3 เขาที่แสนดี

1957 Words
ถึงเขาจะทำให้เธอเสียใจโดยที่เขาไม่รู้ตัวมาก่อนแต่เมื่อเวลานานวันเข้านลินญาก็ลืมเลือนสิ่งที่เขาทำทุกอย่างไปจนหมดสิ้น ไม่ว่าภาพที่เธอเห็นจะเป็นการที่เขาพาหญิงสาวคนใดคนหนึ่งกลับมาที่คอนโด แต่ทุกครั้งเขาก็ไม่เคยทำอย่างโจ่งแจ้งให้เธอได้เห็น เว้นเพียงแต่บางจังหวะเท่านั้นที่เธอแอบไปเห็นเสียเองนั่นทำให้นลินญารู้สึกว่าหากเธอไม่เห็นเธอก็คงจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว หลังจากนั้นเป็นต้นมานลินญาเริ่มที่จะพยายามถอยห่างจากพาริชเพราะเธอกลัวว่าเธอจะเห็นเหตุการณ์ที่เธอไม่อยากเห็นซึ่งหากเธอได้บังเอิญไปเห็นก็อาจจะทำให้เธอเสียใจเพราะเขาอีกครั้งก็ได้ กระทั่งวันหนึ่ง… ติ๊งน่อง~ ติ๊งน่อง~ นลินญาทำสปาเกตตีสูตรใหม่ขึ้นมา และวันนี้เป็นวันหยุดของเธอด้วย เธอคิดว่าอย่างไรเสียพาริชก็ต้องรู้ว่าเธออยู่ห้อง เธอจึงเลือกทำอาหารแล้วเอามาให้เขาที่ห้องพักของเขาดีกว่า ทว่าเธอกดออดหน้าห้องของเขาหลาย ต่อ หลายครั้ง ก็ไม่มีคนมาเปิดประตู แต่ว่าเขาไม่ได้ล็อกห้อง อีกทั้งเธอก็รับรู้ถึงไอเย็นจากเรื่องปรับอากาศที่แผ่ออกมาทางช่องว่างด้านล่างของประตู ติ๊งน่อง~ ติ๊งน่อง~ เธอกดออดระรัวอีกครั้งคิดเอาไว้ว่าหากครั้งนี้ไม่เปิดเธอก็จะกลับห้องพักของเธอแล้ว คนอะไรนอนขี้เซามากจริง ๆ ทว่าบานประตูห้องของพาริชก็เปิดออกแต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจก็คือคนที่มาเปิดประตูไม่ใช่พาริชแต่กลับเป็นผู้หญิงคนอื่นนั่นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว มือเรียวที่ถือจานสปาเกตตีมาด้วยร่วงหล่นในทันทีด้วยความตกใจ เพล้ง! “มาหาใครคะ” หญิงสาวหน้าสวยถามขึ้นด้วยอาการงัวเงีย เธออยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวอย่างไม่เรียบร้อย นลินญา “...” เป็นเพราะว่านลินญาไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดออกไปอย่างไรเพราะคนที่ออกมาเปิดประตูหน้าห้องไม่ได้อยู่ในสภาพที่ควรจะออกมาเลยแม้แต่น้อย จากนั้นไม่นานใบหูเล็กของเธอได้ยินเสียงวิ่งจากในห้องอย่างตื่นตูมดังออกมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าประตู พาริชวิ่งออกมาในสภาพผมของเขายุ่งเหยิงนิดหน่อยราวกับคนเพิ่งตื่นเขาไม่ได้สวมใส่เสื้อ และใส่เพียงแค่กางเกงบ๊อกเซอร์ลายตารางสีฟ้าเท่านั้น “น้องเอ๋ย” เพราะเธอไม่มาเจอหน้าเขานาน เขาเลยไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะมาหาเขาในวันนี้ “อะ เอ๋ยทำสปาเกตตีสูตรใหม่นะค่ะ คิดว่าพี่พ้อยต์อยู่คนเดียวเอ๋ยก็เลย...” “เข้ามาก่อนสิ เธอกลับได้แล้วน้องสาวฉันมาแล้ว” ประโยคแรกพาริชพูดกับนลินญาส่วนประโยคต่อมาเขาพูดกับหญิงสาวที่เขาเพิ่งจะร่วมสนุกไปด้วยไม่นาน หญิงสาวมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเธอตวัดสายตามามองนลินญาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรแต่เด็กสาวกลับก้มหน้าลงน้ำตาของเธอเริ่มคลอเบ้าเธอเสียใจที่เธอต้องมาเห็นภาพแบบนี้ ต่างจากชายหนุ่มที่คิดเอาเองว่าที่เธอยืนก้มหน้า น้ำตาคลอเป็นเพราะสายตาของคนที่เขาพามาทำให้เธอกลัว “ไม่ต้องกลัวพี่อยู่นี่ค่ะ” พาริชเดินไปยืนเคียงข้างนลินญามือใหญ่ของเขาจับไปที่ข้อมือของเธอนั่นเป็นสัมผัสแรกที่นลินญารู้สึก ‘รังเกียจ’ พาริชขึ้นมา เพราะเธอคิดไปว่ามือคู่นี้ของเขาจะจับอะไรของหญิงสาวตรงหน้าไปแล้วบ้างก็ไม่รู้ นลินญาจึงรีบบิดข้อมือออกก่อนจะถอยหลังออกมาสองสามก้าวแล้วพูดกับพาริชโดยที่ไม่เงยหน้ามองเขาอีก “ไม่เป็นไรค่ะพี่พ้อยต์ เดี๋ยวเอ๋ยจะออกไปหอสมุดกับเพื่อนพอดี พี่พ้อยต์อยู่กับ... เชิญตามสบายเถอะค่ะ” นลินญาหมุนตัวออกมา ทันทีที่เธอหันหลังน้ำตาใสของเด็กสาวก็ร่วงหล่นแน่นอนว่าภาพที่เธอน้ำตาไหลไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาของพี่ชายที่แสนดีคนนี้เลย พาริชเห็นอย่างนั้นเขาก็รู้สึกปวดใจแปลก ๆ ก่อนจะหันกลับมาทำท่าไล่หญิงสาวคนนั้นให้ออกไปแล้ววิ่งกลับมาหานลินญาอีกครั้ง ถามเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่น และท่าทางแสนดีของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด เขาคงจะแสนดีกับทุกคนเลยสินะ “จะไปหอสมุดเหรอคะ ให้พี่ไปส่งไหมคะ” “ไม่เป็นไรค่ะ เอ๋ยนัดกับปิงไว้” ตะลิงปิงคือเพื่อนสาวคนเดียวที่เธอสนิทด้วยในตอนนี้ ทั้งตัวตะลิงปิงเองก็รักนลินญาเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกันแน่นอนว่านลินญามีเพื่อนเพียงแค่คนเดียวไม่ต่างกันกับตะลิงปิงที่มีนลินญาเพียงแค่คนเดียวเหมือนกัน “นัดน้องตะลิงปิงไว้เหรอ งั้นพี่ไปส่งดีไหมคะ น้องเอ๋ยรอพี่แป๊บนึงได้ไหมคะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่พ้อยต์เดี๋ยวเอ๋ยไปเอง” น้ำเสียงของนลินญาทำให้พาริชหุบยิ้มแทบไม่ทัน ปกติแล้วนลินญามักจะออดอ้อนขอร้องให้เขาไปส่งเพื่อให้เขาทำนู่น ทำนั่น ทำนี่กับเธอ แน่นอนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้พาริชรู้สึกฝังใจ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่เคยพาหญิงสาวคนไหนมาที่ห้องของเขาอีกเลยหากไม่มีเหตุการณ์กะทันหันน่ะนะ วันเวลาผ่านไปนานเข้านลินญาขึ้น ม.6 พาริชกับนลินญาที่ห่างกันก่อนหน้านี้เพราะเหตุการณ์ที่นลินญาได้เจอมาใน ตอนนี้เขากับเธอกลับมาคืนดีกันแล้วนลินญาเริ่มโตเป็นสาวแต่แน่นอนว่าเธอก็นิ่งขึ้นเหมือนเดิม นิ่งขึ้นเสียจนพาริชรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าหากเธอนิสัยเปลี่ยนไปกับทุก ๆ คนเขาก็คงไม่คิดมากอย่างนี้แต่ว่าเธอกลับเปลี่ยนไปแค่กับเขาคนเดียวเท่านั้น นั่นยิ่งทำให้พาริชรู้สึกแปลก ๆ เขาจึงตัดสินใจว่าจะถามนลินญาให้รู้เรื่องว่าเขาทำอะไรให้เธอรู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า “ขึ้น ม.6 แล้ว เป็นสาวแล้วนะ” “ค่ะ” ยังคงถามคำตอบคำจากที่เป็นเด็กคุยเก่ง ชอบหาเรื่องมาชวนเขาไปกินข้าวข้างนอก และหาเรื่องชวนเขาไปนั่นไปนี่กลับกลายเป็นเด็กที่ติดห้องไม่ค่อยเปิดประตูต้อนรับใครจนพาริชรู้สึกว่านลินญากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างหรือเปล่า ขณะเดียวกันนลินญากลับคิดว่าเขาที่แสนดีคนนี้เองก็เหมือนกับกำลังปรับปรุงตัวหรือเปล่า? เพราะหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเธอก็ไม่เคยเจอว่าเขาพาใครมาที่ห้องอีกเลยทำให้เธอรู้สึกว่าเขาคนนี้น่าจะกลับมาเป็นเขาที่แสนดีคนเดิมของเธอแล้วล่ะมั้ง “แล้วมีเพื่อนเพิ่มขึ้นหรือยังคะ” เพราะพาริชรู้ว่านลินญาเป็นคนประเภทที่ไม่เปิดปากชวนใครคุยก่อน เขาจึงได้ถามเธอ “มีแค่คนเดียวค่ะ” ถึงแม้ว่าที่โรงเรียนมัธยมจะให้จับกลุ่มทำงานกลุ่มบ่อยครั้งแต่ว่าที่เธอผ่านพ้นมาได้ก็เป็นเพราะตะลิงปิงที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะพาเธอไปด้วย ทำให้เธอผ่านพ้นช่วงวิกฤตเหล่านั้นมาได้ และช่วงเวลาที่เธอรู้สึกกับพาริชมากขึ้นจนเธอต้องถอยออกมาเธอก็มีเพียงแค่ตะลิงปิงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอแม้ว่าเพื่อนของเธอจะไม่รู้เรื่องอะไรก็ตาม “มีเพิ่มมาแค่คนเดียวเองเหรอคะ” “ไม่ได้มีเพิ่มค่ะ เอ๋ยมีคนเดียวมาตั้งนานแล้ว” เมื่อนลินญาเริ่มรู้สึกว่าพี่ชายที่แสนดีคนเดิมของเธอกลับมาแล้วและเขาก็ทำตัวดีขึ้น เธอจึงรู้สึกว่าเธอไม่ควรตั้งกำแพงใส่เขาอีกแล้ว นั่นทำให้น้ำเสียงเวลาที่เธอคุยกับพาริชในยามนี้ดูสดใสร่าเริงขึ้นมา “เหรอคะ งั้นวันนี้เราไปหาอะไรกินกันดีไหมคะ” เพราะเขาอยากที่จะได้น้องสาวคนเดิมกลับมา เขาคิดไปว่าสิ่งที่นลินญาเจอมาจากการกระทำของเขา คนเป็นน้องสาวอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ก็เขาเป็นพี่ชายของเธอนี่เป็นไปได้อย่างมากที่น้องสาวจะ ‘หวง’ พี่ชาย “เราเปลี่ยนเป็นแวะซูเปอร์ไหมคะ วันนี้เอ๋ยมีเมนูใหม่อยากให้พี่พ้อยต์ลองชิมค่ะ อยากจะทำสเต๊กที่หมักด้วยน้ำสับปะรดน่าจะอร่อยน่าดูนะคะ” กลับมาแล้วสินะน้องสาวคนเดิมของเขา ขณะเดียวกันชั่วแวบหนึ่งพาริชก็รู้สึกได้ว่าสายตาของนลินญาที่มองมาที่เขามันรู้สึกแปลก ๆ อย่างไรชอบกล ในยามที่เขาสบตากับเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีกระแสไฟอะไรบางอย่างที่แล่นตรงเข้ามาทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เขาไม่เคยรู้ว่าอาการแบบนี้เรียกว่าอะไรเขาจึงทึกทักไปเองว่านี่อาจจะเป็นอาการที่น้องสาวของเขากลับมาเป็นน้องสาวที่สดใส และเริ่มพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมก็ได้ “ก็ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวเราไปซูเปอร์ใกล้คอนโดเนอะ” “ได้ค่ะ แต่ว่ามื้อนี้พี่พ้อยต์ต้องเป็นคนจ่ายนะคะ เอ๋ยหมดตัวแล้วค่ะ” แน่นอนว่าพาริชไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่เขาต้องจ่ายหรือเปล่า แต่ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของน้องสาวของเขาคนนี้กลับทำให้เขารู้สึกหวงน้องสาวขึ้นมาแปลก พลางความคิดประหลาดก็เกิดขึ้น เขาคิดไปว่าในตอนที่น้องไปโรงเรียนมัธยมจะมีหนุ่มคนไหนบ้างที่เข้าหาน้องสาวเขาเพื่อหวังผลประโยชน์เหมือนอย่างที่เขาทำกับผู้หญิงคนอื่น “น้องเอ๋ยคะ มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างไหม” ใบหน้าหวานรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่เขาถามเรื่องนี้ เธอไม่ได้ใสซื่อถึงกับขนาดที่ไม่รู้ว่าจีบคืออะไรเพราะเพื่อนที่โรงเรียนมัธยมของเธอย่อมแสดงออกเสมอว่าต้องการจะจีบเธอ ว่าชอบเธอ “ก็มีบ้างค่ะ” “แล้วน้องเอ๋ยทำยังไงคะ” พาริชรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรนใจ “เอ๋ยจะทำอะไรได้ล่ะคะ เขาอยากจีบก็ให้เขาจีบไปสิคะ” ไม่ได้นะ น้องสาวของเขาเป็นเด็กใสซื่อบริสุทธิ์ ย่อมไม่ทันคนแน่นอน เขาไม่ยินยอมให้น้องสาวของเขาเสียรู้คนอื่นอย่างเป็นแน่! “พรุ่งนี้พี่ไปส่งที่โรงเรียนชี้ให้พี่ดูหน่อยได้ไหมคะ ว่าคนไหนที่มาจีบ พี่จะได้ดูให้ว่าเป็นคนดีรึเปล่า” สายตาที่เขามองมาที่เธอเขาอาจจะไม่รู้ตัวเองก็ได้ว่ามันอ่อนโยนมากแค่ไหน แต่ในขณะที่พูดถึงผู้ชายคนอื่นกลับมีแววตาบางอย่างที่ทำให้นลินญารู้สึกไปว่าเขากำลังหวงเธอ เธอไม่รู้ว่าในครั้งนี้เธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD