บทนำ

1141 Words
    บทนำ     “อุ๊ย!”                เสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากหญิงสาวในชุดนักศึกษาเมื่อประตูถูกเปิดพรวดเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เจ้าหล่อนกำลังนัวเนียอยู่กับเจ้านายหนุ่มบนโซฟารับรองแขก โดยผู้ที่มีสิทธิ์เข้ามาโดยไม่ต้องบอกให้รู้ตัวนั่นก็คือพี่ชายของซีอีโอบริษัทนี้เท่านั้น ใบหน้าบอกบุญไม่รับทำให้ร่างอวบอิ่มในชุดนักศึกษารีบผละออกห่าง รีบก้มหน้าเดินเลี่ยงกลับไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตนทันที                “แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกไปจากห้องนี้ซะ”                ปรานต์ออกคำสั่งกับร่างที่กำลังนั่งก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกหลากหลาย สายตาคู่คมที่กำลังจับจ้องไปยังคู่ควงของน้องชายด้วยใบหน้านั้นราบเรียบตามสไตล์ ยากจะเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่…ส่วนอีกฝ่ายรีบก้มลงมองตัวเองด้วยความอับอายต่อสายตาคู่คมที่กำลังจับจ้อง เมื่อสำรวจเสื้อผ้าจนแน่ใจว่าเป็นปกติดังเดิมแล้วจึงรีบผลุนผลันออกจากห้องไปไม่รอให้ถูกไล่ซ้ำสอง                “วันหลังถ้ารู้ว่าจะเรียกฉันมาคุย นายก็น่าจะระวังตัวเอาไว้บ้าง แล้วนี่อะไร คิดจะทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดหรือยังไง”                ชายหนุ่มตำหนิน้องชายเสียงเข้ม ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหนานุ่ม ใบหน้าแสดงถึงความเคร่งเครียด                “เอาเถอะเฮีย เราอย่าไปพูดถึงเลย เรื่องมันไร้สาระน่ะ ที่ผมเรียกเฮียมาในวันนี้เพียงเพราะอยากปรึกษาเรื่องหนึ่งเท่านั้น”                ใบหน้าคมไม่ต่างไปจากคนเป็นพี่เผยยิ้มซ่อนเล่ห์ ปลายนิ้วแกร่งขยับเนกไทเนื้อดีให้เข้าที่หลังจากถูกดึงทึ้งออกมาก่อนหน้านั้น ยกขาขึ้นไขว่ห้างไม่สนใจอารมณ์ของคู่สนทนาเลยสักนิด                “เดี๋ยวนี้นายคิดได้แล้วเหรอว่าเรายังเป็นพี่น้องกันอยู่”                ปรานต์ยิ้มเย็น หากแต่ว่าคำพูดของเขากระตุกใจคนฟังยิ่งนัก ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องเริ่มห่างเหินกันมากขึ้นทุกวัน หลังจากปริชญ์ได้สร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นตัวเองจากบุคคลรอบข้างทั้งหลายที่รายล้อมอยู่ ปริชญ์ในคราบร้ายๆ ได้มาแทนที่ปริชญ์คนเดิมที่บรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายได้เคยรู้จัก                “ถึงอย่างไรผมก็ยังเคารพเฮียเสมอ ไม่เคยคิดร้ายด้วยเลยสักนิด”                “แล้วเรื่องสำคัญของนายคืออะไร”                “ผมจะให้เฮียไปเป็นเถ้าแก่สู่ขอวิให้ผม!”                “อะไรนะ! วิน่ะเหรอ นี่ฉันฟังไม่ผิดใช่มั้ย”                เพียงได้ฟังความประสงค์ของน้องชายปรานต์ถึงกับตกใจ เพราะวิมลยาคือหญิงสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิตของน้องชายของเขาในฐานะคนรัก และเป็นการเข้ามาแบบไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่นัก                “ไม่ต้องตกใจหรอกครับ เฮียฟังไม่ผิด ผมคิดว่าเราน่าจะแต่งงานกันได้แล้ว”                “ฉันไม่เชื่อว่านายจะไม่มีแผนอะไรอยู่ในใจ ก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะว่านายกำลังคิดจะทำอะไร เพียงแต่อย่าดึงเธอเข้ามาในเกมนี้ หยุดทำร้ายพวกเธอเหล่านั้นได้แล้ว”                “ผมไม่เคยทำร้ายใคร พวกเธอเต็มใจที่จะเดินเข้ามาเล่นกับไฟเอง แม้จะรู้ว่าไฟมันร้อน”                “นายกำลังใช้เสน่ห์ในทางที่ผิด สักวันมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง”                ปรานต์ถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม เมื่อความพยายามที่ผ่านมาของเขาไม่เป็นผล รู้สึกเสียดายน้องชายคนเดิมที่หายไป ชายหนุ่มเบื้องหน้าคือซาตานร้ายที่เขาไม่อยากจะมองหน้า                “เฮียไม่ต้องกังวลหรอก เพราะผมมั่นใจว่าวิคือรักสุดท้ายของผม…สุดท้าย…และ…ตลอดไป…”                 ปริชญ์เอ่ยออกมาฟังดูเหมือนหนักแน่น ทว่าน้ำเสียงนั้นมันช่างเบาหวิวยิ่งนัก ที่ไม่เอ่ยเต็มปากเพราะเขารู้ดีว่ามันไม่ได้ออกมาจากจิตใจอย่างแท้จริง คำว่ารักไม่ได้ถูกกลั่นออกมาจากก้นบึ้งที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึก ผู้หญิงอย่างวิมลยาไม่เคยกินพื้นที่ในหัวใจ เนื่องจากใจของเขามันได้ตายไปพร้อมกับร่างที่ไร้วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว ตายไปจากร่างกายที่สร้างเปลือกนอกเคลือบฉาบภายในเอาไว้ ทุกวันนี้เขาไม่ต่างไปจากร่างที่ไร้วิญญาณร่างหนึ่งเท่านั้น… +++++ Next Sample ตอนที่ 1 โจรล่าพรหมจรรย์                  บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงแบบวีไอพีที่โรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง บรรดาซีอีโอหนุ่มแห่งกลุ่มพันธมิตรได้นัดหมายกันมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจเชิงสังสรรค์ไปในตัว และแน่นอนว่าการมาของพวกเขาในแต่ละครั้งนั้นมักหลีกหนีไม่พ้นสุราและนารี เนื่องจากพวกเธอเหล่านั้นจะช่วยให้การพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น                “เอาใจเขาเข้าไว้ คนนั้นน่ะ แล้วเธอจะสบาย”                เจ้าของคำพูดทำหน้าพยักพเยิดไปทางชายหนุ่มใบหน้าคมคร้ามที่กำลังละเลียดวิสกี้ชั้นดีอยู่ตรงโต๊ะถัดไปไม่ไกลนัก…คล้ายจะรู้ตัวว่ากำลังถูกจับจ้อง สายตาคู่คมปรายมองมายังหญิงสาวทั้งสองที่เพิ่งพาร่างเข้ามาในห้องนี้ได้ไม่นาน ก่อนส่งยิ้มเล็กๆ มาให้อย่างรู้ความหมายในกันและกันดี                “สวัสดีค่า บอสทั้งหลายของเก๋”                                                                  หล่อนเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะสังสรรค์ทันทีเมื่อสายตาหลายคู่กำลังมองมาด้วยความสนใจ เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ แม้จะอายุขึ้นเลขสี่แล้วแต่ความสวยของหล่อนก็ยังคงเหมือนเดิม หากให้ไปยืนปะปนกับหญิงสาวที่มีอายุสามสิบต้นๆ แล้วแยกจากกันไม่ออกก็คงไม่แปลกนัก ทั้งนี้มาจากการที่เจ้าตัวดูแลตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอดนั่นเอง                “มาสิ”                เอ่ยจนเกือบกระซิบกับหญิงสาวที่ยืนหลบอยู่ด้านหลัง พลางแอบกระตุกแขนเบาๆ ให้เดินตามเมื่ออีกฝ่ายยังคงทำกล้าๆ กลัวๆ สายตาจิกกัดปรายมองอย่างไม่พอใจ ด้วยกลัวว่าหญิงสาวที่พามาในวันนี้จะทำให้ต้องเสียลูกค้าชั้นดีไป                “คุณริทขา วันนี้เก๋พาน้องแคทมาแนะนำให้รู้จัก รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ”                เจ้าตัวปราดเข้ามาจนแทบจะนั่งตัก จนปริชญ์ต้องเอี้ยวตัวหลบอย่างสุภาพพลางส่งยิ้มชวนให้ใจละลายกลับไป รอยยิ้มเผยเขี้ยวเสน่ห์ของเขาทำให้คนมองแทบอยากลดอายุลงไปจากนี้อีกสักสิบปี เผื่อว่าจะโชคดีได้เป็นคู่ควงของซีอีโอหนุ่มหล่อแห่งเคพี อินเตอร์กรุ๊ปกับเขาบ้าง  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD