อนิลทิตาเขย่าร่างเล็กเบาๆ ปากก็ปลอบโยนด้วยเสียงรื่นหู “ไม่นะจ๊ะน้องอิงจ๋า เด็กดีต้องไม่งอแงรู้ไหมจ๊ะ เอ้า... นิ่งนะนิ่ง แล้วน้าอินจะพาไปนั่งชิงช้านะคนดี” เสียงอ่อนโยน อ่อนหวาน ยังพึมพำส่งภาษาที่แน่ใจว่าหลานน้อยเข้าใจ อีกยืดยาว ไม่นาน เสียงร้องแว๊ดๆ ค่อยเบาลง ทิ้งไว้เพียงเสียงสะอื้นราวรู้ภาษา หรือเป็นไปได้ว่าสัมผัสถึงกระแสอ่อนโยนของน้ำเสียงปลุกปลอบ อ้อมกอดนั้นเล่าก็บอกถึงความรักใคร่ไม่ต่างจากอ้อมแขนของบิดาที่แม่หนูคุ้นชิน หน้าเล็กๆ ยอมซุกซบลงบนบ่านุ่มกว่าบ่าของบิดาแม่หนูเสียอีก นัยน์ตาปรือฉ่ำด้วยน้ำตาจนขนตายาวงอนไม่ผิดเพี้ยนจากคนอุ้ม จับตัวกันเป็นกระจุก ดูน่าขันและน่าเอ็นดู เด็กหญิงถอนสะอื้นห่างออกไปทุกที ส่งเสียงประท้วงขึ้นมาอีก เมื่อถูกหย่อนร่างลงเปลสี่เหลี่ยมกว้าง ให้พลิกตัวไปมาได้สะดวก แต่ก็ยอมเงียบเสียง เมื่อได้รับการปลอบโยนด้วยเสียงเบา นุ่ม ที่คงจะคุ้นหูแม่หนูอยู่เหมือนกัน ณัทธร