บทนำ
"ถึงแล้วค่ะคุณพิศมัย" เมื่อก้าวเข้ามาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่แถวชานเมือง ตันหยงก็รีบต่อสายรายงานคุณพิศมัยผู้เป็นนายจ้างของเธอ
ตันหยงเด็กสาวกำพร้าที่ต่อสู้ชีวิตดิ้นรนขายของส่งตัวเองเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 และเธอได้มาเจอกับพิศมัยเข้า
ด้วยความเอ็นดูพิศมัยจึงจะส่งเธอเข้าเรียนระดับปริญญาตรี แต่ตันหยงกลับปฏิเสธ เนื่องจากความเกรงใจ
คุณพิศมัยจึงเสนอว่าให้ตันหยงเข้ามาทำงานที่บ้านเพื่อแลกกับการค่าใช้จ่ายในการเรียนและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งตันหยงก็ได้ตอบตกลงไป
"รอสักครู่นะหนูตันหยง เดี๋ยวป้าจะลงไปหา" พิศมัยตอบกลับ
ร่างบางจึงเดินเข้าไปภายในบริเวณตัวบ้าน สาวใช้วิ่งออกมาให้การต้อนรับอย่างดี
"คุณพิศมัยจะให้ตันหยงดูแลใครเหรอคะ" เมื่อตันหยงเดินเข้ามาด้านในก็เจอพิศมัยเข้าพอดี เธอจึงเอ่ยถาม
"ด้านบนเลยจ๊ะ" พิศมัยตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอสบายใจมาก ๆ ที่ได้ตันหยงเข้ามาที่นี่ เข้ามาดูแลลูกชายที่ไม่เอาไหนของเธอ
TANYHONG TALKS
"คนนี้เหรอคะ" ฉันเดินตามคุณพิศมัยขึ้นมาด้านบน เจอชายคนหนึ่งกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่ สร้างความแปลกใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก เพราะคุณพิศมัยให้ฉันมาดูแลลูกชาย ฉันเข้าใจว่าเป็นเด็กตัวเล็ก แต่นี่ที่ฉันเจอ ตัวอย่างกับยักษ์
"ใช่จ๊ะ นี่แหละที่ป้าให้หนูมาดูแล" คุณพิศมัยตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอดูจะมีความสุขมาก ผิดกับฉันที่ยืนตะลึงอยู่
"ตัวขนาดนี้แล้ว ยังต้องการคนดูแลอีกเหรอคะ" ฉันมองชายคนนั้นสลับกับคุณพิศมัย ตัวขนาดนี้แล้วเขาปัญญาอ่อนหรือยังไงทำไมถึงต้องการคนดูแล ฉันงง
"ยิ่งโตยิ่งดื้อ เถลไถลมาก วัน ๆ ควงสาวไม่ซ้ำหน้า ป้าล่ะเหนื่อยใจ ป้าอยากให้หนูคอยดูแลเขา คอยขัด ๆ เขาเวลาควงสาว ยิ่งป้าไม่อยู่แบบนี้ คงจะยิ่งสนุก" คุณพิศมัยตอบกลับมาด้วยท่าทางที่เหนื่อยใจกับลูกชายตัวเอง
"เขาจะไม่ไล่หนูเหรอคะ" ฉันมองไปที่นายนั่นที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง
"ไล่สิ"
"ห๊ะ" ฉันหันขวับและอุทานออกมา
"เขาไล่อยู่แล้ว แต่ป้าเชื่อว่าหนูเอาอยู่ หนูจะทำอะไรกับลูกชายป้าก็ได้ ป้าไม่ว่า" คุณพิศมัยตอบกลับมา
" !!! " ฉันได้แต่ยืนอ้าปากค้างกับคำตอบของคุณพิศมัย ดูเหมือนจะง่ายนะ แต่ก็แค่เหมือนนั่นแหละ เพราะมันไม่ง่ายเลย
KORN TALKS
ผมได้ยินเสียงคนคุยกันเลยสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก็เห็นว่าแม่กำลังยืนคุยกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ใบหน้าจิ้มลิ้ม บ้องแบ๊ว ดวงตากลมโต จมูกโด่งรับกับในหน้า ริมฝีปากบาง ดูน่ารักน่าเอ็นดู
"ใครอะแม่" ผมมองยัยหน้าแบ๊วอย่างงง ๆ แล้วเอ่ยถามแม่
"นี่หนูตันหยงจะมาดูแลแก" แม่ผมตอบกลับมา
"เด็กแบบนี้อะนะ มาดูแลผม" อายุไม่น่าจะเกิน18 ให้เด็กมาดูแล อายเพื่อนตายเลยแบบนี้ -*-
"ใช่ หนูตันหยงนี่แหละที่จะมาดูแลแก" แม่โอบเอวยัยหน้าแบ๊วไว้ แล้วตอบอย่างยิ้มแย้ม แม่ดูจะมีความสุขมากที่ได้พาเด็กคนนี้เข้ามา
ยัยหน้าแบ๊วนี่ก็ไม่พูดอะไรกับผมสักคำ เอาแต่ยืนมองผมนิ่ง ๆ ใบหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรเลย เธอหมุนตัวหันหลังให้ แล้วเดินหนีออกจากห้องไป
แม่ก็ลากให้ผมไปอาบน้ำ เพื่อที่จะออกไปส่งท่านที่สนามบิน ท่านจะบินไปจีน เพื่อเคลียร์ธุรกิจส่งออกอีกทั้งยังมีธุรกิจที่จะเปิดใหม่ ผมเองก็ลืมสนิท ว่าแม่จะกลับวันนี้แล้ว เผลอไปเมาซะเละเลย
สนามบิน
"แม่จะไปแล้วอยู่ที่นี่ดี ๆ นะตากร อย่าดื้อกับหนูตันหยงเขาล่ะ" แม่บอกกับผม สายตาที่ท่านมองมาราวกับว่าจะฆ่าผมแล้ว ส่วนสายตาที่มองยัยหน้าแบ๊วนั่นเอ็นดูเหลือเกิน
"ครับแม่"
"หนูตันหยงเรื่องค่าเทอมค่าใช้จ่ายขอที่ตากรได้เลยนะลูก" แม่จับแขนยัยนั่นเอ่ยออกมาเสียงอ่อนเสียงหวาน แล้วท่านก็เปลี่ยนโหมดเวลาคุยกับผม "ตากรจ่ายให้น้องด้วยนะ อย่าเกเรกับน้องด้วย"
"คร้าบบบบ"
ร่ำลาแม่อีกนิดหน่อย ท่านก็เดินเข้าไปในเกท เตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับยัยเด็กนี่
"ยัยหน้าแบ๊ว เธอจะไปไหนต่อ" หันมาถามเด็กน้อยที่ยืนนิ่ง ๆ ไม่พูดไม่จากับผม
"คุณจะไปไหนล่ะ ฉันก็ไปที่นั่นแหละ"
"กลับคอนโด ฉันไม่อยู่หรอกบ้านอะ ไกลเกิน" ผมตอบกลับไป
"ก็ไปด้วย" ยัยหน้าแบ๊วตอบหน้านิ่งไม่ยิ้มแย้มบ้างเลย
"เธอไปอยู่ที่อื่น"
"แม่ของคุณสั่งให้ฉันอยู่ที่นี่" แววตาของเธอดูไร้ความรู้สึกยังไงชอบกล
"ที่นี่ของเธอคือที่ไหน"
"ที่ที่มีคุณอยู่ ฉันว่าคุณเลิกพูดมากแล้วพากลับได้แล้วล่ะ ปากก็เหม็นไม่รู้จะพูดอะไรนักหนา" ยัยหน้าแบ๊วพูดออกมายาวเหยียด ท่าทางของเธอดูรำคาญผมเต็มทน
"ฉันแปรงฟันมาหอมมาก เธอจะมาบอกเหม็นได้ไง" ผมดึงแขนเธอเข้ามา จนร่างเล็ก ๆ ของเธอกระแทกเข้ากับแผงอกผม
"ก็มันเหม็น... พากลับได้แล้ว ถ้าไม่งั้นฉันจะโทรบอกแม่คุณเดี๋ยวนี้" ผมก็คิดว่าเธอจะกลัวกับการกระทำที่รุนแรงของผม แต่เปล่าเลย เธอกลับเชิดหน้าสู้ผม แถมยังเอาแม่ผมมาขู่อีก
"ฮึ่ยยย" ผมปล่อยแขนเธอ เธอมองที่รอยแดงบนแขนแล้วมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ ผมหันหลังให้และเดินตรงมาที่รถ เธอก็รีบเดินตามผมมาติด ๆ
เธอรีบเดินขึ้นนั่งหน้าคู่กับผมและคาดเข็มขัดนิรภัย ผมเหล่ตามองเธอ เธอเอาแต่งนั่งนิ่ง ๆ ผมเลยนึกสนุกขึ้นมา
140 km/h ที่หน้าไมล์ผมขึ้นแบบนี้ ใช่ครับผมเหยียบอยู่ที่ 140กิโลเมตรต่อชั่วโมง เธอก็ยังคงนั่งนิ่ง มีความรู้สึกหรือเปล่าวะนั่น
"ทำไรอะ" ผมเห็นเธอกดสมาร์ตโฟนยุกยิก เลยเอ่ยถามขึ้นมา เธอหันหน้าจอสมาร์ตโฟนให้ผมดู
"ส่งไลน์ไปบอกแม่ของคุณ ว่าคุณขับรถเร็ว" เธอเลิกคิ้วขึ้น เหมือนจะถามว่ามีอะไรอีกไหม
"ขี้ฟ้อง" ผมต่อว่าเธอและหันมามองด้านหน้า
"ขับรถเร็วก่อให้เกิดอุบัติเหตุ คุณนี่เป็นภัยต่อเพื่อนร่วมทางจริง ๆ น่าสงสารรถคันอื่น ๆ ที่ต้องมาใช้ถนนร่วมกับคุณ" เธอพูดพร้อมส่ายหัวอย่างเอือมระอาและมองออกไปนอกรถ
ผมได้แต่เกาหัวแกรก ๆ นี่ต้องโดนเด็กเทศน์แบบนี้ไปอีกนานขนาดไหนวะ
"ทน ๆ ฉันหน่อยละกันคงสักสี่ปี รอฉันเรียนจบ ฉันก็ไป" เธอเอ่ยขึ้นมา มีพลังจิตรับรู้ความคิดคนอื่นด้วยเหรอวะเนี่ย
"ฉันไม่รู้ความคิดใครหรอกนะ แต่ฉันเดา ๆ ว่าคุณคงรำคาญฉัน อยากให้ฉันไป ๆ สักที" ยัยหน้าแบ๊วหันมามองหน้าผมแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เนี่ย รู้ความคิดคนอื่นชัด ๆ
ผมขับรถมาเรื่อย ๆ เงียบ ๆ จนกระทั่งถึงคอนโด ผมเดินนำยัยหน้าแบ๊วขึ้นมาที่ห้องตัวเอง ยัยนั่นก็แบกสัมภาระตามผมมาติด ๆ คงกลัวว่าจะไม่ทัน
ผมเดินนำเข้ามาในห้อง และเดินไปเปิดประตูห้องนอนตัวเอง
"อะ เชิญ" ผมเอ่ยขึ้น จริง ๆ ที่นี่มีสองห้องนอนครับ แต่ผมแกล้งให้มานอนห้องเดียวกับผม
เมื่อก่อนผมอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ที่นี่แม่ผมเพิ่งซื้อให้ใหม่ได้สักสองเดือน คงจะเตรียมให้ผมมาอยู่กับยัยนี่ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้นะ ผมอยู่ที่เดิมดีกว่า ก็ว่าอยู่ทำไมแม่ใจดีจัง ซื้อห้องใหม่ไว้ให้ซะใหญ่โต ที่แท้แม่ก็มีแผน ฮึ่ม แม่นะแม่
ยัยหน้าแบ๊วมองหน้าผมนิ่ง ๆ แล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอนอีกห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องผม รู้ได้ไงวะนั่น?
"ยัยหน้าแบ๊ว เธอรู้ได้ไงว่ามีอีกห้อง" ผมรีบเดินตามเข้าไปแล้วเอ่ยถามเธอ
"เคยมา" เธอหันมาตอบนิ่ง ๆ ผมเพิ่งรู้นะว่าห้องนี้ถูกจัดไว้เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครัน เมื่อก่อนห้องนี้จะไม่มีผ้าปู ไม่มีของใช้
เธอเคยมาที่นี่ ผมเดาว่าแม่ต้องพามาสำรวจและเข้ามาจัดของใช้เอาไว้แล้ว แต่มาตอนไหนวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย -*-
"ออกไป" เธอเอ่ยด้วยใบหน้านิ่ง ๆ เหมือนเดิม หน้าตาดูรำคาญผมเต็มทน
"นี่เธอไล่เจ้าของห้องเหรอเนี่ย... ไม่ไปอะ จะนอนนี่" ผมเอ่ยอย่างงง ๆ ทำไมลูกจ้างไล่นายจ้างซะงั้น แล้วผมก็เดินไปนอนลงบนเตียงของเธอ
"น่ารำคาญ โตขนาดนี้ แต่ทำตัวเป็นเด็ก" เธอกรอกตามองบน ผมได้แต่อ้าปากค้างกับคำพูดของเธอ
"เอ๊า พูดขนาดนี้ยังจะมานั่งอ้าปาก ไม่ยอมออกไปอีก" เธอเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
ผมเลยต้องจำใจเดินออกจากห้องนอนของเธอไป ก่อนที่ตัวเองจะถูกเด็กด่าไปมากกว่านี้
ผมออกมาดูทีวีสักครู่หนึ่ง เธอก็เดินออกมา เธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่แต่ยังเห็นอะไรนูน ๆ ส่วนกางเกงขาสั้นที่สวมมานั้น เผยให้เห็นเรียวขาขาว ๆ ขายังขาวขนาดนี้ ใต้ร่มผ้าจะขาวขนาดไหน และเจ้านูน ๆ ด้านบนนั่นน่าจะเต็มไม้เต็มมือ
"คิดอุบาทว์อยู่ใช่ไหม" เธอเดินมานั่งที่โซฟาเดี่ยวแล้วมองหน้าผม ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา
"ป๊าวววว" ผมตอบกลับและหันหน้ามามองทีวีเหมือนเดิม
"เบอร์ ไลน์ เฟซบุ๊ก ไอจี" เธอเอ่ยแล้วส่งสมาร์ตโฟนให้ผม ผมมองนิ่ง ๆ แต่ไม่รับและหันมามองทีวี
"คุณจำที่แม่คุณสั่งไว้ก่อนที่ท่านจะไปต่างประเทศได้ไหม" เธอมองหน้าผมอย่างเอาเรื่องแล้วเอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงเหมือนเหนื่อยหน่ายกับผม
เมื่อเช้าแม่ผมสั่งนักสั่งหนา ว่าให้ผมคอยดูแลยัยหน้าแบ๊ว ห้ามขัดที่เธอบอก ห้ามผมควงผู้หญิงไปทั่ว ห้ามกลับบ้านดึก บลา ๆ อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด และท่านสั่งทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าผมไม่ดีขึ้นท่านจะไม่ให้ผมบริหารธุรกิจของครอบครัว -*-
ผมจำใจรับสมาร์ตโฟนของยัยหน้าแบ๊วนี่มา เมมเบอร์ผม แอดเฟซ ไลน์และไอจี แต่ผมยังไม่รับแอดนะครับ
ผมเมมเบอร์ผมไว้ว่า 'คุณกรหล่อที่สุดในโลก' เมมเองก็ขำเอง หลงตัวเองเหมือนกันนะเราเนี่ย ฮ่า ๆ
"ขำอะไรอะ เป็นบ้าหรือเปล่า" ยัยหน้าแบ๊วเอียงคอถามผม หน้าตาดูสงสัยสุด ๆ แต่หน้าตาแบบนี้ดูบ๊องแบ๊วน่ารักมากกกก
ผมส่ายหัวนิดหน่อยแล้วปรับสีหน้าให้ขรึมเหมือนเดิม แล้วกดโทรมาที่เครื่องผม เพื่อที่ผมจะได้เมมเบอร์ของเธอเอาไว้ เวลาที่เธอโทรมาผมจะได้ไม่ต้องรับ ฮ่า ๆ
"เธอชื่ออะไรนะ" ผมเงยหน้าขึ้นมาถามเธอเพื่อที่จะเมมเข้าสมาร์ตโฟนของตัวเอง
"ตันหยง"
"ไม่อยากเรียกตันหยงอะ เรียกหน้าแบ๊วได้ปะ" ผมถามเธออีกครั้ง
"แล้วแต่" เธอตอบกลับและจ้องหน้าผมนิ่ง ๆ จะจ้องอะไรนักหนาวะ เกร็งฉี่จะราด ปกติมีแต่สาว ๆ มองหน้าแล้วส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ไม่เคยมีใครมาจ้องหน้าเอาเป็นเอาตายแบบนี้ -*-
"อายุเท่าไหร่นะ" ผมถามเธออีกครั้ง
"สิบแปด " เธอตอบผมอีกครั้ง ตั้งแต่เช้าที่เราเจอกัน เธอไม่ยิ้มเลยสักครั้ง เอาแต่ทำหน้านิ่ง ๆ
"ไม่พรากผู้เยาว์วุ้ย ฮ่าๆ" ผมเอ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
"อะไรนะ"
"อ๋อ บอกว่า เด็กน้อยจังวุ้ย" ผมตอบมั่ว ๆ ไป ขืนบอกความจริง โดนเด็กน้อยนี่ด่าแน่ ๆ
เออใช่ เมมเบอร์ว่าเด็กน้อยก็แล้วกัน ดูน่ารักดี
"เรียกว่าเด็กน้อยได้ไหม" ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม แล้วทำไมผมต้องขออนุญาตเธอด้วยก็ไม่รู้
"อยากเรียกอะไรก็เรียก"
"งั้นเรียกที่รัก" ผมพูดจบรีบเอามือปิดปากตัวเอง เผลอหยอดมุขใส่ยัยเด็กน้อยนี่ได้ไงวะ
ยัยเด็กน้อยหันมามองหน้าผมอย่างอึ้ง ๆ แล้วหยิบหมอนอิงมาปาใส่ผม อันนี้เขินหรือไรหว่า...
"เขินเหรอ"
"เขินบ้าบออะไร ฉันปาไปเรียกสติคุณไม่ให้มาหยอดมุขใส่ฉัน ฉันไม่ใช่สาว ๆ ในสต็อก! " เธอตอบมาด้วยสีหน้าดุ ๆ ไม่เล่นกับผมเลยสักนิด
"มีแฟนปะ" ผมเอ่ยถามเธอต่อ
"ไม่มี"
"ไม่แปลกใจ" ดุเป็นหมาขนาดนี้ ใครจะกล้าจีบ
"..." เธอไม่ตอบอะไรและนั่งจ้องทีวีต่อ
*****
สวัสดีค่า เรื่องนี้มาในแนวอิโรติกนะคะ มีฉากบนเตียงหลายฉากและมีฉากทำร้ายร่างกาย (ผู้หญิงตบตี) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ขอบคุณค่า