SADISM 2

1472 Words
“แบบนั้นแหละครับ ...ซ้ายนิดนึง ดีมาก” ฉันเปลี่ยนไปถ่ายชุดสุดท้ายเสร็จแล้วก็แวะซื้ออาหารให้ลูกสาวสุดที่รักทั้งสองตัวก่อนที่จะกลับบ้าน “ต้องอันนี้ที่เจ้าอ้วนทั้งสองตัวชอบกิน” อาหารกระต่ายพร้อมกับของเล่นอีกสองสามอย่างถูกบรรจุใส่ถุงอย่างดี มันดูหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะแต่ไม่เป้นไรเพื่อลูกรัก แม่ทำด้ายยยย! ตุ๊บ “โอ๊ะ ...ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ” เขาเงียบและไม่ตอบอะไรเลยเอาแต่มองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งๆ จนเป็นฉันเองที่ต้องหลบสายตาแล้วถอยออกมาก้าวนึง “เจ็บมั้ย?” คำถามแค่สั้นๆหลุดออกจากปากเขา เจ็บมั้ย? งั้นเหรอ เป็นหุ่นยนต์หรือไงถึงได้นิ่งขนาดนี้ “ฉันไม่เจ็บค่ะ คุณล่ะเจ็บมั้ย” เขามองของในมือฉันก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางแล้วหายไปเลย “แปลกคน ...ทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ไปได้” ถึงแม้จะรู้สึกว่าเขาแปลกแต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าเคยรู้จักกับเขามาก่อน แต่ไม่แน่ใจว่าที่ไหนหรืออาจจะเคยเดินผ่านก็ได้มั้ง “เจ้าอ้วน แม่กลับมาแล้วมีขนมมาเต็มเลย” กระต่ายตัวอ้วนฟูสองตัวรีบวิ่งมาทันทีตอนที่ได้ยินเสียงถุงขนม T_T ทั้งๆที่ปกติไม่เคยวิ่งออกมาเร็วขนาดนี้แท้ๆ ...น่าจับไปปล่อยที่วัดให้หมดเลย “ทีงี้ล่ะมาอ้อนเชียวนะ ...วันนี้แม่เจอคนแปลกๆด้วยล่ะ เหมือนจะเคยรู้จักนะแต่ก็ไม่รู้ว่าไปเจอมาที่ไหน เจ้าอ้วนรู้จักมั้ยลูก” เจ้าสองตัวหันมองหน้ากันแล้ววิ่งเล่นต่อ เออเนอะ ฉันก็บ้าไปถามกระต่ายที่มันไม่รู้เรื่อง “แต่คุ้นจริงๆน้า ...อืม ช่างมันดีกว่า” ฉันนอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆแก้เซ็ง ได้วันหยุดตั้งสี่วันจะไปที่ไหนดีนะ ถ้าถามเมอร์ลินก็กับเซียมจะแนะนำให้ไปช็อปปิ้ง ถ้าถามยูกิก็จะแนะนำให้นอนอยู่ที่ห้องเฉยๆ ...แต่ฉันไม่อยากทำทั้งหมดที่เพื่อนแนะนำมานี่นา หรือจะไปเที่ยวทะเลดีแต่ก็ห่วงเจ้าอ้วนสองตัวนี้ไม่อยากให้อยู่บ้านลำพัง Rrrrrr(Ma) “แม่ขา ...ดีใจจังเลยวันนี้ว่างเหรอคะ” ฉันกดรับสายทันทีที่เห็นว่าคนโทรมาคือใครเพราะนานๆครั้งที่แม่จะโทรมาหา ส่วนใหญ่ท่านจะยุ่งและไม่ว่างตลอดเลย (วันนี้งานไม่ค่อยยุ่งแล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง ...ไปอยู่ที่ไทยตั้งสามปีกว่าแล้วไม่เห็นกลับมาเยี่ยมที่นี่บ้างเลย) “ก็ฟ้ายุ่งๆเหมือนกัน แม่เห็นคอลเลคชั่นใหม่ที่ฟ้าถ่ายมั้ย สวยมากเลยขอบอก” (เห็นแล้ว เหมามาแล้วเหมือนกัน ฮ่าๆ) “แม่อินเทรนด์เว่อร์ ฟ้าว่าแล้วต้องถูกใจแม่แล้วพายุเป็นยังไงบ้างคะ ยังเกเรอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า” ฉันถามถึงน้องชายตัวแสบที่อายุห่างจากฉันแค่ปีเดียว เราสองคนพี่น้องขออนุญาตกลับมาอยู่ที่ไทยแต่แยกกันอยู่เพราะพายุต้องการพื้นที่ส่วนตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งฉันก็เหมือนกัน ก็พายุไม่ชอบเจ้าอ้วนสองตัวนี้แล้วก็หาเรื่องจะแกล้งตลอดเวลาจนฉันกลัวว่าลูกจะตกใจตายซะก่อน (รายนั้นอยู่ที่นี่เป็นยังไงที่ไทยหนักกว่าร้อยเท่าเลย แต่แม่เตรียมแผนไว้แล้วรับรองว่าคราวนี้ไอ้ตัวแสบต้องโดนกำราบแน่นอน) ฉันล่ะไม่อยากให้แม่มั่นใจแบบนั้นเลยเพราะหลายครั้งที่แม่มั่นใจ มันมักจะจบลงตรงที่โดนพายุตลบหลังทุกครั้งไป ...และฉันมีลางสังหรณ์ว่าครั้งนี้น่าจะเป็นเหมือนทุกครั้ง “แม่อ่ะ มั่นใจเกินไปหรือเปล่า เห็นทุกครั้งก็โดนพายุตลบหลังทุกครั้งเลย” (แต่แผนแม่ครั้งนี้รับรองว่าเลิศกว่าทุกครั้งแน่นอน อย่าห่วงเลย ...ไม่มีพลาดแน่ แค่นี้ก่อนนะลูกแม่ต้องรีบเข้าไปประชุมต่อ รักลูก บาย) ยังไม่ทันที่จะได้บายกลับเลยแม่ก็วางสายไปซะแล้ว อัพเดทข่าวกันหน่อยเนอะ! ฉันเพิ่งย้ายกลับมาจากอังกฤษเมื่อประมาณเกือบๆสี่ปีแล้ว เหตุผลที่ว่าฉันอยากกลับมาอยู่ที่นี่มากนั่นคือเรื่องรอง เรื่องหลักคือไม่อยากเรียนบริหารธุรกิจที่นั่นและไม่อยากสืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงแค่คิดว่าต้องนั่งประชุมทุกวันอย่างแม่ฉันก็น่าเบื่อจะตายแล้ว และอีกอย่างคือฉันอยากเรียนด้านแฟชั่นมากกว่า ถึงได้ยอมรับงานถ่ายแบบทุกอย่างเพื่อเก็บประสบการณ์ทั้งที่จริงๆแล้วต่อให้ไม่ทำงานฉันก็อยู่ได้แบบสบายๆเลย เงินที่แม่กับพ่อเลี้ยงให้ต่อเดือนก็หลายแสนอยู่ Rrrrrrr(Richard) “สวัสดีค่ะคุณลุง” แหม เหมือนนัดกันมาเลยเพิ่งวางสายจากแม่ พ่อเลี้ยงก็โทรมาทันที ฉันเรียกเขาว่าคุณลุงเพราะว่าไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว (เป็นยังไงบ้าง แม่เราโทรหาหรือยังเห็นบ่นๆมาหลายวันแล้ว) “เพิ่งวางสายไปเมื่อกี้เลยค่ะ ...ใจตรงกันเหลือเกินนะคะ” แล้วคุณลุงก็ชวนฉันคุยเรื่องนู้นนี่ไปสักพักก่อนจะขอตัววางสายไปเพราะมีงานด่วนเข้ามา เห็นมั้ยล่ะว่าชีวิตของพวกเขายุ่งและวุ่นวายกันแค่ไหนแล้วจะให้ฉันไปเป็นแบบพวกเขาคงไม่ไหวแน่ๆ “ไปวิ่งกันมั้ยลูกรัก” เจ้าอ้วนทั้งสองตัววิ่งหลบเข้าไปในซอกแล้วเอาเหนียงหนุนกันอย่างสบายใจเลย ...นี่ฉันหวังอะไรอยู่เนี่ย T_T เจ้ากระต่ายแสนขี้เกียจทั้งสองตัวไม่มีทางที่จะไปออกกำลังกายกับฉันแน่นอน “งั้นแม่ไปแล้วนะอยู่ในห้องอย่ากัด อย่ารื้ออะไรเด็ดขาด ถ้าไม่ฟังจะเอาไปปล่อยวัด” ฉันวิ่งรอบๆคอนโดของตัวเองอยู่ค่อนข้างบ่อยอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้นะ ตุ๊บ! “โอ๊ย ...ขอโทษค่ะฉันไม่ระวังเอง” วันนี้จะต้องชนคนอื่นอีกกี่ครั้งกันเนี่ย ถ้าฉันศัลยกรรมมาหน้าต้องเบี้ยวไปแล้วแน่ ๆเพราะชนแต่ละทีแรงเหลือเกิน “เจอกันอีกแล้วนะ” พอเงยหน้าขึ้นไปก็เจอกับคนเมื่อเช้าที่ฉันเดินชนแต่ต่างกันตรงที่ตอนนี้เขากำลังยิ้มอยู่ เวลายิ้มก็หล่อดีนี่นาแล้วทำไมถึงไม่ค่อยจะยิ้มกันล่ะ “เราชนกันบ่อยนะคะ ...คุณพักอยู่ที่นี่เหรอ” “ใช่ครับ พักอยู่ที่นี่” เอ แปลกจัง ถ้าเขาพักอยู่ที่นี่ทำไมฉันถึงไม่คุ้นหน้าเขาเลยล่ะ หรืออาจจะเป็นคนที่มาอยู่ใหม่ก็ได้มั้ง “อ๋อค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ” หมับ! ยังไม่ทันที่ฉันจะวิ่งออกไปก็โดนมือหนารั้งไว้ซะก่อน “คะ? มีอะไรหรือเปล่า” เขาส่ายหน้าและยอมปล่อยให้ฉันวิ่งออกมา มันอาจจะดูแปลกๆนะที่พูดแบบนี้แต่สัมผัสของเขาเมื่อกี้ทำใจฉันเต้นแรงเป็นบ้าเลย K ON ในที่สุดก็ได้เจอกันแล้วสินะยัยกระต่ายหรือจะต้องเรียกว่าฟ้าใสดี ผมมองฟ้าวิ่งผ่านหน้าไปเฉยๆโดยที่ไม่รั้งไว้ไม่ใช่เพราะไม่อยากรั้งแต่แม่งทำอะไรไม่ถูกต่างหาก มัวแต่ใจเต้นแรงจนยัยตัวเล็กวิ่งไปไกลแล้ว “อยู่ที่นี่งั้นสินะ ...งั้นก็ซื้อไปทั้งหมดเลยละกันง่ายดี” ผมโทรสั่งให้เลขาจัดการทำเรื่องซื้อคอนโดที่นี่แล้วโอนกรรมสิทธิ์เป็นของผมแค่คนเดียว มันก็ค่อนข้างจะยุ่งยากอ่ะนะแต่ผมเชื่อว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างโดยเฉพาะถ้าให้เลขาผมทำแล้วเนี่ย ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ...พรุ่งนี้ย้ายเข้าก็แล้วกัน “กูบอกแล้วไงว่าไม่เอา ...ของเล่นมึงมันน่าเบื่อ” “แต่กูอยากให้มึงเล่น และมึงต้องเล่น?” ผมมองพวกมันสองตัวที่เอาแต่ทะเลาะกันไปมาอย่างน่ารำคาญ ไอ้ดินก็ขยันกวนตีนไอ้ศึกเหลือเกิน พวกแม่งนี่น่าจับมัดรวมกันแล้วโยนลงน้ำไปเลย “แล้วเอายาเชี่ยอะไรมาฉีดให้กูอีกเนี่ย!!! แม่งเอ้ยยย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD