BABY BURN :: INTRO [30%]

1180 Words
บางคนอาจจะเคยมีรักแรกที่มีความสุข หอมหวานและกลมกล่อมเหมือนกับกาแฟแก้วโปรดที่ชื่นชอบ หรือหวานละมุนละไมเหมือนกับเค้กวนิลาครีมสดที่ทั้งอร่อยเวลาปลายลิ้นสัมผัส หากแต่บางคนกลับไม่ได้มีรักแรกที่หอมหวานเหมือนกาแฟรสโปรด ไม่ได้หวานละมุนเหมือนเค้กวนิลา เมื่อวันเวลาผ่านไป ‘รักแรก’ ที่เคยถนอมกลับกลายเป็นความขมขื่นของฉัน รวมถึงกลายเป็น ‘ตราบาป’ ติดตัวจนไม่อาจเริ่มความรักครั้งใหม่ได้อีก แต่ใครจะรู้ว่าวันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เรื่องราวเล่านั้นมันกลับมาเผชิญอยู่ตรงหน้าของฉันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยทำให้ฉันเสียใจและตายทั้งเป็น หรือการได้พบเจอกับคนที่เคยอยู่เคียงข้าง ให้กำลังใจในวันที่เกือบจะทิ้งชีวิตทั้งหมดเพื่อใครบางคนที่ไม่เห็นค่า แต่เป็นเขาที่มองเห็นมันในตัวของฉัน การกลับมาของฉันในครั้งนี้มันเปลี่ยนไปกว่าเดิมมากทีเดียว สำหรับฉันแล้ว ‘ผู้หญิงเจ้าชู้’ ส่วนใหญ่จะพัฒนามากจาก ‘ผู้หญิงที่แสนดี’ แต่กลับถูกย่ำยีหัวใจจนแหลกสลายต่างหาก และฉันคือหนึ่งในนั้นที่เคยแสนดี... ณ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง “ไม่ได้นะครามเรายังไม่พร้อม” “ทำไมล่ะ ‘เทล’ เราคบกันมาตั้งแต่ม.4 แล้วนะ นี่ก็ม.6 แล้ว แค่จูบเอง” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะผลักอกแกร่งของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของฉัน ใช่ ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเป็นถึงหนุ่มป็อบประจำโรงเรียน เขาคือ ‘สงคราม’ แฟนหนุ่มที่ฉันตกลงปลงใจคบกับเขาหลังจากที่เขาเดินหน้าจีบฉันตั้งแต่อยู่ม.3 แต่ฉันตกลงคบกับเขาตอนม.4 เพราะทนต่อแรงตื้อของเขาไม่ไหว และแม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าสงครามเป็นผู้ชายเฟรนลี่ หว่านเสน่ห์ไปทั่ว แต่สำหรับฉันสงครามทำตัวดีและน่ารักเสมอ แต่ชื่อเสียงที่ลือเลื่องของสงครามมักจะเข้าหูฉันเสมอ และฉันก็คิดว่าเขาไม่มีทางทำแบบนั้น เขาสัญญาว่าจะมีแค่ฉันเพียงคนเดียว ฉันเลยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะการคบหากันของเราทำให้ทุกคนในโรงเรียนต่างพากันอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือแม้แต่หน้าตาที่พระเจ้ามอบให้เราสองคน “ไม่จูบ งั้นหอม” “คราม” เขายิ้มกริ่มก่อนจะกดจูบลงบนแก้ม แน่นอนว่าฉันหดลำคอหนีเมื่อเขาพยายามไล่จูบลงมายังลำคอ ฝ่ามือจากที่จับมือฉันไว้ก็เลื่อนต่ำเข้ามาใต้กระโปรง หมับ “มะ ไม่ได้นะคราม” ฝ่ามือตะปบมือเขาไว้พลางส่ายหน้าน้ำตาคลอ “ไม่เอา...” “โอเค เราขอโทษ” ใบหน้าหล่อเหลาดูเหมือนจะไม่พอใจ หากแต่น้ำเสียงของเขากลับอ่อนโยนยามที่เลื่อนฝ่ามือออกจากกระโปรงของฉัน ตอนนี้เราสองคนอยู่หลังห้องเนื่องจากตอนนี้เพื่อนในห้องต่างพากันไปยืนเข้าแถว แต่ทว่าฉันกลับถูกสงครามดึงตัวไว้ไม่ให้ไป ทั้งที่ฉันเป็นนักเรียนดีเด่นไม่เคยขาดเรียนหรือขาดกิจกรรมเลยสักครั้ง “เทลรักเราใช่ไหม?” สงครามถามพลางขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ “เรารักเทลนะ เราอยากให้เทลเชื่อใจเรา” “แต่เรากลัว เรากลัวท้อง” บอกออกไปตามความจริง ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่สงครามต้องการคืออะไร เขาต้องการมีอะไรกับฉันตั้งแต่เริ่มคบกัน แต่ฉันมักจะปฏิเสธเขาเสมอด้วยความกลัวในหลายๆ เรื่อง ฉันคือความหวังของครอบครัว ของคุณครูของเพื่อนและใครหลายๆ คน ดังนั้นฉันจึงไม่อยากที่จะทำให้พวกเขาต้องเสียใจถ้าหากฉันปล่อยตัวปล่อยใจให้มีอะไรเลยเถิดจนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น “เราไม่ให้เทลท้องหรอก” ร่างสูงจับมือฉันให้ลงจากโต๊ะเรียนและไปนั่งบนตักแกร่ง แต่เป็นการนั่งหันเหน้าเข้าหาเขา ฉันหน้าร้อนเห่อยามที่สงครามเลื่อนฝ่ามือมาประคองเอวฉันไว้โดยที่มือของฉันยันอกเขาและพยายามลุกขึ้น เพราะท่านี้มันไม่ดีเอาเสียเลย ฉันรู้สึกได้ถึงช่วงล่างของสงครามที่มันอยู่ตรงกลางกายของฉันพอดี “ครามเรา...” น้ำเสียงถูกกลืนหายไปเมื่อสงครามโน้มท้ายทอยฉันให้ขยับใบหน้าเข้าใกล้ ลมหายใจของเราสองคนผสานกันไปมา ลำคอของฉันแห้งผากเมื่อจับจ้องริมฝีปากแดงคล้ำของสงครามเพราะเขาสูบบุหรี่จัด “รู้จักไอ้นี้หรือเปล่า?” สงครามล้วงมือหยิบอะไรบางอย่างมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนขาสั้น มันเป็นซองขนาดเล็กที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดี ในวิชาสุขศึกษาที่อาจารย์สอน “อะ อืม” “แล้วรู้ใช่ไหมว่ามันทำอะไรได้” ฉันหลุบตาลง แต่สงครามกลับช้อนปลายคางฉันขึ้น “เทลรู้” “ระ เรา...” “ถ้ามีไอ้นี้ เทลจะไม่ท้อง” สงครามยังคงตื้อฉันเหมือนที่ตามจีบฉันเลย หากแต่ทว่าฉันกลับส่ายหน้าไปมาจนสงครามถอนหายใจฟึดฟัด “นู่นก็ไม่เอา นี้ก็ไม่ได้ งั้นสดเลยไหม?” “คะ คราม” ฉันตกใจไม่น้อยที่สงครามดันฉันให้ออกจากตัก เขาหัวเสียและถีบเก้าอี้จนกระเด็นไปติดกำแพงจนเกิดเสียงดัง เดินหนีฉันออกไปจากห้องโดยไม่หันกลับมามองเลยสักนิด นี่ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ... ฉันแค่ยังไม่พร้อมที่จะมีอะไรกับเขา คิดว่าเรื่องแบบนี้ต้องรอให้เราโตขึ้น หรือแต่งงานมีครอบครัวมีงานดีๆ ทำก่อน แต่ทำไมสงครามถึงไม่เข้าใจฉันเลยล่ะ “ยัยเทล แกหายหัวไปไหนมาเนี่ยห๊ะ” ฉันเดินลงจากห้องเรียนก่อนจะปะทะกับเข้าร่างเล็กของเพื่อนสนิทที่สุดของฉันอย่าง ‘ลลิส’ เธอเป็นผู้หญิงที่สวย เปรี้ยว มีผู้ชายมากมายต่างพากันหมายปองเธอ แต่ลลิสไม่สนใจใครเพราะเธอคบกับคนนั้นคนนี้จนฉันไม่รู้เลยว่าคนไหนเป็นแฟนเธอกันแน่ แต่สำหรับฉันเพื่อนคือเพื่อน ต่อให้ลลิสจะทำตัวยังไงฉันก็รักเธอเสมอไม่เคยเปลี่ยน “อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับไอ้คราม” “ลลิส” ฉันบอกเสียงอ่อยเพราะลลิสไม่ค่อยชอบหน้าสงคราม โดยให้เหตุผลว่าผู้ชายอย่างเขาไม่เหมาะสมกับฉัน เขาทั้งเกเร ถึงแม้จะเป็นป็อบในโรงเรียนแต่ด้านการเรียนหรือเกเร สงครามคืออันดับหนึ่งในโรงเรียน ลลิสเลยไม่สนับสนุนให้ฉันคบกับสงคราม แต่ทว่าฉันกลับไม่ได้มองสงครามแย่แบบนั้น ลลิสชอบบอกฉันเสมอว่าผู้หญิงชอบคนเลว และฉันคือหนึ่งในนั้น “เฮ้อ เลิกกันไปเถอะ หมอนั่นไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอเลยนะเทล”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD