ตอนที่ 5-2

1512 Words
หนิงลี่อินตัวน้อยเจ้าก็ขายของเก่งเหมือนกันนะเนี่ย เจาเจ๋อคิดในใจ จะผิดไหมถ้าเขาอยากได้ลูกของผู้อื่นไปเลี้ยง เห็นหลายคนลองชิมผลไม้แล้วต่างทำหน้าพึงพอใจ เขาจึงหยิบไม้ขึ้นมาจิ้มผลไม้ชิมหนึ่งชิ้น อืม อร่อย กรอบ สดใหม่สมคำบอกเล่า “แล้วขายอย่างไรเล่าแม่ค้าตัวน้อย” ท่านป้าคนหนึ่งถามขึ้น “ผิงกั่วและซานจาป่าขายเพียงชั่งละ 5 อีแปะ ซื้อครบ 5 ชั่งแถมฟรี 1 ชั่งไปเลยเจ้าค่ะ สามารถซื้อรวมกันได้ด้วยนะเจ้าคะ” หนิงลี่อินรู้สึกคอแห้งนิดหน่อยแล้ว “ทำไมขายถูกนักเล่า” เจาเจ๋อไม่เข้าใจ ขายถูกไม่พอ ยังแถมให้อีกต่างหาก “พี่ใหญ่บอกว่าเราไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอันใด เพียงเสียเหงื่อในการเก็บเท่านั้นเลยขายราคานี้เจ้าค่ะ” หนิงลี่อินอธิบายเหตุผลในการตั้งราคาครั้งนี้ให้ทุกคนฟัง ทำให้เจาเจ๋อและคนอื่นๆ รู้สึกดีกับสองพี่น้องคู่นี้ “ถ้าผู้ใดสนใจสามารถต่อแถวแล้วมาสั่งกับข้าได้เลยเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือตะโกนบอกลูกค้า “อ๋อ ข้ายังมีปลาอีกด้วยนะเจ้าคะ แต่ข้าเอามาให้ดูไม่ได้เพราะเดี๋ยวมันจะกระโดดออกจากถังเจ้าค่ะ” หนิงลี่อินนึกขึ้นได้ว่ายังมีปลาอีกอย่างหนึ่ง ที่ยังไม่ได้นำเสนอลูกค้า จึงร้องบอกออกไปอีกครั้ง “อะไรนะ เจ้าบอกว่าปลาจะกระโดดออกจากถังหรือ มันเป็นไปได้อย่างไร” ปลาจะกระโดดออกจากถังได้ก็ต้องเป็นปลาที่ยังไม่ตายสิ “ปลาของเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ” ท่านลุงอีกคนร้องถาม “เจ้าค่ะ ปลาของข้ายังมีชีวิตอยู่ เพิ่งจับเมื่อเช้านี้เองเจ้าค่ะ สดแน่นอน!” พอรู้ว่าปลายังมีชีวิตหลายคนก็แตกตื่น นางทำได้อย่างไรนางจับปลาโดยที่ปลายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร “เจ้าขายอย่างไร” เจาเจ๋อถามขึ้น เขาก็อยากได้ปลาสดๆ ใหม่ๆ ไปให้แม่ครัวที่บ้านทำอาหารเช่นกัน “ข้าขายชั่งละ 15 อีแปะ พวกท่านสามารถเลือกปลาตัวที่อยากได้มาให้ข้าชั่งได้เลยเจ้าค่ะ ถ้าเลือกแล้วน้ำหนักเกินกว่าที่ต้องการก็สามารถเปลี่ยนตัวใหม่ได้เจ้าค่ะ” เกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง ปลายังมีชีวิตแต่ขายเพียงชั่งละ 15 อีแปะ ไม่มีอะไรจะคุ้มเท่านี้อีกแล้ว ในตลาดทปลาที่ตายแล้วยังขายชั่งละ 20 อีแปะ 25 อีแปะกันเลย “อาซือข้าเอาผิงกั่วกับซานจารวมกัน 10 ชั่ง ส่วนปลาเจ้าเลือกให้ข้าสัก 3 ตัว” เจาเจ๋อรีบเอ่ยซื้อสินค้า เพราะดูแล้วน่าจะมีคนสนใจไม่น้อย เขาต้องชิงสั่งก่อน ถ้าขืนชักช้าคงอดกันพอดี “ได้เจ้าค่ะเถ้าแก่เจา” หลังจากเถ้าแก่ร้านสมุนไพรซื้อเป็นคนแรก ก็มีคนสนใจสินค้าพวกนางอีกหลายคนโดยเฉพาะปลา นางเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าปลาที่พ่อค้าแม่ค้าขาย ส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่ตายแล้วไม่ใช่ปลามีชีวิตแบบที่นางนำมาขายในวันนี้ ไม่ถึงชั่วยามของที่นางเตรียมมาก็ขายหมด ได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว “พี่ใหญ่เราขายของได้เงินเยอะแยะเลยเจ้าค่ะ” หนิงลี่อินตื่นเต้นมากๆ นางไม่เคยขายของ แต่เมื่อได้ลองขายแล้วกลับรู้สึกสนุกมากๆ พูดจนคอแห้งไปหมด ว่าแล้วก็ดื่มน้ำสักหน่อยดีกว่า “ใช่ ได้เยอะมากเลย ปลา 50 ชั่ง ชั่งละ 15 อีแปะ เป็นเงิน 750 อีแปะ ผิงกั่วกับซานจาป่าไม่รวมที่แถมก็ 100 ชั่ง ชั่งละ 5 อีแปะ เป็นเงิน 500 อีแปะ รวมทั้งสองอย่างขายได้ 1 ตำลึง 250 อีแปะเลยนะ” ถึงแม้จะไม่ได้มากเท่ากับขายสมุนไพร แต่ของทุกอย่างที่นำมาขาย นางไม่ได้เสียต้นทุนอะไรสักอย่างนอกจากแรงกาย ขายได้เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว “ว้าวว วันนี้เราไปเก็บผิงกั่วกับซานจาอีกดีหรือไม่เจ้าคะพี่ใหญ่” “เจ้าไม่เหนื่อยรึ” “ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ แค่คอแห้ง” พูดว่าคอแห้งแล้วหิวน้ำขึ้นมาทันที ดื่นน้ำอีกหน่อยแล้วกัน “ขายหมดแล้วหรือแม่ค้าตัวน้อย” เจาเจ๋อเดินออกมาดูเพราะไม่ได้ยินเสียงของสองพี่น้องร้องขายของ “ขายหมดแล้วเจ้าค่ะเถ้าแก่” หนิงลี่อินเป็นคนตอบ “ขายดีมากเลยใช่หรือไม่” “ขายดีมากเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะไปเก็บมาขายอีกเจ้าค่ะ” เด็กน้อยกล่าวอย่างตื่นเต้น “ดีๆ เก็บส่วนของลุงไว้ด้วยเล่า” “ได้เลยเจ้าค่ะ” หนิงลี่อินรับปากแต่ไม่รู้พี่ใหญ่จะพาไปเก็บหรือไม่ เมื่อวานผิงกั่วกับซานจายังเหลืออยู่เยอะแยะเต็มไปหมด “เถ้าแก่เจ้าคะ ค่าเช่าพื้นที่ขายของท่านคิดเท่าไหร่เจ้าคะ” “ค่าเช่าอะไร ข้าเป็นคนให้พวกเจ้าขายเอง ขายไม่คิดค่าเช่า” เจาเจ๋อกล่าวอย่างจริงจัง เขาเต็มใจช่วยได้ไม่จะคิดค่าเช่าอะไรทั้งนั้น “แต่ข้าเกรงใจเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือไม่อยากจะเอาเปรียบผู้อื่น “ไม่ต้องเกรงใจ งั้นเอาแบบนี้ถ้าคราวหลังเจามีของมาขายอีกก็มาขายที่นี่ได้เลย ค่าเช่าที่เอาเป็นว่าพวกเจ้าก็แถมให้ข้าเพิ่มอีกนิดก็แล้วกัน” “ได้เลยเจ้าค่ะ วันนี้ข้ากับน้องสาวขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” ยังมีของที่ต้องซื้ออีก หนิงลู่ซือจึงเอ่ยขอตัวลา “ได้ๆ เดินทางกันดีๆ ละ ส่วนโต๊ะเดี๋ยวข้าให้เด็กมาเก็บเอง พวกเจ้ากลับเถิด” “เจ้าค่ะ ข้าลาก่อนเจ้าค่ะเถ้าแก่” หนิงลู่ซือ “ขอตัวลาเจ้าค่ะเถ้าแก่” หนิงลี่อิน แล้วสองพี่น้องก็เข็นรถออกจากร้านเถ้าแก่เจามุ่งตรงไปยังโรงรับฝากเงิน หนิงลู่ซือยื่นแผ่นไม้ให้พนักงานโรงรับฝากเงิน 2 แผ่น ส่วนของหนิงลี่อินฝากเพิ่ม 10 ตำลึง ของนางฝากเพิ่ม 20 ตำลึง ฝากเสร็จเรียบร้อยพนักงานก็ยื่นแผ่นป้ายคืนกลับมา หนิงลู่ซือพาหนิงลี่อินเดินซื้อของในตลาด นางอยากจะพาอาอินน้อยไปซื้อชุดสวยๆ อีก แต่น้องสาวไม่ยอมบอกว่าที่ซื้อไปวันก่อนนางยังใส่ไม่ครบทุกชุดเลย แผนการใช้เงินซื้อชุดให้น้องสาวจึงต้องพับเก็บไปก่อน มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ ผู้คนก็เยอะมากเช่นกัน หนิงลู่ซือเข็นรถเข็นไปตามร้านทางถนนโดยมีหนิงลี่อินนั่งอยู่บนรถ เดินผ่านร้านขายพวกถังน้ำ กะละมังไม้ ตะกร้า หนิงลู่ซือก็นึกขึ้นได้ว่านางซื้อถั่วเขียวไป แต่ยังไม่ได้เริ่มต้นเพาะถั่วงอกเลย เพราะช่วงนี้นางยุ่งมากๆ คิดได้เช่นนั้นหนิงลู่ซือจึงหยุดรถเข็นที่หน้ารานขายถัง ขายตะกร้า เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ไปใช้ในการเพาะถั่วงอก แต่นางก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ “ร้านเซินยินดีต้อนรับขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ของร้านเห็นลูกค้าเดินเข้ามาก็ออกไปต้อนรับ “สวัสดีเจ้าค่ะ ข้าต้องการตะกร้าเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือบอกความต้องของตนกับเสี่ยวเอ้อร์ “เชิญแม่นางตามข้ามาเลยขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์นำทางสองพี่น้องไปดูตะกร้าซึ่งก็มีให้เลือกหลายแบบเลยทีเดียว “เชิญแม่นางเลือกได้ตามสบายเลยขอรับ” กล่าวจบก็แยกตัวออกมายืนอยู่ห่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกของอย่างสบายใจ หนิงลู่ซือมองตะกร้ามีทั้งทรงสี่เหลี่ยมรูปทรงคล้ายๆ ถาดใส่อาหารตามร้านข้าวราดแกงแต่ที่นางกำลังหยิบขึ้นมาดูเป็นตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ ยังมีตะกร้าหิ้วที่ใช้สำหรับใส่ข้าวของ ไหนจะตะกร้าที่ทรงสูงเหมือนตะกร้าผ้าอีก แต่จากที่ดูตะกร้าทั้งหมดนางชอบตะกร้าแบบแรกมากที่สุด “ตะกร้าใบนี้ขายราคาเท่าไหร่เจ้าคะ” หนิงลู่ซือหยิบตะกร้าทรงสี่เหลี่ยมขึ้นถามเสี่ยวเอ้อร์ “ตะกร้าใบนี้ขายใบละ 15 อีแปะขอรับ” อืม ราคาก็ถือว่าพอรับได้ “ข้าเอา 20 ใบเจ้าค่ะ” “ได้ขอรับ ไม่ทราบแม่นางจะรับจะไรเพิ่มอีกหรือไม่ขอรับ” “ไม่รับอะไรเพิ่มแล้วเจ้าค่ะ รบกวนท่านคิดเงินให้ข้าได้เลยเจ้าค่ะ” “ขอรับ เชิญแม่นางรอข้าสักครู่ขอรับ” “ตะกร้าทั้งหมด 20 ใบ ใบละ 15 อีแปะ ทั้งหมด 300 อีแปะขอรับ” “นี่เจ้าค่ะ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือหยิบเงิน 300 อีแปะให้เสี่ยวเอ้อร์ รับตะกร้าแล้วก็เดินออกจากร้าน เป้าหมายต่อไปคือร้านผ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD