ตอน จดหมายจากโนอาห์ (4)

2184 Words
ฤดีละสายตาจากหน้ากระดาษและเงยหน้าดูนาฬิกา สี่ทุ่มกว่าแล้วจริงๆ โนอาห์สามารถเดาพฤติกรรมเธอได้อย่างแม่นยำ เธอยิ้มให้เก้าอี้ของเขาและก้มหน้าอ่านจดหมายต่อ ...อะผ่าเป็นเด็กกำพร้ามาจากหมู่บ้านผาแดง หมี่ยะและคุณกับผมเคยดั้นด้นบนหนทางแสนลำบากไปเยือนหมู่บ้านนี้ด้วยกันเมื่อสิบห้าปีมาแล้วก่อนคุณลาออกจากโครงการไปไม่นาน หากคุณยังจำได้ถึงเด็กชายจอมซนที่วิ่งวนรอบๆ รถของเราด้วยความสนใจในเรื่องเครื่องยนต์กลไกและชอบชีวิตศิวิไลซ์ของชาวเมือง เด็กคนที่คุณชี้ไปที่เขาและบอกผมว่าถ้าเด็กคนนี้เรียนจบชั้นประถม ให้ผมรับเขาเป็นนักเรียนทุน เพราะวันหน้าเขาจะเป็นนายช่างใหญ่ ซึ่งหมี่ยะและผมก็ทำตามที่คุณบอก เรารับอะผ่าเข้ามาเป็นนักเรียนทุนในปี ค.ศ.2008 ตอนนั้นเขาอายุ 13 ปี เพิ่งเรียนจบชั้นประถมจากโรงเรียนบนดอยที่สอนโดยตำรวจตระเวนชายแดน มันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสามหมู่บ้าน ผู้ปกครองของเขาคืออะหล่อง-พี่ชายคนโต อายุยี่สิบกว่า มีครอบครัวแล้ว เขาเล่าประวัติอะผ่าตอนยังเล็กให้ผมฟังว่าเมื่ออะผ่าเกิดมาได้ห้าเดือนก็มีโรคระบาดไปทั้งหมู่บ้าน ผู้คนเป็นไข้ เจ็บป่วย ไม่สบาย มีตุ่มพองขึ้นตามตัว และเมื่อน้ำเลือดน้ำหนองไหลออกมาจากผิวหนังก็ขาดใจตายตามกันไปเหมือนใบไม้ร่วง แม้แต่ญิผ่าก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเป็นโรคร้ายที่ยาใดๆไม่อาจรักษา มันเริ่มจากหนุ่มคนหนึ่งของบ้านผาแดงไปรับจ้างในตัวเมืองเชียงราย แล้วลักลอบไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาจุนเจือครอบครัว แต่ชีวิตความเป็นอยู่ที่โรงงานเถื่อนแห่งนั้นเรียกได้ว่าเลวร้าย พวกเขาต้องอยู่กันอย่างแออัดในที่จำกัดและไม่มีโอกาสออกไปไหนเพราะนายจ้างข่มขู่ไว้ว่าจะถูกตำรวจจับ หนุ่มคนนั้นทำงานวันละสิบสี่ชั่วโมงกับสารเคมีต่างๆ ในโรงงานฟอกหนังสัตว์ซึ่งอุดมไปด้วยเชื้อโรคสารพัด วันหนึ่งเขาซมซานกลับมาที่หมู่บ้าน ญาติพี่น้องพวกเขาเล่าว่าหนุ่มคนนี้มีอาการเจ็บป่วย มีเลือดออกตามขุมขน มีไข้สูง เนื้อตัวเป็นตุ่มพอง ไม่นานก็สิ้นชีวิตลงไป แต่หนุ่มคนนี้ไม่ได้ตายไปคนเดียว ผู้คนที่ได้สัมผัสตัวเขานำโรคร้ายติดต่อไปสู่คนในครอบครัวและต่างทยอยลาโลกนี้ไปครึ่งค่อนหมู่บ้าน อะหล่องเล่าต่อไปว่าพ่อแม่ของพวกเขาเคราะห์ร้ายติดโรคระบาดตายพร้อมกันทั้งคู่ อะผ่าน้องสุดท้องในเวลานั้นเป็นทารกวัยเพียงห้าเดือนก็ป่วยหนัก มีไข้สูง เนื้อตัวเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองและลมหายใจแทบไม่มีแล้ว ขณะที่มีการสวดศพในบ้าน ญาติผู้ใหญ่บอกอะหล่องให้อุ้มน้องชายลงนอนบนใบตองที่ปูบนกระจาดแล้วทิ้งไว้หน้ากระท่อม เพื่อรอให้ขาดใจตายไปจะได้นำไปทำพิธีฝังร่วมกับเด็กคนอื่นๆ แต่ปรากฏว่าค่ำคืนนั้นผ่านไป ทารกน้อยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เขาเริ่มกินอาหารอ่อนที่พี่ๆ ช่วยกันป้อนให้ แผลพุพองตามร่างกายเลือนหายไปตามกาลเวลา และเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่หลังจากนั้นอะผ่าไม่มีอาการเจ็บป่วยอีกเลย ไม่ว่าจะตากฝน ตากแดด หรืออยู่ในกลุ่มที่ผู้คนเป็นไข้หวัด อะผ่าของเราหัวแข็งมาก ไม่เคยติดโรคอะไรมา ในเรื่องนี้ผมสันนิษฐานว่าโรคระบาดที่หมู่บ้านผาแดงเมื่อตอนอะผ่ายังเล็กอยู่นั้นเกิดจากไวรัสเฮมาลอยด์ ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกทุกวันนี้แต่ต่างสายพันธุ์ อย่างไรก็ตามอะผ่ามีภูมิคุ้มกันในตัวที่ป้องกันเขาจากโรคระบาดที่เกิดจากไวรัสชนิดเดิมและภูมิคุ้มกันของเขาก็กล้าแข็งมากขึ้นจากการใช้ชีวิตวัยเด็กในป่าเขาท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ของหมู่บ้านผาแดง ซึ่งหมู่บ้านนี้จะเป็นทางผ่านของคุณเข้าสู่หมู่บ้านริมธารอันลึกลับเมื่อดูจากแผนที่แล้ว อะผ่าเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของเราหลังจากคุณย้ายจากเชียงใหม่ไปอยู่แม่สลองแล้วสองปี คุณจึงไม่มีโอกาสได้เจอเขา ถ้าจะพูดให้ถูกคือ เขาไม่มีโอกาสได้พบคุณ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิหมี่ยะ-โนอาห์ ที่ให้ทุนการศึกษาและที่พักแก่เขา อะผ่าเป็นเด็กแคล่วคล่องว่องไว เขาชอบงานใช้กำลังมากกว่างานนั่งโต๊ะใช้สมอง นั่นเองเป็นข้อที่ทำให้ผมกังขาต่อการเขียนรายงานที่เขาถอดความมา ซึ่งทำให้ผมเก็บงานเขาเข้าแฟ้มดองไว้หลายปี แต่นับว่ายังไม่สายที่ผมเอามันออกมาปัดฝุ่นเพื่อขัดเกลาจนได้พบข้อความสำคัญในหน้าสุดท้าย ผลการเรียนของอะผ่าเรียกได้ว่าปานกลาง เขาเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมของรัฐ เรียนจบวิทยาลัยช่างกลเมื่อสองสามปีที่แล้ว และย้ายออกจากหอพักไปเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนใหม่ได้เข้ามาอยู่ ตอนนี้เขาพักอาศัยและทำงานแผนกซ่อมบำรุงที่โรงแรมชั้นสองที่ถนนห้วยแก้วซึ่งกำลังจะปิดตัวลงหลังจากเกิดโรคระบาดและผู้คนเลิกเดินทาง โรงแรมนี้มีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวในเอเซีย แต่เมื่อไม่มีคนเข้าพักนานนับเดือน พวกเขาก็คงต้องเลิกกิจการ แน่นอนว่าอะผ่าคงว่างงานไปอีกนาน นับเป็นจังหวะดีที่เขาจะมาเป็นผู้ช่วยคุณในภารกิจนี้ พรุ่งนี้คุณคงได้เจอเขา หรือหากให้ผมเดา เวลานี้เขาคงนั่งอยู่ในห้องโถงรวมกับผู้อื่นแล้ว อะผ่าจะมีประโยชน์ต่อคุณมาก เพราะเขารู้จักหมู่บ้านผาแดงและเส้นทางโดยรอบเป็นอย่างดี นอกเหนือจากนั้นเขายังเป็นช่างซ่อมบำรุงพาหนะที่คุณต้องใช้ ถูกต้องครับ ผมจะให้คุณและลูกทีมเอารถโฟร์วีลของผมไป รถคันนี้แม้ใช้งานมานาน แต่อยู่ในสภาพยอดเยี่ยม เพราะมีช่างมือหนึ่งที่รู้จักเครื่องยนต์ของรถคันนี้ทุกชิ้นหลังจากฝึกมือถอดใส่มาหลายเที่ยว คุณทายซิว่าใคร ที่สำคัญกว่านั้น อะผ่ามีชาติกำเนิดเป็นชาวอาข่า แม้คุณสามารถพูดภาษาอาข่าได้ดีระดับหนึ่ง แต่ผมคิดว่าหมู่บ้านปลายทางของเราน่าจะเป็นชาวอาข่ากลุ่มพิเศษที่ปิดตัวเองจากโลกภายนอกมายาวนาน เป็นหมู่บ้านที่ยังไม่มีใครเคยเข้าไปสำรวจ นี่เป็นข้อมูลที่ผมคาดเดา ภาษาที่พวกเขาใช้อาจเป็นภาษาของคนกลุ่มย่อยที่ไม่ได้ผสมกลมกลืนกับชาวอาข่าหมู่บ้านไหน อะผ่าของเราอาจเข้าใจภาษาของพวกเขาได้ เพราะบนดอยสูงมักมีชนบางเผ่าเดินทางลัดเลาะไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนสิ่งของกันแบบการค้าสมัยโบราณ อะผ่าในวัยเด็กอาจเคยเห็นและพูดคุยกับชาวบ้านลึกลับเหล่านี้และจดจำภาษาพูดของพวกเขาได้ นี่เป็นเรื่องที่ผมสันนิษฐาน ฤดี การเดินทางครั้งนี้หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่ไปหลงเชื่อคำทำนายจากปากชาวเขาชาวดอย แต่เป็นเพราะคนที่ดูหมิ่นคนกลุ่มน้อยพวกนั้นขาดความรู้ในเรื่องของมนุษย์ที่แท้จริง พวกเขาเกิดและเติบโตในสังคมที่พัฒนาขึ้นมาจากการรุกรานยึดเอาดินแดนผู้อื่นมาเป็นของตน อีกทั้งเป็นพวกที่ไม่ยอมละ สละ หรือแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือเจือจานผู้อื่น คนพวกนี้เชื่อในอำนาจของวัตถุว่ายิ่งครอบครองความมั่งคั่งมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นฝ่ายถูกต้องมากขึ้นเท่านั้น เขาจะเชื่อแต่คำพูดของคนที่รวยล้นฟ้า มีการศึกษาจากสถาบัน หรือคนที่สังคมยกย่อง ฤดี เราไม่มีอะไรจะเสียจากการลองพยายามเดินทางไปค้นหาความจริง อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำบางสิ่งด้วยเจตนาช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งน่าภูมิใจมากกว่าการนั่งอยู่หลังคีย์บอร์ดในโลกสื่อสังคมออนไลน์แล้วเอาแต่โวยวายออกความเห็น ผมรังเกียจพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ผมรู้ว่าคุณจะลอง ผมเชื่อว่าคุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไร ผมขอให้คุณโชคดี ผมจะคอยเอาใจช่วยพวกคุณเสมอ ผมคงต้องพอเท่านี้แม้มีความในใจอีกมากที่ผมอยากเขียน ขอให้คุณชนะในภารกิจและปลอดภัยกลับมา Noah ฤดีกะพริบตาถี่ นาฬิกาตีบอกเวลาสี่ทุ่ม จดหมายสิบหน้าของโนอาห์ถูกพับเก็บใส่ซองโดยมือของเธอซึ่งทำไปอย่างอัตโนมัติ มีเสียงเคาะประตูเบาๆ ด้านหลังฤดี พอเธอหันไปก็พบสุจา “ดึกแล้วค่ะพี่ฤดี ไปพักผ่อนเถอะ หนูจัดที่นอนให้พี่แล้วที่กระท่อมอาผี่ญิผ่า พี่จะได้อยู่เงียบๆ เพราะที่หอพักและเกสต์เฮาส์มีคนจากหมู่บ้านมานอนค้างเต็มไปหมด พี่คงไม่สะดวกเรื่องห้องน้ำห้องท่า และพวกเขาก็พูดคุยสนทนากันยืดยาวเพราะนานๆได้มาพบกันที พี่จะปวดหัวเพราะนอนไม่หลับ” สุจาหยุดยืนหน้าประตูครู่หนึ่งเมื่อพูดจบ จากนั้นก็สาวเท้าเดินเข้ามากอดฤดีไว้แน่น เขามองจดหมายปึกใหญ่ในมือของฤดีแล้วไม่พูดอะไร “สุจา ขอบใจมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยรายละเอียดกัน ฝากบอกหมี่ยะด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง” ฤดีตอบเสียงเบา “พี่หมี่ยะเข้านอนไปแล้วค่ะ เขาเหนื่อยมากไม่ได้นอนตั้งแต่วันก่อน ตอนนี้พวกญาติๆ ช่วยกันดูแลพิธีศพทำกันอยู่ค่ะ พี่น้องเขาเยอะ มากันทั้งหมู่บ้าน” สุจาช่วยฤดีหอบแฟ้มและกระเป๋าถือ “กระเป๋าเสื้อผ้าของพี่หนูยกออกจากรถไปไว้ในกระท่อมแล้วนะคะ ห้องน้ำด้านหลังหนูเอาผ้าเช็ดตัวกับสบู่และแชมพูไปวางหน้ากระจก ฉีดน้ำตะไคร้ไล่ยุง และเช็ดถูกันพี่ลื่น” “สุจาดีกับพี่มาก พี่ขอบใจจริงๆ” ฤดีเหลียวมองเก้าอี้ของโนอาห์เป็นครั้งสุดท้าย “มีหลายอย่างที่เราต้องทำนับแต่พรุ่งนี้” ฤดีบอกพลางเดินตามสุจาอย่างหมดเรี่ยวแรง เธอเอื้อมมือปิดสวิตช์ไฟและปิดประตูห้องสมุด “เกี่ยวกับเรื่องที่คุณโนอาห์เขียนบอกพี่ใช่ไหมคะ” สุจาหันหน้ามาถาม “ใช่จ้ะ สุจา มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่แค่สำหรับเรา” ฤดีตอบสั้นๆขณะเดินตามทางปูแผ่นหินเข้าไปที่กระท่อมของอาผี่ญิผ่า เสียงพูดคุยจากห้องโถงค่อยๆห่างออกไป เธอกำลังเข้าสู่โลกใบเก่าที่เธอคุ้นเคย “เอาละค่ะพี่ หนูต้องขอตัว เพราะหนูก็ต้องพักผ่อนเหมือนกัน อายุใกล้ห้าสิบถ้าอยู่ที่หมู่บ้านเขาก็เรียก ‘เชาะหม่อ’ แล้ว” สุจารำพึง “โอ้ ถ้าสุจาเป็นคนชรา แล้วพี่จะมิยิ่งกว่าสุจาหรือ” ฤดีหันไปจับมือสุจา “เราไม่เหมือนกันค่ะพี่ หนูผ่าตัดมาหลายครั้งกว่าจะได้เป็นผู้หญิงสมใจ แต่ก็ต้องแลกด้วยสุขภาพที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ต้องกินฮอร์โมนและยาหลายอย่างติดต่อกันจนถึงทุกวันนี้ กู้ดไนท์นะคะ พี่สาวที่รัก” สุจาพูด “พรุ่งนี้เจอกันจ้ะ กู้ดไนท์” ฤดีโบกมือให้สุจาที่เดินฉับๆ กลับไปที่เรือนหลังใหญ่ กระเป๋าเดินทางของฤดีวางอยู่บนพื้นด้านในกระท่อม เธอเข้ามาเยือนบริเวณนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายหลังจากที่เธอขับรถจากเชียงรายมาถึงที่นี่ กลิ่นสมุนไพรแห้งอวลอยู่รอบบริเวณ “อาผี่คะ ฉันมาขออาศัยนอนที่กระท่อมนี้นะคะ หากฉันทำผิดพลาดพลั้งเผลออะไรไป ช่วยให้อภัยฉันด้วย” ฤดียกมือไหว้ไปที่หิ้งไม้ไผ่เล็กเหนือหัว ฤดีเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าพลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่โนอาห์กำชับไว้ในจดหมาย เธอควรทำอย่างไรดี หรือเธอควรวางเฉยไม่เอามาเป็นธุระ โนอาห์อาจเขียนจดหมายนี้ขึ้นมาด้วยอาการเจ็บป่วย เขาคิดเอาเองว่าสิ่งที่เป็นปัญหาของชาวโลกอยู่ในขณะนี้คือภาระที่เขาแบกเข้าไว้ และเขาต้องแก้ปัญหาโดยการให้เธอ อินญา และอะผ่าเป็นผู้ลงมือ โนอาห์คิดได้อย่างไร ทำไมไม่ถามเธอก่อนสักคำ เราเข้าสู่ยุคที่แค่เพียงแต่คิดและขยับปลายนิ้ว เราก็สามารถสื่อสารกันได้แล้ว เอาเถอะ ฤดีถอนใจ เธอจะหยุดทั้งหมดไว้ตรงนี้ เธอต้องพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD