ตอนที่ 10-1

1524 Words
หนิงลู่ซือเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องปรุง ไหนจะเนื้ออีกหลายชั่ง เมื่อมาถึงบ้านก็เห็นท่านป้าหลินกำลังยืนอยู่หน้ารั้วบ้านของตน “สวัสดีเจ้าค่ะท่านป้า ท่านมาหาข้ามีธุระอันใดหรือไม่เจ้าคะ” หลินจูหันไปทางเสียงเรียกก็พบกับหนิงลู่ซือ นางกำลังเข็นรถเข็นมาทางตน ในรถเข็นมีร่างน้อยๆ ของหนิงลี่อินนอนหลับอยู่ “ป้าก็มาหาเจ้านั่นแหละ พอดีเมื่อเช้าท่านลุงกับลูกชายป้าเข้าป่า ล่ากระต่ายป่ามาได้หลายตัว ป้าเลยทำน้ำแกงแล้วตักมาเผื่อเจ้า” “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านป้า เชิญท่านป้าเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาท่านป้าเจ้าค่ะ” เมื่อเข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว หลิงลู่ซือก็อุ้มหนิงลี่อินที่หลับปุ๋ยเข้าไปนอนในห้อง อืม เหมือนตัวน้องสาวนางจะหนักขึ้นเล็กน้อย “เจ้ามีอะไรจะปรึกษาป้าหรือ” หลินจูเอ่ยถาม “ข้าอยากถามท่านป้าว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทำนาปลูกข้าว เมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยวจะทำอะไรกันหรือเจ้าคะ” “อย่างที่เจ้าพูด ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ก็ทำนาปลูกข้าว แต่ก็นั่นแหละขนาดปลูกข้าวเอง สุดท้ายยังต้องซื้อข้าวกิน เพราะกฎหมายเกี่ยวกับภาษี บ้านหลังไหนมีที่ดินมากก็เสียภาษีมาก ชาวบ้านอย่างเราจะเอาเงินที่ไหนมาเสียภาษี สุดท้ายก็กลายเป็นว่าต้องส่งข้าวที่เก็บเข้าคลังแทนการเสียภาษี” หลินจูกล่าวตอบ “นี่ก็หมดฤดูเก็บเกี่ยวไปนานแล้ว แล้วอย่างนี้พวกเขาทำอะไรกันเจ้าคะ” ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งแปลว่าผ่านฤดูเก็บเกี่ยวมาแล้ว “ช่วงนี้บางบ้านก็เตรียมที่ดินในนาเพื่อปลูกข้าว บางบ้านก็เข้าป่าล่าสัตว์ บางบ้านก็ไปหางานในเมืองทำ แล้วเจ้าถามป้าเรื่องนี้ทำไมหรือ” หลินจูถามด้วยความสงสัย “ข้าจะซื้อที่ดินเพิ่มเจ้าค่ะ คิดไว้ว่าจะจ้างชาวบ้านมาช่วยแผ้วถาง ข้าต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้แต่ละคนกำลังทำอะไร เพราะถ้าไม่มีใครว่างข้าจะได้เข้าไปว่าจ้างคนจากที่อื่นเจ้าค่ะ” “หืม เจ้าจะซื้อที่เพิ่มหรือ” จางซูมี่ตอนนี้ลูกสาวของเจ้ากำลังจะซื้อที่ดินเพิ่มด้วยนะ หนิงลู่ซือกับหนิงลี่อินกำลังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เจ้าอยู่บนนั้นก็ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกนางด้วยนะ หลินจูกล่าวบอกสหายในใจ “ใช่เจ้าค่ะ ข้าจะปลูกผักขายเจ้าค่ะ” “ดีๆ ถ้าเจ้าอยากให้ป้าช่วยอะไรก็บอกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ” “ข้าคงต้องรบกวนท่านป้าหลายอย่างเลยเจ้าค่ะ” “จะกี่อย่างก็บอกป้าได้เลย แล้วเจ้าได้ไปที่บ้านท่านผู้นำพูดเรื่องซื้อที่ดินหรือยัง” “ยังเลยเจ้าค่ะ รออาอินตื่นก่อน ข้าค่อยไปเจ้าค่ะ” “เอาอย่างนี้เจ้าไปบ้านท่านผู้นำก่อน เดี๋ยวป้าจะอยู่เป็นเพื่อนอาอินเอง แล้วก็อย่าลืมพูดเรื่องที่จะจ้างชาวบ้านมาแผ้วถางด้วยล่ะ” หลินจูแนะนำ “เอาแบบที่ท่านป้าพูดก็ได้เจ้าค่ะ งั้นข้าไปบ้านท่านผู้นำก่อนนะเจ้าคะ” กล่าวจบหนิงลู่ซือก็เดินออกจากบ้านจุดมุ่งหมายคือบ้านของท่านผู้นำ “ท่านผู้นำเจ้าคะ ท่านผู้นำ” หนิงลู่ซือตะโกนเรียกท่านผู้นำอยู่หน้ารั้วบ้าน “ใครมาน่ะ” ชายชราเดินออกมาหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงเรียก เห็นหญิงสาวที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตานักยืนอยู่นอกรั้วบ้าน “คารวะท่านผู้นำเจ้าค่ะ ข้าหนิงลู่ซือ เป็นบุตรสาวของท่านแม่จางซูมี่เจ้าค่ะ” แต่เมื่อหญิงสาวแนะนำตัว ‘ไฉเฉิน’ ก็พอจะนึกออก จึงเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านให้หนิงลู่ซือเดินเข้ามา “เข้ามาก่อนๆ เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใดหรือไหม” “มีเจ้าค่ะ” “มีธุระอันใดไหนบอกข้าสิ” ไฉเฉินจำได้ว่าตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าอยู่กับน้องสาวแค่สองคน ก็กลัวว่านางมีเกิดเรื่องอะไรหรือไม่ ถึงได้มาหาเขาเช่นนี้ “เรื่องแรกข้าอยากซื้อที่ดินเพิ่มเจ้าค่ะ” “ซื้อที่ดินเหรอ?” ไฉเฉินถามย้ำอีกครั้งด้วยกลัวว่าตนนั้นจะฟังผิดไป “เจ้าค่ะ ข้าจะซื้อที่ดินเพิ่มไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่เจ้าคะ” “ที่ดินหมู่บ้านเราราคาหมู่ละ 7 ตำลึง เดี๋ยวข้าไปเอาแผนที่มาให้เจ้าดูว่าอยากได้ตรงไหน” ไฉเฉินเดินกลับเข้าบ้านแล้วออกมาอีกครั้งพร้อมแผนที่ของหมู่บ้าน หนิงลู่ซือเห็นว่าที่ดินทั้งสองฝั่งของบ้านนางยังไม่มีเจ้าของก็ตัดสินใจได้ในทั้นที “ข้าเอาที่ดินทางฝั่งขวาของบ้าน 10 หมู่ ทางฝั่งซ้ายของบ้าน 40 หมู่เจ้าค่ะ” ไฉเฉินได้ยินว่านางจะซื้อที่ดินเยอะขนาดนี้ก็ตกใจจนพูดไม่ออก นางซื้อที่ดินถึง 50 หมู่!! “ได้ๆ ที่ดิน 50 หมู่ หมู่ละ 7 ตำลึง เป็นเงิน 350 ตำลึง มีค่าดำเนินการอีก 25 ตำลึง” หนิงลู่ซือหยิบเงินออกมานับและยื่นให้ท่านผู้นำหมูบ้าน ไฉเฉินไม่เคยได้จับเงินตำลึงมากมายขนาดนี้มาก่อนก็อดที่จะมือสั่นไม่ได้ “เดี๋ยวข้าจะไปวัดที่ให้เจ้า แล้ววันพรุ่งจะรีบเข้าเมืองไปจัดการเรื่องที่ดินให้ ไม่เกิน 3 วันข้าจะเอาโฉนดไปให้ที่บ้าน” “ขอบคุณท่านผู้นำมากเจ้าค่ะ เรื่องแรกจบแล้ว ข้ายังมีอีกเรื่องที่อยากรบกวนท่านผู้นำเจ้าค่ะ” “ว่ามาได้เลย” “ข้าจะว่าจ้างชาวบ้านให้มาแผ้วถางที่ดินที่เพิ่งซื้อ และให้พวกเขาปรับหน้าดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกเจ้าค่ะ ค่าจ้างข้าจะให้เป็นหมู่ โดย 1 หมู่ต่อหนึ่งครอบครัวทำเสร็จ 1 หมู่แล้วก็ไปทำหมู่ต่อไป ข้าจะให้ค่าจ้างหมู่ละ 100 อีแปะ มีข้าวกลางวัน 1 มื้อ แต่ถ้าทำงานแล้วขี้เกียจหรือมีปัญหาข้าจะเลิกจ้างทันทีเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องคนทำอาหารเลี้ยงชาวบ้านข้าจะให้ท่านป้าหลินเป็นคนหาเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือบอกความต้องการแก่ท่านผู้นำ “ได้ๆ ข้าจะจัดการให้” ทำงานในเมืองบางวันยังได้ไม่ถึง 30 อีแปะ แต่ทำงานแผ้วถางบ้านหนิงลู่ซือได้หมู่ละ 100 อีแปะ ถ้าใครโง่ยังก่อเรื่องเขาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว “อ๋อ สามารถพาเด็กๆ มาด้วยได้นะเจ้าคะ มาช่วยหยิบกิ่งไม้เล็กๆ น้อยๆ ไม่มีค่าจ้างแต่มีข้าวกลางวันเลี้ยงเจ้าค่ะ” เพราะบางครอบครัวมีลูกต้องคอยดูแลจึงไม่สามารถออกไปหางานทำได้ นางเลยให้เอาลูกมาเลี้ยงด้วยได้แถมมีข้าวให้อีก 1 มื้อ เด็กๆ จะได้กินอิ่ม นางเห็นเด็กหลายคนตัวเล็กกว่าน้องสาวของนางเมื่อก่อนเสียอีก “ข้าขอบใจเจ้าแทนชาวบ้านด้วยนะ แล้วเจ้าจะให้เริ่มงานวันไหนหรือ ข้าจะได้เรียกชาวบ้านมาประชุม” “อีก 3 วันก็ได้เจ้าคะ” เมื่อตกลงเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้วหนิงลู่ซือก็เดินกลับบ้านมาปรึกษากับหลินจู ให้ท่านป้าหาหญิงสาวมาช่วยทำมื้อกลางวันแจกชาวบ้านที่มาทำงานในอีก 3 วันข้างหน้า และอยากรบกวนให้ท่านลุงมาช่วยคุมงานด้วย หลินจูรับปากหนิงลู่ซือว่าจะจัดการให้ ทั้งเรื่องหาคนมาทำมื้อกลางวัน และเรื่องที่ให้สามีของนางมาคุมคนงานที่จะมาทำงานในอีก 3 วันข้างหน้า ยามโหย่วเสียงระฆังเรียกประชุมหมู่บ้านดังขึ้น ชาวบ้านทุกครัวเรือนต่างก็มาประชุมกัน บางบ้านก็มาทั้งครอบครัว บางบ้านก็ส่งตัวแทนมา “ท่าผู้นำขอรับ วันนี้ท่านเรียกประชุมมีเรื่องอันใดจะแจ้งหรือขอรับ” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น เพราะไม่บ่อยนักที่ท่านผู้นำจะเรียกประชุมเช่นนี้ “วันนี้ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาประชุมย่อมมีเรื่องจะแจ้งพวกเจ้าอยู่แล้ว หนิงลู่ซือที่บ้านอยู่ท้ายหมู่บ้านได้ซื้อที่ดินเพิ่ม 50 หมู่ นางต้องการจ้างพวกเจ้าให้ไปแผ้วถางที่ดิน ให้ค่าจ้างหมู่ละ 100 อีแปะ โดย 1 ครอบครัวจะไปทำกี่คนก็ได้ แต่ต้องทำด้วยกัน มีข้าวกลางวันเลี้ยง 1 มื้อ” ได้ยินว่ามีคนซื้อที่ดินเพิ่มถึง 50 หมู่ พวกชาวบ้านต่างก็ตกใจกันไม่น้อย พี่น้องตระกูลหนิงช่างร่ำรวยจริงๆ แต่เมื่อได้ยินว่านางจะจ้างพวกเขาแผ้วถางที่ดินอีกทั้งได้ค่าแรงถึงหมู่ละ 100 อีแปะ ต่างก็ดีใจและอยากจะไปทำงานที่บ้านหนิงกันทุกคน ที่สำคัญคือยังมีข้าวกินอีก 1 มื้อด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD