กลางดึกที่แสนสงบสุขนลินญากำลังนอนหลับอย่างฝันดี ก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวอีกทีเพราะว่าหิวน้ำในช่วงเวลากลางคืน นลินญาเดินออกจากห้องนอนด้วยสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนักเธอเปิดตู้เย็นดื่มน้ำแต่หูกลับได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากนอกห้องในช่วงเวลาตีสามกว่า ๆ นี้ เธอหันไปมองที่ประตูอย่างนึกสงสัยกระทั่งได้ยินเสียงโวยวายที่คุ้นเคยดังขึ้นมาอีกครั้ง นลินญาเงยหน้าขึ้นมองดูนาฬิกาหน้าจอแสดงเวลาตีสามสิบห้าเธอชั่งใจอยู่เพียงครู่ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูห้องพักออกไปเธอเห็นว่าเพื่อนของพาริชทั้งสองคนกำลังหิ้วปีกเพื่อนรักของตนอย่างทุลักทุเลคนหนึ่งกำลังล้วงค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวของพาริชแต่ค้นเท่าไหร่ก็ยังหาไม่เจอกระทั่งนลินญาขมวดคิ้วมองดูเหตุการณ์อย่างทนไม่ไหวเธอจึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมากนัก
“พี่กุล พี่รัน มีอะไรกันรึเปล่าคะเสียงดังเชียว” เนื่องจากว่าคอนโดที่พาริช และนลินญาอาศัยอยู่นั้นเป็นคอนโดที่ค่อนข้างหรูทำให้หนึ่งชั้นมีเพียงแค่สี่ห้องเท่านั้นซึ่งชั้นนี้เธอกับเขาอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกันส่วนอีกสองห้องข้าง ๆ ยังไม่มีเจ้าของ ส่งผลให้ในตอนนี้ที่ชั้นนี้จึงมีเพียงแค่ห้องของเธอกับห้องของเขาเท่านั้นที่มีคนอาศัยอยู่
“สวัสดีครับน้องเอ๋ย ไอ้พ้อยต์มันเมาพวกพี่กำลังหากุญแจเข้าห้องมันแต่หาไม่เจอ” กุนณฉัตรเอ่ยขึ้นก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ให้คนที่เพื่อนบอกว่าเป็นน้องสาว ใบหน้าของเขาแดงมากคงเพราะดื่มแอลกอฮอล์มาหนักอย่างแน่นอนเลย
“อ้อ ถ้างั้นเอามาไว้ห้องเอ๋ยก่อนก็ได้ค่ะ”
“ฮ่า ๆ น้องเอ๋ยครับ พูดซะเหมือนมันเป็นหมาเลยนะครับเนี่ย งั้นพี่ฝากหมาพ้อยต์ หน่อยแล้วกันนะครับ” ดรัณภพพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับกุนณฉัตรเพื่อนของตนแล้วพากันประคองพาริชเดินไปฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นห้องของนลินญา ทั้งสามคนต่างก็หัวเราะให้กับสภาพของพาริชในตอนนี้เพราะเขาดื่มเสียจนหมดสภาพเลยทีเดียว
เมื่อวางพาริชเอาไว้ที่โซฟาแล้วนลินญาจึงได้ถามขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมพาริชถึงได้มีสภาพที่ดูไม่ได้ขนาดนี้
“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะทำไมพี่พ้อยต์ถึงเมาขนาดนี้”
“ไม่มีอะไรครับ มันเล่นเกมแพ้เลยต้องดื่มแล้วดวงคนมันจะซวยน่ะ มันก็เลยแพ้ทุกรอบทำให้ต้องดื่มทุกรอบจนมีสภาพเป็นอย่างนี้นี่แหละครับ พี่ฝากมันด้วยนะครับ พวกพี่ก็จะไม่ไหวเหมือนกัน” ดรัณภพฝากฝังเพื่อนรักเรียบร้อยแล้วตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง
“แล้วพี่สองคนขับรถกลับไหวเหรอคะ?”
“สบายมากครับ พวกพี่ไม่ได้ขับมาเองน่ะ” นลินญาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะกล่าวขอบคุณ และอำลาเพื่อนของพาริชทั้งสองคน
ประตูห้องพักปิดลงนลินญาก็หันมามองพาริชที่ตอนนี้สภาพแทบดูไม่ได้แต่ก็นะ คนมันหล่อ ต่อให้สภาพจะย่ำแย่แค่ไหนก็ยังคงหล่อเหลาอยู่ดี เธอเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาชุบน้ำพอหมาดแล้วเช็ดตัวของพาริชไปจนทั่วตัว
ขณะที่ตัวเธอนั่งอยู่ข้างเขาเด็กสาวในวัยสิบแปดปีก็หัวใจกระหน่ำเต้นเมื่อต้องใช้ผ้าขนหนูผืนน้อยเช็ดไปทั่วแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของคนที่เป็นพี่ชาย เขามีอายุมากกว่าเธอถึงเก้าปีแม้ว่าตอนนี้เธอจะสูงขึ้นกว่าเดิมมาเพียงแค่ไม่กี่เซ็นต์กลับกันในขณะที่เธอสูงขึ้นแต่พี่ชายของเธอคนนี้ก็ไม่ลดความกำยำลงเลยแม้แต่น้อย
นลินญาเริ่มมีความคิดแปลก ๆ เธอกำลังคิดว่าเธออยากรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขากันแน่ เธอชอบเขาอย่างจริงใจ หรือเป็นเพียงเพราะความใจดีของเขาที่ทำให้เธอมีความรู้สึกดีมาจนถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่านลินญาตัดสินใจที่จะจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชั่งใจเธอมองเขาอยู่อย่างนั้นแม้ว่าเขากำลังหลับใหลไม่ได้สติอยู่ก็ตาม
“พี่พ้อยต์คะ”
เธอเรียกเขาหมายจะให้เขารู้สึกตัวแต่ว่าเรียกอย่างไรเขาก็ไม่รู้สึกตัวสักที นลินญาจึงต้องทำเพียงแค่ปลดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออกจนหมดแล้วเช็ดตัวให้เขาอีกครั้งหวังให้เขามีสติขึ้นมา มือเรียวของเธอสั่นอย่างประหม่าขณะที่ใบหน้าของเธอเริ่มมีเม็ดเหงื่อเกาะพราวตามกรอบหน้าด้วยความตื่นเต้นคล้ายว่าเธอจะเป็นลมอย่างไรไม่รู้เพราะว่าหน้าท้องแกร่งของพี่ชายขยับเคลื่อนไหวตามแรงการหายใจของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย นลินญาหน้าขึ้นมองพี่ชายอีกครั้งเห็นว่าตอนนี้เขายังคงหลับอยู่เช่นเดิมเธอจึงรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนน้ำกะละมังใหม่เพื่อที่จะเอามาเช็ดหน้าให้เขาอีกครั้งตั้งใจว่าจะให้เขาได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“พี่พ้อยต์คะ”
นลินญาเดินกลับมาแล้วเห็นพาริชยังคงหลับอยู่เช่นเดิมเธอจึงนั่งลงที่เดิมข้างกายของเขา มือนุ่มยืนไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ในกะละมังบิดผ้าพอหมาดเหมือนเดิมพับอย่างเรียบร้อยแล้วซับไปทั่วใบหน้าหล่อของชายหนุ่ม ในตอนนั้นเองหัวใจดวงน้อยเต้นรัวออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูกเพราะว่ามือหนาของพาริชยื่นเข้ามาจับที่ข้อมือเล็กของเธอ พาริชค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจ้องมองเธออยู่อย่างนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอก็จ้องมองเขาไปด้วยเช่นกัน ในนาทีนั้น นาทีที่สายตาของเขา และเธอประสานกันในครั้งนี้ทำให้นลินญาที่เดิมทีตั้งใจจะเช็กความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้วรับรู้ขึ้นมาได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไปเลย
เธอรับรู้ว่าเธอชอบเขามากจริงๆ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่พ้อยต์”
พาริชไม่ตอบแต่เขากลับจับมือนุ่มของนลินญากุมเอาไว้จากนั้นเลื่อนขึ้นไปที่ปากของเขา พาริชใช้ปากของเขาจูบหลังมือเธอแผ่วเบาก่อนจะกุมเอาไว้เช่นเดิมแบบนั้นแล้วลดมือลงทั้งที่ยังกุมมือของเธออยู่พร้อมกับเปลือกตาที่ปิดลงอย่างช้า ๆ โดยไม่มีคำพูดใดอีกเลยปล่อยทิ้งเอาไว้เพียงแค่เด็กสาวในวัยสิบแปดปี นั่งหัวใจเต้นแรงอยู่เคียงข้างเขาในชุดนอนบางเบาลายแมวที่มีผ้าคลุมไหล่ป้องกันโป๊เพียงแค่นั้น
นะ นี่เขาทำอะไรของเขาเนี่ย มาจูบมือของเธอทำไม!
นลินญายิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่เมื่อมองไปที่ริมฝีปากของชายหนุ่มที่จูบหลังมือเธอเมื่อครู่นี้ เธอตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัวแต่เมื่อสติที่เลอะเลือนเมื่อครู่กลับมาเธอก็พยายามจะเอามือของเธอออกจากมือของเขา เธออยากจะให้เขาปล่อยมือเธอแต่อีกใจก็ไม่อยากเธอจึงทำเพียงแค่นั่งอยู่อย่างนั้นเพื่อให้พาริชจับมือเธอต่อไป
“พี่พ้อยต์คะ ปล่อยมือเอ๋ยก่อนได้ไหมคะ” เหมือนกับว่าพาริชไม่มีท่าทีจะปล่อยมือของเธอเลย และนลินญาก็รับรู้ว่ามือของเธอเริ่มชื้นเหงื่อเพราะเขาจับแล้วหลับไปอย่างนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอได้นั่งจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างนี้เป็นเวลาเนิ่นนานจนเธอไม่อยากให้ดวงจันทร์ในคืนนี้หายไปเลย
พาริชไม่ได้ปล่อยมือเธอแต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้นแล้วนอนพลิกตะแคงข้างหันออกมาทางด้านนอกส่งผลให้หน้าท้องกำยำสัมผัสถูกสะโพกของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว นลินญาตัดสินใจดึงมือของเธอออกแล้วแปรเปลี่ยนเป็นนั่งลงที่พื้นแทน มือข้างหนึ่งของเธอยังว่างอยู่เธอจึงวางมันไว้บนโซฟาจากนั้นจึงวางปลายคางเอาไว้ที่หลังมือจ้องมองใบหน้าของพี่ชายที่กำลังหลับใหลอย่างสุขใจ เธอได้เห็นพาริชใกล้ ๆ อย่างนี้เธอยิ่งรู้สึกหลงใหลเขามากขึ้นไปอีก
พาริชเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาตามแบบฉบับที่เธอชอบมากจริง ๆ ด้วยเครื่องหน้าที่คมเข้ม คิ้วของเขาเข้มดกดำ แต่ว่าก็เป็นทรงสวย ดวงตาของเขาที่ปิดสนิทส่งผลให้เห็นแพขนตาที่เรียงตัวสวยราวกับผู้หญิง จมูกโด่งโดยธรรมชาติตามแบบฉบับพ่อกับแม่ให้มาแต่ไหนแต่ไร ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลาแต่ก็มีตอหนวดขึ้นรำไร นลินยาแตะตอหนวดของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้พาริชค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นลินญาที่กำลังแตะใบหน้าของเขาอยู่ก็ชะงักเธอทำตัวไม่ถูกจึงได้แต่นิ่งค้างไว้อย่างนั้น ขณะเดียวกันพาริชก็เลื่อนมือของเขาจับมือเธอที่กำลังลูบไล้ใบหน้าของเขาเมื่อครู่มากุมเอาไว้อีกครั้ง กลายเป็นว่าตอนนี้เขากุมมือเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่มือแต่เขากุมหัวใจของเธอเอาไว้ด้วย
“พี่พ้อยต์กลับห้องไหมคะ” เธอถามเพื่อต้องการเบี่ยงเบนความสนใจแต่ว่าต่อให้เธอถามออกไปเท่าไหร่ เธอก็ไม่ได้รับความสนใจนั้นเพราะคนเมาที่อยู่ตรงหน้ายังคงนอนจ้องมองเธออยู่อย่างอย่างนั้นจนเธอคิดไปเองว่า หรือเขาอยากจะอาเจียนหรือเปล่านะ?
“หรือว่าอยากอาเจียนคะ” เขาไม่ตอบแต่เลือกจับมือของเธอขึ้นมาแล้วหอมที่หลังมือของเธออีกครั้ง ก่อนลดมือลงไว้ที่ระดับอกแล้วก็หลับไปอีกหน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นลินญารู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงกับผู้ชายคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางนึกไปถึงครั้งแรกที่เจอกับเขาในตอนนั้นเธอเพิ่งจะห้าขวบเท่านั้นเอง