EP1
TANYHONG TALKS
หลังจากที่คุณกรพูดบ้า ๆ นั่น ฉันก็เอาแต่จ้องทีวี เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าที่ฉันคิด จะออกแนวกวนตีนมากกว่า แต่ก็นั่นแหละเพิ่งจะวันแรกยังพิสูจน์อะไรไม่ได้
~Rrrr~
-ป้าหน่อย-
ป้าหน่อยโทรเข้ามาหาฉัน ฉันเลยลุกเดินเข้ามาในห้องนอน โดยที่ไม่ลืมที่จะล็อกประตู ฉันนั่งลงที่เตียงแล้วกดรับสาย
"ฮัลโหลค่ะป้าหน่อย" ฉันเอ่ยทักทายป้าหน่อย ญาติคนเดียวของฉัน
ฉันกำพร้าพ่อแม่ ท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแค่ที่ฉันยังอายุแค่สามขวบ ป้าหน่อยเป็นพี่สาวของแม่ ท่านเลี้ยงดูฉันมาตลอด
ป้าหน่อยขายของในตลาด ฉันจะไปช่วยขายเป็นประจำ จนฉันขึ้น ม.4 ป้าหน่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทำให้ขายของไม่ไหว ท่านไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงหรอกเป็นเบาหวานและความดันสูง ทำให้วูบบ่อย ๆ ฉันเลยไปขายเองและไปเรียนด้วย
ฉันตัดสินใจว่าจะยังไม่ต่อปริญญาตรี แต่บังเอิญได้เจอคุณพิศมัย ท่านเลยเสนองาน พร้อมส่งฉันเรียนและออกค่าใช้จ่ายให้ฉันทุก ๆ อย่าง และเมื่องานเสร็จจะให้เงินตั้งตัวอีกด้วย ฉันเลยตกลงทำงานที่ท่านเสนอมา
"เป็นยังไงบ้างตันหยง เจ้านายโอเคไหม แล้วดูเด็กเป็นยังไงบ้าง" ป้าหน่อยถามฉันกลับมา
"คุณพิศมัยไปต่างประเทศแล้วค่ะ ส่วนที่ตันหยงต้องดูแลไม่ใช่เด็กค่ะป้า ตัวโตอย่างกับยักษ์" ฉันตอบกลับไป
ฉันและป้าหน่อยคิดเหมือนกันว่าคนที่ต้องดูแลต้องเป็นเด็ก ใครจะคิดว่าจ้างมาดูแลคนอายุเกือบสามสิบปี
"แล้วเขาดีกับตันหยงหรือเปล่า"
"เขากวน ๆ ค่ะป้า ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง" ฉันเองก็ยังกังวลกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าร้ายฉันจะรับมือไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้
"ถ้าไม่ไหวก็กลับมานะลูก เดี๋ยวป้าพยายามหาเงินส่งตันหยงเรียนเอง"
"ไหวค่ะป้า ตันหยงไหวอยู่แล้วค่ะ" ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"สู้ ๆ นะลูก" ป้าหน่อยให้กำลังใจ
~ปึงงง~ เสียงอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่ประตูห้องนอนฉันแต่เสียงนั้นไม่ได้ดังมาก
"ค่ะป้า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ" ฉันรีบวางสายเพื่อที่จะออกไปดูต้นเหตุของเสียงนั่น รีบสาวเท้าก้าวเดินตรงไปที่ประตูและเปิดออกทันที
~ปึงงง~
ฉันล้มลงนอนกองที่พื้นโดยที่มีชายร่างใหญ่นอนทับฉันอยู่ ฉันรู้สึกเจ็บหลัง เจ็บก้นจุกที่ท้องเพราะถูกทับ
เมื่อสักครู่นี้ฉันเปิดประตู คุณกรก็ถลาล้มลงพาฉันล้มไปด้วย
"เฮ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ" คุณกรร้องอุทานออกมา แต่เขาก็ยังไม่ลุกออกไป เขาอาจจะลืมตัวว่ายังทับฉันอยู่
"ค่ะ ลุกออกไปได้แล้วค่ะ" ฉันตอบกลับ
"..." เขามองหน้าฉันแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม คงจะคิดอะไรแปลก ๆ อีกแล้วแน่ ๆ
"ลุกสิคะ ฉันหนัก!" น้ำหนักเขาไม่ใช่น้อย ๆ นะที่จะมาทับตัวฉันไว้ได้ขนาดนี้อะ
"จูบหน่อย" เขาเอ่ยขึ้นมาแล้วทำปากจู๋เลื่อนมาที่ใกล้หน้าฉัน จนใบหน้าเราอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซน
"ออกไป๊" ฉันเอียงหน้าหลบ ทำให้ปากของเขาชนที่แก้มฉัน
"อย่าหวงตัวเลยน่า" เขาจับใบหน้าฉันให้หันตรงมองหน้าเขา ฉันพยายามแกะมือเขาออกแต่มือเขาไม่ขยับเลยแม้แต่นิด นั่นมือคนหรือเท้าตุ๊กแก! ถึงได้เหนียวขนาดนี้
"นี่เธอจะดิ้นอะไรนักหนาเนี่ยเด็กน้อย" เขากดทับตัวลงมา เขาคิดว่าตัวเองหนักแค่สิบกิโลหรือไงกันนะ
"ออกไป" ฉันเค้นเสียงออกมา ไอ้บ้านี่ก็ไม่สะทกสะท้าน
"ไม่ไป เธอกล้ามาอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง แปลว่าเธอเต็มใจที่จะยอมให้ผู้ชายได้สัมผัสร่างกายเธอ" เขาพูดหน้านิ่งไม่ใช่น้ำเสียงกวน ๆ เหมือนตอนแรก
"คุณอย่ามาดูถูกฉันนะ" ความโกรธเริ่มถาโถมเข้ามา ฉันมาดูแลเขาไม่ใช่ให้เขามาปล้ำฉัน
"มันคือเรื่องจริง ผู้หญิงที่มาอยู่กับฉันสองต่อสองก็ยอมพลีกายให้ฉันทุกคน" เขาพูดหน้านิ่งแบบที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
"แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น... อื้อออ" ฉันพูดอยู่เขาก็ก้มลงมาประกบปากฉันทันที จูบแรกของฉันต้องเสียให้ไอ้หื่นนี่ -*- เขาสอดลิ้นเข้ามาลุกล้ำในปากฉัน แต่แค่แป๊บเดียวเขาก็ผละออก
"ไม่เคยจูบกับใครหรือไง" เขาผละออกแล้วขมวดคิ้วถามฉัน
"ไม่เคย คุณลุกออกไปจากตัวฉันได้แล้ว" ฉันตอบพร้อมกับดันแผงอกเขา แต่เขาก็ไม่ยอมออกไป
"ไม่เคยจูบ" เขาพูดพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น เหมือนกับว่าไม่เชื่อในสิงที่ฉันพูด ฉันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชาย แล้วฉันจะไปจูบกับใครได้ล่ะ
"ใช่ ฉันไม่เคย คุณช่วยลุกออกจากตัวฉันได้แล้ว ฉันหนัก! " ฉันพยายามดันเขาขึ้น
"หนักเหรอ แต่ผู้หญิงคนอื่นเขาชอบให้ฉันทับนะ หรือเธอชอบอยู่ข้างบน โอเค ได้ ๆ "
"ว้ายยยย"
เขาพูดจบก็พลิกตัวฉันให้ขึ้นมาอยู่บนตัวเขาแทน และเขาก็นอนราบอยู่กับพื้น ประสาทฉันจะเสีย!
"แค่นี้ก็ไม่หนักแล้วเนอะ" เขาพูดจบก็ยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ เอาจริง ๆ ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทัน เดี๋ยวก็กวนตีน เดี๋ยวก็ดูจริงจัง บ้าบอที่สุด
"ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันต้องการออกจากตัวคุณ ปล่อยสิ ปล่อยยยย"
"ไม่ปล่อย ไม่เคยจูบใช่ปะ มา เดี๋ยวสอนให้" เขาเอาแขนซ้ายโอบเอวฉันไว้ และเอามือข้างขวากดหัวฉันลงให้ใกล้กับหน้าเขา
ฉันหลับตาปี๋ เม้มปากไว้แน่น เพื่อไม่ให้เขาได้สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากฉันอีก
~Rrrr~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ช่วยชีวิตฉันไว้แท้ ๆ
"ครับแม่" คุณกรปล่อยฉันให้เป็นอิสระ เขาลุกขึ้นแล้วกดรับสาย พร้อมกับเดินออกจากห้องนอนฉันไป พอเขาเดินพ้นจากห้อง ฉันรีบเดินไปปิดประตูล็อกไว้ และเปิดสมาร์ตโฟนเสิร์ชหาวิธีป้องกันตัว ฉันไม่ได้เตรียมตัวที่จะมาเจอกับเหตุการณ์บ้า ๆ นี่ ถ้าฉันรู้ว่าลูกคุณพิสมัยเป็นแบบนี้ฉันไม่มีทางรับงานนี้แน่ ๆ
~LINE~
-MAPRANG-
MAPRANG : ลูกชายคุณพิศมัยเป็นไงบ้างแก
มะปรางเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน เราเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถม บ้านมะปรางมีฐานะ ตอนที่ฉันจะไม่เรียนปริญญาตรี มะปรางก็จะออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ฉันปฏิเสธไป
TANYHONG : ผิดคาด ลูกชายคุณพิศมัยอายุ28 แล้ว
MAPRANG : ห๊าา ไม่ใช่เด็กเหรอเนี่ย
TANYHONG : เออสิ เมื่อกี้ลวนลามฉันด้วย ฉันกำลังหาวิธีป้องกันตัวอยู่
MAPRANG : ไหวหรือเปล่าแก ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ เดี๋ยวฉันค*****นให้คุณพิศมัยและออกค่าเรียนให้แกเอง
ก่อนที่ฉันจะมาคุณพิศมัยให้เงินกับป้าหน่อยสำหรับใช้จ่ายเวลาที่ขายของไม่ไหว ฉันจะไม่ทำงานนี้คงไม่ได้ ถึงแม้มะปรางจะจ่ายคืนให้ฉันก็ไม่รับไว้หรอก...
TANYHONG : ไหวแก ขอบใจแกมากนะ แกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย
MAPRANG : ไม่เป็นไรเว้ยเพื่อนกันน่า แล้วสัปดาห์หน้าอย่าลืมไปสมัครเรียนนะเว้ย
TANYHONG : ไม่ลืม ๆ แล้วเจอกันนะ
MAPRANG : ส่งสติ๊กเกอร์โอเค
ฉันกดปิดแอปพลิเคชั่นไลน์และหาข้อมูลต่อ แต่ละวิธีก็มีแต่รุนแรง ฉันคงทำได้เบา ๆ แค่เอาไม้ฟาดเขาเท่านั้น...