ตอนที่ 17 (จบ)

1233 Words
ทางด้านในห้องครัว ป๊ากำลังผัดไก่ พริก ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอี๊วขาวและน้ำมันงาให้เข้ากัน ส่วนพลีสรับหน้าที่จัดการเอาเกี๊ยวซ่าที่เพิ่งพับจีบเสร็จลงหม้อนึ่ง อาหารมื้อนี้มีทั้งไก่ผัดพริกเสฉวน เกี๊ยวนึ่ง เสี่ยวหลงเปา เต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวน และหมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง ใช้เวลาไม่นานทุกจานก็ได้ถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนต่างตักกินอาหารเลิศรสอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนน้องฟิล์มก็นอนหลับอุตุอยู่ในเปลนอนเก่าของพลีสสมัยยังเป็นเด็กทารก “นี่ม้ายังเก็บเปลไว้อีกเหรอคะ” “อืม ถึงมันจะเก่า แต่ก็ยังใช้ได้” ได้ยินอย่างนั้นพลีสก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ คีบหมูสามชั้นพร้อมกับผักกาดดองเข้าปากเคี้ยวอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่ป๊าแอบมองชายหนุ่มด้วยหางตา ทันทีที่เขากำลังคีบไก่เข้าปากก็ได้เอ่ยถามขึ้นมา “เป็นยังไงบ้างล่ะ งานกำกับอะไรของลื้อน่ะ เก็บเงินไปถึงไหนแล้ว” “ก็…เก็บได้เยอะอยู่ครับ” เธียเตอร์หยุดชะงักและคีบไก่ลงในชามเหมือนเดิม “งั้นเหรอ” “ครับ คือว่า...ถ้าผมขออะไรบางอย่าง คุณอาจะยอมไหมครับ” เธียเตอร์ตัดสินใจเอ่ยพูดในสิ่งที่ติดค้างในใจมานาน “ยอมอะไร” ชายวัยกลางถามด้วยความสงสัย ขณะที่พลีสและม้าก็มองมาด้วยเช่นกัน “คือ...คือว่า ผมอยากจะขอลูกสาวคุณอาแต่งงานน่ะครับ” เมื่อเธียเตอร์ได้พูดอย่างนั้น ป๊าวางชามข้าวในมือพร้อมกับตะเกียบลงบนโต๊ะ กอดอกตัวเอง “จะขอลูกสาวอั๊วแต่งงานอย่างนั้นรึ” เธียเตอร์พยักหน้ายืนยัน ก่อนจะอีกฝ่ายจะถอนหายใจออกมา “ถ้าอย่างนั้นลื้อก็พาพ่อแม่ลื้อมาที่บ้านอั๊ว จะได้พูดคุยกัน” สิ้นคำพูดนั้นทั้งพลีสและเธียเตอร์ต่างก็หันมายิ้มกันอย่างดีใจ “นี่ป๊ายอมรับเขาแล้วเหรอคะ” พลีสถามด้วยความประหลาดใจ “อืม ระหว่างที่ลื้อท้องอยู่ก็ไม่มีข่าวจากลื้อว่ามันออกนอกลู่นอกทางเลยนี่ ก็ต้องยอม ๆ ไป ลื้อรักของลื้อมากขนาดนี้ อั๊วคงไปห้ามลื้อไม่ได้แล้วละ จริงไหมอาพลีส” “หนูรักป๊าจังเลย ในที่สุดก็ยอมเข้าใจหนู” พลีสเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นพ่อด้วยความดีใจ ท่านจึงยกมือขึ้นมาลูบหัวลูกสาวอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณนะครับป๊า” เธียเตอร์กล่าวขอบคุณจากใจจริง “แต่บอกไว้ก่อนนะ ถึงแม้พวกเราจะยอมให้ลื้อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแล้ว แต่ถ้าลื้อทำลูกสาวอั๊วเสียใจเมื่อไรก็รับลูกซองซะ” ม้าพูดแทรกขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉยและคีบเกี๊ยวนึ่งที่จิ้มจิ๊กโฉ่วเข้าปาก “ครับ ผมสัญญา” พลีสเดินไปสวมกอดเขาด้วยความดีใจที่ป๊าและม้ายอมรับเขาสักที จากนั้นทุกคนก็กลับมานั่งกินข้าวกันอีกครั้ง บรรยากาศเป็นไปด้วยความผ่อนคลายมากขึ้น กำแพงที่ผู้ใหญ่ทั้งสองมีต่อลูกเขยดูเหมือนจะลดน้อยลงไปมากแล้ว ผ่านไปไม่กี่วันเธียเตอร์ก็มาที่บ้านของพลีสอีกครั้งพร้อมกับพ่อแม่ ทางผู้ใหญ่ต่างพูดคุยกัน ทั้งเรื่องสินสอด และเรื่องลูกของสองฝ่าย ส่วนเธียเตอร์กับพลีสกำลังเลี้ยงลูกอยู่อีกห้องหนึ่ง เธอจัดการเปลี่ยนแพมเพิสให้เจ้าตัวน้อย โดยมีเขายืนมองให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ... ห้าเดือนต่อมา วันแต่งงานของพลีสและเธียเตอร์ถูกจัดขึ้นในรูปแบบประเพณีจีนผสมไทย พลีสกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องเจ้าสาว โดยมีม้าเป็นคนจัดการเรื่องแต่งตัวให้ หญิงสาวดูสวยงดงามเป็นพิเศษ ทว่าใบหน้าที่ถูกประทินโฉมอย่างประณีตกลับดูกังวลเล็กน้อย จนม้าต้องถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรรึ อาพลีส ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” “ไม่มีไรหรอกค่ะม้า ก็แค่กังวลนิดหน่อย” “ไหน บอกม้าซิ ว่ากังวลเรื่องอะไร” “หนูกลัวทำงานแต่งตัวเองล่มแค่นั้นเอง ตื่นเวทีน่ะค่ะ” “โถ ลูกสาวของม้า ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ลื้อไม่ต้องกังวลไปหรอก ยิ้มเข้าไว้ วันนี้เป็นวันแต่งงานของลื้อกับอาเธียเตอร์นะ” ได้ยินอย่างนั้นพลีสก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว และยิ้มออกมาให้เห็นเด่นชัด ส่วนทางฝั่งเธียเตอร์นั้นกำลังต้อนรับแขกผู้ใหญ่อยู่ภายในงาน อาหารที่ถูกจัดเสิร์ฟเลี้ยงแขกมีทั้งผัดวุ้นเส้น เห็ดหอมทอดกระเทียม ขนมกุ้ยช่ายนึ่ง ผัดผักเกาฮะไฉ่ สลัดหัวใจหมู ไส้หมูพะโล้ ตับทอดกระเทียม ปลานึ่งซีอิ๊ว ปูทะเลนึ่ง ไก่ต้มน้ำปลา ทุกอย่างล้วนเป็นของมงคลในงานแต่งจากร้านของพลีสทั้งสิ้น รสชาติที่ยอดเยี่ยมมีแต่ร้านของครอบครัวนี้เท่านั้น เมื่อถึงฤกษ์งามยามดีแล้วนั้น ดนตรีหวานซึ้งก็ถูกบรรเลงขึ้น เธียเตอร์ในชุดแต่งงานสีขาวยืนมองเจ้าสาวอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงกำลังควงแขนคนเป็นพ่อเดินเข้ามา แขกทุกคนต่างยืนมองเธอเป็นตาเดียวกัน จนร่างบางมาหยุดอยู่ตรงหน้า ป๊าก็ปล่อยแขนลูกสาวและส่งมอบให้กับเธียเตอร์ “ดูแลลูกสาวอั๊วดี ๆ ล่ะ” “ครับป๊า” หลังจากนั้นพ่อเจ้าสาวก็เดินขึ้นไปบนเวทีและนั่งลงข้าง ๆ ภรรยาบนโซฟา จากนั้นเธียเตอร์ก็ได้พาพลีสขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำพิธีต่อไป หนึ่งคำนับฟ้าดิน สองคำนับเจ้าที่ในบ้าน สามคำนับบรรพบุรุษ สี่คำนับพ่อแม่ และสุดท้ายคำนับแก่กันเอง เพื่อบอกกล่าวถึงทั้งคู่ต่างได้แต่งงานกันแล้ว ต่อมาเป็นพิธียกน้ำชา บ่าวสาวค่อย ๆ คุกเข่าคลานเข้าไปหาผู้ใหญ่พร้อมกับถือถาดน้ำชาส่งให้กับทั้งสองฝ่าย จากนั้นสองครอบครัวก็ได้ให้ศีลให้พร ขอให้ทั้งคู่มีความสุข รักกันยาวนาน ช่วยกันเจริญก้าวหน้า ไม่ทอดทิ้งกันในยามลำบาก และได้มอบเงินใส่ไว้ในถาด เพื่อให้ได้เริ่มต้นชีวิตคู่อย่างราบรื่น ก่อนที่ทั้งคู่จะผลัดกันป้อนขนมบัวลอยจีน กระทั่งเสร็จสิ้นพิธีการ จากนั้นทุกคนก็ได้ถ่ายรูปร่วมกันโดยมีเจ้าตัวน้อยนั่งอยู่บนตักของเจ้าสาว ถึงแม้ว่าอดีตเธียเตอร์จะทำเรื่องผิดพลาดกับพลีสมาหลายหน แต่เธอก็ยังคงมอบโอกาสให้เขาได้ปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนหญิงสาวก็ยังคงรักชายหนุ่มไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาก็ตาม และในที่สุดความฝันของพลีสก็เป็นจริง ได้แต่งงานกับคู่ชีวิตของตัวเอง ส่วนเธียเตอร์ปรับปรุงตัวตามที่สัญญาไว้ ไม่คิดจะเจ้าชู้หรือแอบไปมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนอื่นนอกจากพลีสผู้เดียว อีกทั้งยังตั้งใจขยันทำงานเป็นพิเศษ เรียนรู้แล้วว่ารักแท้ที่มีนั้นสำคัญเพียงใด ทั้งสองต่างให้คำมั่นสัญญาแก่กันว่านับจากนี้จะไม่มีวันทอดทิ้งกันไปตราบจนสิ้นลมหายใจ จบบริบูรณ์ ……

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD