3

1332 Words
1 ปีผ่านไป.... “ไล่ออก!” “อะไรนะคะ ถึงกับจะไล่ออกเชียวหรือคะ” “เธอไปรับเงินเดือนล่วงหน้าที่แผนกการเงิน และออกไปจากที่นี่ได้แล้ว” หญิงสาวหน้าซีดเผือด จู่ๆ ก็ต้องตกงาน ไร่ส้มพนาไพรจ่ายโบนัสปีละสามเดือนนับว่าสูงแล้วสำหรับธุรกิจการเกษตร ปทุมมาลย์ลุกขึ้นยกมือไหว้พ่อเลี้ยงอย่างไม่ยินยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าแอบทุจริตในหน้าที่ รับสินบนของบริษัทบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่งทำให้สินค้ามีสเปกต่ำลง วันนี้พ่อเลี้ยงพนากางหลักฐานต่อหน้า ทำให้ปทุมมาลย์พูดไม่ออก เธอไม่อยากถูกไล่ออกจากที่นี่ นอกจากงานดี เงินดี พ่อเลี้ยงพนายังเป็นผู้ชายที่เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในชีวิต เธอก็พยามอ่อยเพราะได้ยินว่าสวยๆ พ่อเลี้ยงฟาดไม่เลือก แต่น่าแปลกไม่ยอมฟาดพนักงานสวยๆ ในไร่สักคน ทั้งที่มีคนรอให้ฟาดอยู่เพียบ อย่างน้อยก็เธอคนหนึ่งที่อ่อยมาตลอด แต่ช้างไม่ยอมกินอ้อยที่พยายามอ่อยสักที ปทุมมาลย์ยืนขึ้นอย่างจำใจ แล้วยกมือไหว้ “ปทุมลาก่อนนะคะพ่อเลี้ยง” อย่างน้อยพ่อเลี้ยงก็ยังใจดีไม่จับเธอส่งตำรวจ นี่คงเพราะเห็นแก่ความสวยของเธอละมั้ง ปทุมมาลย์คิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าความผิดที่ทุจริตในหน้าที่รับสินบนใต้โต๊ะ จะปรับโดยการให้พ่อเลี้ยงพนาลงโทษด้วยตัวเอง แหม...เธอจะยินดีรับโทษทันที ทรมานบนเตียงสักกี่คืนก็ยอม “ไปรับซองเสร็จแล้ว ก็ไปโรงพักต่อนะ ตำรวจขับรถมารอรับเธอนานแล้ว” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม หญิงสาวคิดว่าตนเองคงรอดแล้วพ่อเลี้ยงคงเห็นที่เธอทำงานหลายปีด้วยความซื่อสัตย์ แต่ที่ไหนได้ ปทุมมาลย์หน้าเหวอ ยืนแข็งค้างทำอะไรไม่ถูก “ที่จริงเธอทุจริตในหน้าที่ ฉันไม่ต้องให้ค่าแรงล่วงหน้าก็ได้ แต่ได้ยินข่าวว่าแม่เธอป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เอาเงินเดือนสามเดือนสุดท้ายให้ญาติเตรียมไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม่ซะ แล้วเธอจะได้เข้าคุกอย่างสบายใจ” “พ่อเลี้ยงคะ! ปทุมผิดไปแล้วค่ะ พ่อเลี้ยงอย่าเอาปทุมเข้าคุกเลยนะคะ” พ่อเลี้ยงพนายกมือเสยผมด้วยท่าทางอารมณ์ไม่ดีนัก เขาไม่เสียเวลาอีกเพราะสั่งให้เข้มลูกน้องในไร่ คอยคุมปทุมมาลย์ไปรับเงินเดือนครั้งสุดท้ายและส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ “ถ้ายังไม่ยอมไปดีๆ ฉันจะให้คนงานมาจับเธอโยนออกไป จะเดินไปเองดีๆหรือจะให้โยนออกไป เลือกเอา” พนาบอกเสียงแข็ง ดวงตาดุดัน ปทุมมาลย์ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว เห็นท่าทางเอาจริงของพ่อเลี้ยงก็รีบลนลานวิ่งออกไป เธอเคยเห็นพ่อเลี้ยงลงโทษคนงานชายในไร่ที่ทุจริตแอบเก็บส้มไปขายมาแล้ว ก่อนคนงานพวกนั้นถูกจับส่งตำรวจจะโดนอัดซะน่วมเลย เพราะไม่ยอมรับสารภาพดีๆ หลังจากเดินไปที่ห้องถ่ายเอกสาร เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น อะไรอีก คราวนี้เจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สินของบัตรเครดิตเจ้าไหน กรุงศรี กรุงไทย หรือศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ เขมขิมเดาไม่ถูกเพราะทุกบัตรกว่าหกใบเต็มหมด ใช่ว่าหญิงสาวจะเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่การทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจของบิดา ทำให้บัตรเครดิตของเธอเต็ม ดวงตาคู่สวยหม่นหมอง ไม่กล้ากดรับแต่เมื่อมองชื่อที่บันทึก และเบอร์ที่โทร.มาชัดๆ อีกครั้ง จึงเห็นว่าเป็นเบอร์ที่รออยู่นานแล้ว เขมขิมรีบกดรับเพราะกลัวอีกฝ่ายจะวางสาย ยิ้มกว้างอย่างพอใจหลังได้คุยจบ เธอรอสายจากฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ ที่เธอไปสมัครงาน งานที่หวังอย่างมากเพราะค่าตอบแทนที่นั่นสูงกว่าเงินเดือนประจำเท่าตัว “ให้ฉันไปเริ่มงานอาทิตย์หน้าได้เลยใช่ไหมคะ” “ใช่ค่ะ ถ้าคุณไม่มีรถยนต์ส่วนตัว พอถึงสนามบินเชียงใหม่ ฉันจะให้คนขับรถไปรับคุณเข้ามาที่ไร่ของเราค่ะ” “ขอบคุณมากค่ะ ฉันดีใจที่สุดเลยค่ะ แล้วพบกันนะคะ” เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เขมขิมเห็นประกาศรับสมัครงาน เป็นไร่ส้มชื่อดังที่เธอเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง เขมขิมจำบรรยากาศความสวยงามสุดแสนรื่นรมย์ในวันพักผ่อนสามวันสองคืนได้ไม่ลืม เธอมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศ มีความฟินในการทำงานพิเศษตรวจพิสูจน์อักษรให้นักเขียน มีไอเดียในการทำปกนิยายออกมาขาย บรรยากาศดี อารมณ์ดี งานก็ดีตามไปด้วย แต่แล้วภาพของอุรังอุตังที่พกกระบอกข้าวหลามติดตัวภาพนั้นก็ทำให้เธอเบ้หน้า ดวงตาคู่งามเปล่งประกายความหวังเลือนหายไปในพริบตา “ยี้...นั่นคงเป็นความทรงจำเลวร้ายที่สุดในทริป แต่ไม่เป็นไร แค่แขกที่มาพักคงกำลังทำเรื่องบัดสี กำลังกินกันแต่เธอเข้าไปขวางเส้นทางความสุขของพวกเขา เสียดาย หน้าตาดีซะเปล่า ที่แท้ก็พวก...” มนุษย์ไส้เดือน ครั้งนั้น พนักงานต้อนรับสาวสวยขอโทษขอโพยต่อเธอยกใหญ่ ที่ทำให้สายตาไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้า พนักงานคนนั้นบอกว่าแจ้งเบอร์บ้านพักผิด เนื่องจากวันนั้นมีแขกเข้ามาเช็กอินเยอะเลยหยิบคีย์การ์ดสลับ แต่เพื่อชดเชยความผิดจึงมอบบัตรกำนัลซื้อส้มสายน้ำผึ้งยกลังในราคาลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้เธอ แม้คูปองนั้นจะช่วยลบภาพติดตาไม่ได้ แต่ส้มของไร่พนาไพรอร่อยมาก เขมขิมคิดว่าการทำงานก็ย่อมมีผิดพลาดกันได้จึงไม่ติดใจ ดังนั้น เมื่อรู้ข่าวการรับสมัครงานจึงรีบส่งใบสมัครออนไลน์ไป ด้วยประวัติส่วนตัวของเธอมีความน่าสนใจ ทางหัวหน้าจัดซื้อจึงขอนัดสัมภาษณ์ และจัดแจงเรื่องตั๋วเครื่องบินส่งมาให้ เขมขิมจึงเดินทางไปสัมภาษณ์งานแล้วก็สำเร็จ... “เย้...ดีใจที่สุดเลย” เขมขิมดีใจจนกระโดดตัวลอย เธออยากจะลาออกจากงานที่นี่ทุกนาที คงไม่มีใครอยากเห็นแฟนเก่าในที่ทำงานเดียวกัน ควงกับแฟนใหม่เย้ยไปเย้ยมา “คราวนี้ก็ไม่ต้องทนเห็น...” เขมขิมถอนหายใจยาวพรืด แต่แล้วคนที่คิดว่าไม่อยากเจอก็มาปรากฏตรงหน้า เขมขิมเห็นอีกฝ่ายแล้วอยากจะหมุนตัวเดินหนีแต่ก็ไม่ทัน “ไม่ต้องทนเห็นอะไรคะคุณเขม ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตา บาดใจหรือเปล่า..” ‘อลิน ’ นักบัญชีสาวสวยของบริษัท และยังเป็นลูกสาวเจ้านายสายตรงของเขมขิมอีกด้วย ทำให้สองปีมานี้คะแนนประเมินผลงานของเขมขิมถึงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่ได้ผุดได้เกิด ขึ้นไม่ถึงเกรดบี “เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ” อลินไหวไหล่ ยิ้มอย่างสะใจ ขณะที่แขนเรียวยังคล้องต้นแขนล่ำของ ‘อัตมัน’ แฟนหนุ่ม ที่เป็นเจ้าหน้าที่ไอทีประจำบริษัท อัตมันคบหากับเขมขิมมาเกือบสองปีก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกลากันเมื่ออลินเข้ามารับตำแหน่งฝ่ายบัญชีต้นทุนของบริษัท “ไปเถอะอลิน ไหนบอกว่าหิวข้าวไง เที่ยงแล้วเดี๋ยวคนจะเยอะ” อัตมันตัดบท “อลินไม่ต้องกินข้าวหรอกค่ะ พักกลางวัน แค่นั่งมองหน้าอัต อลินก็อิ่มแล้ว” อัตมันแอบเสียดายเขมขิม แต่ที่เขาต้องตัดสัมพันธ์หันมาควงอลิน นั่นเพราะเขมขิมฐานะการเงินไม่ได้แตกต่างกับเขา เธอคงช่วยหนี้พนันหลายแสนของเขาไม่ได้ อีกอย่าง เขาก็เบื่อเหลือเกิน เป็นแฟนกันเกือบสองปี จะให้ชื่นใจสักทีสองทีก็ไม่ได้ ส่วนอลินน่ะเหรอ เขาจำไม่ได้แล้วว่ากี่ทีเพราะนับไม่ถ้วน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD