”
(มึงมาที่ร้านอาหารตอนนี้เลย กูว่ามึงต้องได้เห็นกับตา)
“เห็นอะไร” พลีสงุนงงพร้อมกับบันทึกไฟล์งานก่อนจะมาสนใจกับโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะ
ทว่าดูเหมือนพลีสจะไม่ได้คุยเพียงแค่เอ็มเท่านั้น ภายในสายยังมีเสียงของเพื่อนสนิทอีกคนแทรกขึ้นมาด้วย
(เอ็ม เอาโทรศัพท์มาให้กูคุยกับพลีส ด่วน)
(ได้ ๆ)
(พลีส มึงมาเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง ก่อนที่มึงจะเสียผัวมึงไปอีกครั้ง) เรย์ตะโกนบอกเสียงดัง
หลังจากได้ยินเพื่อนสนิททั้งสองคนพูดอย่างนั้น พลีสก็ตกลงจะไปหาอย่างไม่ลังเล เอ็มจึงส่งที่อยู่
ณ ปัจจุบันให้ทันที ใช้เวลาไม่นานพลีสก็ไปถึงร้านอาหารที่ทั้งคู่กำลังยืนรออยู่ด้านหน้า เรย์เดินเข้ามาหาด้วยความใจเย็น ก่อนจะใช้มือแตะไหล่คนมาใหม่
“มึงเดินเข้าไปแล้วจะเห็นเองนะ”
สิ้นคำพลีสก็รีบเดินเข้าไปในร้านอาหารอย่างไม่รอช้า เธอกวาดสายตามองดูภายในร้าน ก่อนจะเห็นแฟนหนุ่มกำลังกินข้าวอยู่กับกิ่งแก้วด้วยท่าทีกะหนุงกะหนิง หญิงสาวรู้สึกเสียใจเกินบรรยายที่ต้องมาเห็นพฤติกรรมของแฟนหนุ่มแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก หยดน้ำตาใส ๆ ไหลลงมาอาบแก้มเป็นครั้งที่สองของวัน เขาไม่เคยเปลี่ยนเลย ทั้งที่สัญญาว่าจะไม่เจ้าชู้อีก จะมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น