แนะนำตัวละครพอสังเขป
บ้านเจียง (บ้านพระเอก)
เจียง เจิ้งหาน พระเอก อายุ 25 ปี ลูกคนรอง
จาง ซูซิน นางเอก (ในร่างนางร้าย) อายุ 22 ปี
- เจียง จวีอิง (ลูกติดพระเอก อายุ 4 ขวบ)
เจียง จื่อหาน / หวา เย่เฟย พ่อแม่พระเอก อายุ 48 ปี
เจียง เย่หาน พี่ชายใหญ่ อายุ 28 ปี
ถัง ไป๋เซียว สะใภ้ใหญ่ อายุ 26 ปี
-เจียง ไป๋หยวน ลูกคนโตเย่หาน อายุ 6 ขวบ
- เจียง จัวเย่ ลูกคนเล็กเย่หาน อายุ 3 ขวบ
- เจียง หลิงเย่ น้องสาวพระเอก อายุ 23 ปี
(แต่งงานออกไปอยู่กับสามีแล้ว มีลูกแล้ว 2 คน ชายหญิง)
*****************************************
บ้านจาง (บ้านนางเอก)
จาง ซูเหว่ย / เหยียน เหม่ยอี้ พ่อแม่ นางเอก อายุ 46 ปี
จาง ซูซิน นางเอก
จาง ซีเหม่ย น้องสาวนางเอก (นางเอกในนิยาย) อายุ 20 ปี
จาง ซุนเหวิน น้องชายนางเอก อายุ 18 ปี
**ส่วนตัวละครในเรื่องอีกมากมาย ไม่ได้ลงให้นะคะติดตามอ่านในเนื้อเรื่องได้เลยค่ะ
****************************************
" แม่จ๋า ฮือ..ฮึก..แม่ตื่นสิ.ฮือ..ฮือ..ฮึก.แม่จ๋า..."
มือน้อยๆ กำลังใช้ผ้าที่เปียกชุ่มเพราะบิดไม่แห้งหมาดเช็ดไปตามแขนของผู้เป็นแม่ ที่ตั้งแต่ล้มลงก็หลับไปนอน จนตอนนี้ฟ้ามืดไปหมดแล้ว เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความกลัวแต่ไม่กล้าไปเรียกใครมาดู ได้แต่นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อตัวให้แม่เพราะเคยเห็นย่าทำ เช็ดอยู่นานแม่ก็ไม่ตื่นมาสักที จึงนั่งเฝ้าคนเป็นแม่อยู่อย่างนั้น ข้าวก็ยังไม่ได้กิน
" ซี๊ด...โอ๊ย...เจ็บๆ ...ซี๊ด..." ซีเย่ รู้สึกปวดหัวแต่ไม่แปลกใจเพราะความจำสุดท้ายคือเธอพลัดตกบันไดลงมาเป็น 10 ขั้น เธอจับที่หัวยังไม่ลืมตา เพราะหนังตายังหนักอึ้ง
" แม่จ๋าตื่นแล้ว แม่จ๋า เจ็บไหม ฮือ..ฮือ...ต่อไปหนูจะไม่ดื้อแล้ว...หนูขอโทษ...ฮือ..ฮึก..ฮืออ..."
' เสียงเด็กที่ไหนร้อง..อะไรเปียกๆ ไม่มีใครพาส่งโรงพยาบาลเลยเหรอ ทำไมพื้นถึงแข็งแบบนี้' นอนคิดประมวลผลก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบาก ซีเย่ มองเห็นสิ่งแรกคือก้อนดำๆ เคลื่อนไหวได้ด้วยและยังมีเสียงเล็กๆ ที่พูดเสียงสั่นๆ อยู่ข้างๆ นี่คงเป็นต้นเสียงเมื่อครู่สินะ เธอค่อยปรับสายตาจนคุ้นชินและมองเห็นทุกอย่างชัดขึ้น เธอนอนอยู่ในบ้านที่เป็นพื้นปูนแข็งที่เข้าใจในตอนแรกว่าเป็น พื้นบันไดที่ตกลงมา หลังคาบ้านเป็นกระเบื้องที่ไม่คุ้นเคย
"แม่จ๋า...แม่เจ็บมากไหม.."จวีอิง เห็นแม่ตื่นแล้วไม่พูดและมองด้วยสายตาแปลกๆ คงจะเจ็บมากเพราะมีเลือดออกที่เท้าและที่หัวด้วย เธอไม่กล้าโดนตรงแผลเพราะกลัวแม่เจ็บ
ซีเย่ หันมาสนใจสิ่งมีชีวิตด้านหน้า เพราะตอนนี้ในสมองอื้ออึงไปด้วยเรื่องราวที่เธอกำลังเรียบเรียงอยู่ เพราะเป็นภาพก่อนตัดที่เธออ่านนิยายเรื่องใหม่จนข้ามคืน ก่อนจะลึกมาหาอะไรกินในวันหยุด เพราะคิดว่าอ่านจบตอนก็จะเอานิยายเรื่องนี้ออกจากชั้น และจะนอนให้หนำใจ แต่อ่านจนมาถึงตอนท้ายก่อนจะก้าวขาพลาดตกบันไดลงมา และภาพก็ตัดไป และมีภาพใหม่ผุดขึ้นมาแทน เป็นภาพของผู้หญิงสาววัย 20 ต้นๆ เธอเป็นลูกสาวคนโตของบ้านจาง ชื่อ ซูซิน อุปนิสัยเอาแต่ใจ พูดจาไม่เพราะขี้เกียจพอประมาณ ผู้ชายหลายคนที่มาจีบเธอพอเห็นนิสัยก็ถอยห่างออกไป จนเธอได้แต่งกับพ่อหม้ายลูกติดที่ถูกเมียทิ้งเมื่อหลายเดือนก่อน ชื่อ เจียง เจิ้งหาน ในภาพที่เห็นเขาหล่อเหลาเอาการแต่ผู้หญิงคนนี้ก็ถือว่าหน้าตาดี เด็กที่นั่งข้างๆ เธอตอนนี้คือ เจียง จวีอิง ลูกติดของผู้ชายคนนั้น แต่ตอนนี้เป็นลูกสาวของซูซินตามกฎหมายทุกอย่าง เพราะเธอจดทะเบียนสมรสกับพ่อเด็กและรับสมอ้างว่าเป็นแม่ของเด็กด้วย พอแต่งงานผู้ชายก็กลับไปทำงานทั้งที่ยังไม่ได้เข้าหอกับเธอด้วยซ้ำ เธอรับรู้ได้ถึงความคับแค้นใจของซูซินที่หลั่งไหลเข้ามา เพราะดูเหมือนสามีไม่ให้ความสำคัญกับเธอเอาเสียเลยถึงจะไม่ได้รักชอบเธอก็ควรจะไว้หน้าให้เธอสักหน่อย
แม่ซูซินที่รู้ว่าสามีเธอไปทำงานตั้งแต่คืนแต่งงาน ก็กล่าวหาว่าเธอทำตัวไม่ดีจนสามีไม่เข้าหอด้วย และยังบอกไม่ให้เธอกลับไปบ้านบ่อยนักให้อยู่เลี้ยงลูกเลี้ยงไปดีๆ เพราะหากอยู่กับสามีคนนี้ไม่ได้ คงจะไม่มีใครมาแต่งเธอออกไปอีก ซูซิน ที่ต้องเก็บกดอารมณ์แห่งความแค้นใจ เธออยู่กับลูกเลี้ยงได้ครบเดือนก็ได้รับเงินเดือนที่สามีส่งมาให้พร้อมจดหมายที่เขียนมาบอกว่าจะไปทำงานต่างเมืองคงไม่ได้กลับมาบ้านอีกนานหลายเดือน เธอยิ่งขุ่นเคืองใจจนไม่เป็นอันทำอะไร สิ่งพอจะทำให้เธอได้ระบายบ้างคือการได้บ่นด่าเด็กน้อยที่อยู่ด้วย เพราะเหมือนเธอไม่ได้ถูกกระทำฝ่ายเดียว และภาพสุดท้ายที่ผุดขึ้นมาคือภาพล่าสุดที่เหยียบเศษถ้วยข้าวต้ม จนล้มหัวฟาดฟื้นสลบไป
' จาง ซูซิน เจียง เจิ้งหาน เจียง จวีอิง นี่มันชื่อตัวละครในนิยาย แม่เลี้ยงใจร้ายที่พึ่งอ่านนี่นา อย่าบอกนะว่าเธอฟื้นมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายที่พึ่งอ่านไม่จบด้วย ไม่รู้ในนิยายเขียนให้ใยแม่เลี้ยงเป็นยังไงต่อไป คงจะไม่ดีแน่เพราะเธอเป็นนางร้ายนี่นา เฮ้ย อ่านในนิยายก็สนุกอยู่หรอกเพราะเป็นเพียงเรื่องที่นักเขียนแต่งขึ้นมา แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้สนุกเหมือนในนิยายเสียแล้วสิ เพราะนี่มันเจ็บจริงๆ แล้วก้อนดำๆ ที่กำลังจ้องเธออยู่นี่อีก กลิ่นเลือดและกลิ่นสาบของควันไฟในบ้านนี่อีก ไม่ไหวแล้วต้องกัดฟันลุกจากตรงนี้ก่อนแล้ว '
" หยุดร้องได้แล้วเสี่ยวอิง "
" แม่จ๋า...ฮือ...แม่จ๋า.... ฮึก..ฮือ..." จวีอิง ได้ยินแม่เรียกเธอว่าเสี่ยวอิง นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เรียกเธอแบบนี้ ปกติแม่ไม่เรียกชื่อเธอด้วยซ้ำ
" เอ้า ร้องหนักกว่าเก่าอีก พอแล้วๆ เจ็บตรงไหน อ้อ ตรงที่ถูกตีใช้ไหม ไหนมาดูหน่อยเดี๋ยวจะไปซื้อยามาทาให้ "
" หนูไม่เจ็บแล้ว แม่เจ็บไหมเลือดออก " จวีอิง ส่ายหัวเร็วๆ เพราะกลัวแม่ไม่เชื่อ
" เอาเถอะๆ หยุดร้องไห้ก่อน เราไปล้างเนื้อตัวก่อน "
ซีเย่ ตอนนี้เธอพอจะเข้าใจแล้วว่าตัวเองคงได้เข้ามาในร่างนางร้ายในนิยายนี้แล้ว แต่เพียงแต่ยังไม่มั่นใจว่าเธอตายจากชีวิตก่อนแล้วหรือแค่เป็นความฝันเท่านั้น แต่จะจริงหรือฝันตอนนี้เธอเจ็บจริง เหม็นจริง ด้วยนี่สิ เพราะลองหยิกตัวเองแล้วก็เจ็บจริงๆ จึงคิดว่าแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าก่อนดีกว่า จะเป็นอย่างไงต่อไปค่อยว่ากัน
ตอนนี้เธอได้เข้ามาช่วยเด็กน้อยตัวละครที่เธอสงสารมากที่สุด ในเนื้อเรื่อง ที่อ่านบทนำในเรื่องว่าตอนที่นางเอกได้มาสานต่อความสัมพันธ์กับพระเอกในตอนหลัง ความรักหวานชื่นและมีลูกแฝดเป็นของตัวเอง แม้จะไม่ได้ใจร้ายกับลูกเลี้ยงแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าลูกของตัวเองและความที่เด็กที่ถูกกระทำมาแต่ต้นเรื่อง เธอจึงมีปมในใจเยอะแยะมากมาย ทำให้เธอกันตัวเองออกจากพ่อกับแม่เลี้ยงและน้องๆ สุดท้ายสาวน้อยคนนี้ก็หลุดหายไปจากเนื้อเรื่องเหมือนกับนักเรียนลืมทิ้งเธอไว้กลางทาง น่าสงสารตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ ทั้งที่อ่านไม่จบแต่แค่เนื้อเรื่องย่อๆ เธอที่เป็นคอนิยายก็รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะถูกนักเขียนทิ้งเมื่อสิ้นประโยชน์อย่างแน่นอน
ตอนนี้มาอยู่ตรงนี้อาจเป็นเพราะถูกกำหนดให้มาช่วยเปลี่ยนชะตาของเด็กน้อยคนนี้ก็ได้ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด ยังดีที่เป็นเรื่องปลายยุค 70 จะเข้ายุค 80 แล้วคงไม่อัตคัดมากเพราะไฟฟ้าเริ่มเข้าถึงและบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ซอมซ่อเหมือนนางเอกในนิยาย บางเรื่องที่ข้ามมาก็จนแสนจน บางเรื่องก็อยู่กระต๊อบผุพัง แต่ร่างนี้มีเงินเดือนสามีที่ทุ่มเททำงานส่งมาให้ทุกเดือน และที่สำคัญเขาเป็นพระเอกยังไงก็ต้องเป็นคนดีอยู่แล้ว ถึงจะเย็นชาไปหน่อยก็เถอะ ในนิยายขนาดเมียเก่าทิ้งไปเขายังไม่ได้โกรธเคืองมากมายและยังเห็นใจภรรยาเก่าอีกด้วย
ดังนั้นจากความสามารถและความรู้ของเธอในยุคนี้ก็พอจะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย แต่เดี๋ยวนะไม่ถูกสิ ปกติถ้าได้ตื่นมาในโลกนิยายหรือเกิดใหม่อีกครั้ง มันต้องมีสกิลอย่างอื่นติดตัวมาบ้างสิ แบบนี้มันก็ไม่ยุติธรรมนะ แม้แต่เป็นความฝันก็ควรมีพลังพิเศษ มิตงมิติติดมาบ้างสิ ชีวิตก่อนมาอายุ 35 ถึงยังไม่ได้แต่งงานแต่ก็มีสมบัติเงินทองมากมาย อยู่ได้สบายจนแก่ตายยังไม่หมดเลย แล้วถ้าตายมาแบบนี้ ใครจะใช้เงินทองที่พึ่งรับมาตั้งมากมายนั่นกัน
"ไม่ถูกๆ มันไม่ถูก แบบนี้ไม่ถูก" ซูซิน นั่งบ่นพึมพำคนเดียว
" แม่เป็นอะไรคะ หนูทำผิดอีกแล้วใช่ไหม แม่ตีหนูได้เลย หนูจะไม่ร้อง" จวีอิง ยืนกอดอกหันหลังให้แม่
" โถ เด็กน้อย หนูไม่ได้ทำอะไรผิดลูก เดี๋ยวแม่ทำความสะอาดตรงนี้ก่อน ระวังเศษถ้วยนะ อยู่เฉยๆ ก่อนคงหิวข้าวแล้วสินะ เราอาบน้ำก่อนค่อยหาอะไรกินใหม่ เสี่ยวอิงทนก่อนนะ ไม่นานหรอก" ซูซิน จับตัวเด็กน้อยให้ยืนนิ่งๆ
(ซีเย่ ต่อไปจะแทนด้วย ซูซิน แล้วนะคะจะได้ไม่งง เพราะคนเขียนก็เริ่มงงนิดหน่อย (•‿•) )
" อืม หนูฟังแม่"
" เด็กดี "
ซูซิน ลุกขึ้นเธอนึกได้ว่าก่อนที่ล้มเธอปวดท้องประจำเดือนมาก และตอนนี้ก็ยังหน่วงๆ อยู่เลยแต่ก็เจ็บที่ท้ายทอยด้วย ไหนจะเหยียบเศษถ้วยอีก สรุปเจ็บไปทั้งร่างกายทั้งข้างในข้างนอกเลย ทำไงดีที่นี่ก็ไม่มียาแก้ปวดประจำเดือนโดยเฉพาะเหมือนที่บ้านเธอใน เพราะชีวิตเก่าก็เป็นคนปวดท้องหนักทุกครั้งที่เป็นประจำเดือน จึงมียาแก้ปวดติดตัวไว้ตลอดๆ แต่ยังดีที่บ้านนี้มียาแก้ปวดพาราอยู่คงใช้แทนกันไปก่อน และความปวดนี้ก็เคยชินอยู่แล้วจึงพอทนได้ เธอกวาดพื้นที่เลอะเทอะเสร็จ จูงมือลูกสาวเดินเขย่งไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง แต่น้ำในอ่างปูนในห้องน้ำก็เหลืออยู่ก้นอ่างเหลือเกิน จึงเปิดประตูออกไปหลังบ้านที่มีบ่อน้ำใช้อยู่ไม่ไกลมาก
ตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว ผู้คนอยู่ในบ้านเสียส่วนใหญ่ เธอหยิบผ้าถุงอาบน้ำกับผ้าไปที่บ่อ ถ้าจะให้หาบน้ำมาใส่อ่างในห้องน้ำตอนนี้คงไม่ไหว ขอล้างตัวข้างบ่อน้ำนี่แหละ ข้างๆ บ่อน้ำสามีเทปูนไว้รอบๆ บ่อทำให้พื้นไม่แฉะสำหรับนั่งซักล้างได้สะดวก เธอวางถังไม้ใบใหญ่ข้างๆ บ่อและตักน้ำมาเทใส่ในถังจนเต็มก่อนจะเรียกลูกสาวที่ยืนมองเธออยู่ ให้เข้าไปอาบน้ำเพราะมอมแมมเหลือจะทนจริงๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่รู้ว่าหวีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ในความภาพจำเธอให้เด็กน้อยอาบน้ำเองตลอด และมีเพียงสบู่ก้อนเล็กๆ ให้ใช้ถูตัวสระผมแต่เด็กน้อยยังสระผมไม่เป็นจึงทำได้เพียงเอาน้ำราดหัวและถูสบู่ลวกๆ เท่านั้นทำให้สภาพเป็นอย่างที่เห็น เสื้อผ้าก็สกปรกเพราะไม่ได้ผ่านการซักที่ดี ทั้งที่เธอมีเสื้อผ้ามาใหม่บ่อยๆ เพราะพ่อของเด็กน้อยมักจะหาซื้อมาให้ตลอด แต่ใส่แล้วไม่ซักก็เก่าหมดเช่นกันช่วงหลังพ่อของเธอไม่ได้กลับมาหลายเดือน และฝากแต่เงินมาให้ภรรยาและคิดว่าภรรยาคงจะเป็นคนจัดหาให้ลูกสาวบ้าง แต่ซูซิน นั้นไม่ได้สนใจลูกเลี้ยงขนาดนั้นเธอให้กินให้ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และระยะหลังยิ่งเอาแต่หมกมุ่นกับตัวเองด้วยจิตใจที่ขุ่นเคือง ทำให้ไม่สนใจลูกเลี้ยงยิ่งกว่าช่วงแต่งงานมาใหม่ๆ .