6 จูบได้ไหมคะ

1883 Words
นลินญายังคงเป็นคนที่คอยปรนนิบัติพัดวีพาริชอย่างตั้งอกตั้งใจขณะเดียวกันเธอก็ใช้มือของเธอลูบไล้ไปทั่วผิวหน้าของชายหนุ่มคนที่คิดว่าเธอเป็นน้องสาวมาโดยตลอด เธอไม่รู้ว่าเขาจะรู้หรือเปล่าว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้ชอบเขาอย่างพี่ชายกับน้องสาวชอบกัน เธอรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเธอเองเป็นอย่างดีหลังจากที่เธอประเมินดูแล้วเธอรู้แล้วว่าพาริชคือผู้ชายที่เธออยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย เขาเหมือนพ่อของเธออบอุ่น ใจดี และยิ้มเก่ง ขณะที่พาริชยังคงหลับอยู่อย่างนั้นนลินญาก็ใช้สายตาของเธอเลื่อนมองไปทั่วใบหน้า และลำตัวของเขาร่างกายของเขากำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อจนเธอไม่รู้ว่าเขาเอาเวลาที่ไหนในการดูแลร่างกายตัวเองเป็นอย่างดีแบบนี้ขณะเดียวกันตัวเธอก็ก้มลงมองดูร่างกายตัวเองเช่นกัน ตัวเธอยังเด็ก และเล็กอยู่มาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตข้างหน้าเขาจะมองเธอเป็นอย่างอื่นได้หรือเปล่า อย่างอื่นที่ไม่ใช่น้องสาว ขณะที่กำลังคิดนลินญาก็เกิดความคิดพิเรนทร์ขึ้นมาในหัว ในเมื่อตอนนี้พาริชเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวอะไรมาก จะเป็นอะไรไหมหากเธออยากจะลอง ‘หอมแก้ม’ เขาดูสักหน่อย “พี่พ้อยต์คะ” “...” “พี่พ้อยต์ได้ยินเอ๋ยไหมคะ” เธอเรียกเพื่อหยั่งเชิงดูแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความเงียบของพาริช นลินญาชั่งใจอยู่นานเธอเหลือบสายตาขึ้นมองนาฬิกาก่อนจะเลื่อนสายตาลงมามองที่ใบหน้าของพาริชอีกครั้ง เธอตัดสินใจโน้มใบหน้าสวยหวานของเธอลงไป ยิ่งใกล้เท่าไหร่เธอก็ยิ่งรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นของชายหนุ่มที่เป่ารดออกมาอย่างสม่ำเสมอนั่นหมายความว่าเขาหลับลึกมาก ๆ ในทันทีที่ริมฝีปากของเธอใกล้จะถึงริมฝีปากของเขา ตัวเธอเองก็หยุดชะงักหักห้ามตัวเองเอาไว้เพราะเธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง เขาไม่ได้ยินยอมอีกอย่างหากเขารู้ว่าเขาจูบกับเธอขึ้นมาเขาจะรู้สึกอย่างไรหากเขาคิดกับเธอแค่น้องสาวเขาจะรู้สึกผิดไปตลอด และไม่ยอมพบเจอกับเธอหรือเปล่า หรือหากเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอขึ้นมาเลย เธอจะทำอย่างไรดีนลินญาจึงเลือกที่จะหยุดความคิดเอาไว้แค่นั้นแล้วดันตัวเองขึ้นเธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับจ้องมองพาริชไปด้วย พาริชยังคงหลับอย่างสบายใจโดยไม่ได้รับรู้ถึงความกังวลใจของเธอเลย นลินญาเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอแล้วหยิบเอาผ้าห่มนวมออกมาคลุมร่างกายให้เขา จากนั้นเธอก็ยังคงนั่งอยู่ข้างกายเขา จ้องมองเขา ลูบไล้ใบหน้าของเขา ลูบไล้ไปที่ลำคอ และลูกกระเดือกของเขา ก่อนจะยกมือขึ้นจูบที่มือของตัวเองแล้วแตะสัมผัสไปที่ริมฝีปากนุ่มของเขา ทันทีที่มือของเธอแตะที่ปากเขาเธอรับรู้ได้ถึงกระแสอุ่นร้อนบางอย่างที่พุ่งเข้ามาในร่างกายเธอ นลินญารีบชักมือกลับแต่เธอยังคงจ้องมองไปที่พาริชเพื่อดูว่าเขายังคงหลับอยู่หรือเปล่า เมื่อเธอเห็นว่าพาริชยังคงหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าห้องของเธอไปโดยที่เธอไม่เดินออกมาอีกเลยตลอดทั้งคืน นลินญาเดินออกมาจากห้องนอนในตอนเช้าเธอสวมใส่ชุดนักเรียนที่เรียบร้อยแล้วมองไปที่โซฟาเป็นอันดับแรก เธอไม่ได้พบเขา พาริชออกไปแล้วไม่รู้ว่าออกไปตอนไหนส่วนเธอเองก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนไม่รู้ว่าเมื่อคืนพาริชจะหลับอย่างสนิท หรือว่ารู้ว่าเธอแอบทำไม่ดีกับเขาไว้หรือเปล่า ขณะที่นลินญายังคงยืนทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนอยู่กลางห้องเสียงกริ่งหน้าห้องของเธอก็ดังขึ้นเธอหลุดออกจากภวังค์เดินตรงไปที่ประตูหน้าห้องโดยไม่ทันได้คิดว่าในทุกๆ วัน พาริชจะเป็นคนไปส่งเธอที่โรงเรียนเอง แกร๊ก “พี่พ้อยต์” ทันทีที่เห็นหน้าของพาริช นลินญาก็ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุส่วนชายหนุ่มที่เพิ่งออกไปเมื่อตอนเช้าเพราะเขากลับไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอไปส่งเธอที่โรงเรียนมัธยมมาเรียบร้อยแล้วเขาจึงเดินกลับมาที่ห้องของเธอเพราะเดาเอาไว้ว่านลินญาคงจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เป็นอะไรรึเปล่าคะน้องเอ๋ย ทำไมหน้าแดงอย่างนั้น” พาริชรีบแปะที่ใบหน้าของเธอในทันทีด้วยความเป็นห่วงเขากลัวว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของลุงเข็มทิศจะป่วยไข้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะโดนลุงเข็มทิศต่อว่าเอาก็ได้ว่าดูแลน้องไม่ดี “ปะ เปล่าค่ะ” “แน่ใจนะครับดูหน้าแดงมากเลยพี่เป็นห่วงมากเลยเลยนะรู้ไหม” เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่แสนดีอย่างนี้อยู่แล้วแต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่เธอคิดที่จะลองจูบเขาดูเมื่อคืน พอได้มาเจอหน้ากันอีกครั้งกลับทำให้เธอรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากแถมยังกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอแอบทำอะไรเขาไปก่อนหน้านี้ นี่ขนาดเธอเพียงแค่คิดยังไม่ได้ทำจริง ๆ เธอยังเป็นมากถึงขนาดนี้หากเธอทำไปแล้วจริง ๆ เธอคงไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาอย่างแน่นอน “จริง ๆ ค่ะ ไปกันเถอะนะคะ เดี๋ยวเอ๋ยสาย” พาริชใช้สองมือจับใบหน้าของนลินญาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเธอจะไม่เจ็บป่วยไป เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอโอเคเขาจึงได้ลดมือลงแล้วแปรเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปในห้องของเธอหยิบกระเป๋าของเธอออกมาจากที่เดิมที่เธอเคยวางเอาไว้แล้วเดินออกมานอกห้องในทันที โรงเรียนมัธยม รถหรูคันเดิมขับมาจอดในที่เดิม และช่วงเวลาเดิมเป็นภาพที่ชินตาของนักเรียนที่โรงเรียนนี้แน่นอนว่าคนที่มาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นนลินญากับผู้ปกครองของเธอซึ่งก็คือพี่ชายเธอ ทุกคนรู้กันอย่างนี้แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตัวของผู้ปกครองเธอก็รู้จักกับผู้อำนวยการของโรงเรียนเช่นกันนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ปกครองของนลินญาถึงสามารถเข้านอกออกในที่โรงเรียนนี้แม้กระทั่งในส่วนที่คนนอกไม่สามารถเข้าได้เขาก็ยังสามารถเข้าไปได้อยู่ดี “ขอบคุณที่มาส่งเอ๋ยนะคะ” “ไม่ต้องขอบคุณหรอก พี่แวะมาหาผู้อำนวยการด้วยเพราะว่าเดี๋ยววันศุกร์จะมีนัดประชุมด้วยกัน” ซึ่งเดิมทีแล้วพาริชก็มีแนวความคิดที่จะทำโรงเรียนมัธยมด้วยเช่นกันเพียงแต่ว่าเขายังต้องศึกษาอยู่อีกว่าการทำโรงเรียนมัธยมที่ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องเริ่มต้น หรือเดินทางอย่างไร โชคดีว่าผู้อำนวยการของที่นี่เป็นคนที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้ ท่านเป็นคนที่มีอายุแล้วในวันนั้นท่านกำลังเดินข้ามถนน และมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาด้วยความเร็วเกือบจะเบรกไม่ทัน และชนท่านเข้า นั้นทำให้พาริชที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องรีบกระโดดเข้าไปแล้วดึงตัวท่านเข้ามาจากนั้นเป็นต้นมาพาริชก็คอยเทียวมาหาท่านบ่อย ๆ ส่วนท่านเองก็รู้สึกดีใจมากที่พาริชแวะมาหามาเยี่ยมเยียนทาน “อ้อ ค่ะ งั้นเอ๋ยไปก่อนนะคะ” “น้องเอ๋ยคะ” พาริชเห็นท่าทีที่นลินญากำลังจะเปิดประตูลงไปจากรถ เขาเรียกเธอเอาไว้เพราะว่าอยากจะถามเธอเรื่องหนึ่งอันที่จริงแล้วอยากจะถามตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่มีเวลาเขาเห็นว่าในตอนนี้เวลาที่นลินญาจะเข้าเรียนยังเหลืออีกตั้งเกือบหนึ่งชั่วโมงเขาจึงเรียกเธอไว้เพื่อถามเธอขึ้นมา “เมื่อคืนพี่กลับมายังไงเหรอครับ” “อ้อ พี่กุลกับพี่รันเป็นคนพามาค่ะ” “แล้วพี่ไปนอนที่ห้องน้องเอ๋ยได้ยังไงเหรอครับ” “พี่กุลกับพี่รันหากุญแจห้องพี่พ้อยต์ไม่เจอค่ะ เอ๋ยก็เลยให้เข้ามานอนห้องเอ๋ยก่อน มีอะไรรึเปล่าคะ” พาริชทำท่าคิดตามก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วระบายยิ้มออกมาให้เธอ สบายใจ “ไม่มีอะไรค่ะ พี่แค่ถามดู พอดีตื่นมาแล้วเห็นว่าตัวเองอยู่ห้องน้องเอ๋ยก็เลยตกใจ ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรไม่ดีกับน้องเอ๋ยไปบ้างรึเปล่า” เขาจะทำอะไรไม่ดีได้ล่ะ เขาก็แค่แค่หลับแล้วก็จับมือเธอเท่านั้น มีแต่เธอที่คิดจะทำอะไรไม่ดีกับเขา บ้าจริง หรือว่าเขารู้แล้วนะว่าเมื่อคืนเธอจะทำอะไรเขานลินญาค่อย ๆ เลื่อนสายตาขึ้นมองเธอเม้มปากก้มหน้า ความรู้สึกผิดก่อเกิดขึ้นมาภายในจิตใจนลินญาเข้าใจไปว่าพาริชอาจจะรู้แล้วว่าเมื่อคืนเธอคิดทำเรื่องไม่ดีกับเขาจริง ๆ ด้วยความเป็นเด็กแม้จะอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เคยมีความรักอย่างลึกซึ้งกับใครมาก่อน เธอไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ และสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือผู้ชายคนนี้จะโกรธเธอที่เธอคิดที่จะทำอย่างอื่นกับเขา “คือ... พี่พ้อยต์คะ” “ขา~” เม้มปากแน่นแล้วตัดสินใจสารภาพออกไปว่าเมื่อคืนเธอคิดที่จะทำอะไรกับเขา “พอดีว่า... เมื่อคืนเอ๋ย... เอ๋ยจะ... หอมแก้มพี่พ้อยต์น่ะค่ะ” พูดด้วยความประหม่าในประโยคหลังเธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วเตรียมทำใจเอาไว้แล้วว่าเขาต้องโกรธจนไม่อยากมองหน้าเธออีกแน่ “น้องเอ๋ยว่าอะไรนะคะ เมื่อคืนจะแอบหอมแก้มพี่เหรอ” ไม่ใช่หอมหรอกเธออยากจะแอบจูบเลยด้วยซ้ำแต่ว่าถ้าพูดว่าจูบเธอก็กลัวว่าคดีมันจะรุนแรงเกินไป เธอจึงขอลดทอนความรุนแรงลงมาหน่อยเปลี่ยนเป็นหอมแทนน่าจะไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ “คือเอ่ย... ไม่ได้ตั้งใจนะคะ คือว่า...” “พี่ก็คิดว่าเรื่องอะไร เรื่องแค่นี้เอง อยากหอมก็บอกสิคะ เอ้า หอมสิพี่อนุญาต” อนุญาตพร้อมทั้งใช้นิ้วชี้แตะไปที่แก้มของตนขณะเดียวกันก็อมลมเอาไว้ในแก้มทำแก้มป่อง ๆ เพื่อให้น้องสาวของเขาได้ขยับเข้ามาหอมเขาได้อย่างถนัด “เร็วสิคะ พี่อมลมจนปวดแก้มไปหมดแล้วนะ” เข้านี่มัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD