ตอนที่ 10

1154 Words
มารดาพูดขึ้นมาราวจะเปิดทางให้ไปหาหลานน้อยได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจแบบนี้ มีหรือจะไม่รีบฉวยโอกาส แม้จะอดโยกโย้ไม่ได้ตามวิสัยหญิง เมื่อออกจากบ้านไปทำตามคำขอของมารดาในวันรุ่งขึ้น อนิลทิตาไม่ได้เอารถยนต์ออก เลือกใช้สกู้ตเตอร์คันเล็กแทน ไปถึงตัวบ้านไร่ ซึ่งเป็นอาคารหลังใหญ่ ดูมั่นคงแข็งแรง สามารถยืนหยัดสู้แดด ลม ฝนได้อีกนาน ก็จอดสกู้ตเตอร์ไว้หน้าบ้าน ตัวเองเดินอ้อมไปเข้าประตูหลังแทนเข้าประตูหน้าที่เปิดอยู่ แม้จะรู้ว่าสายป่านนี้เจ้าของบ้านคงจะเข้าไร่ไปนานแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจนัก เท่าที่รู้จะมีบางวันที่ณัทธรต้องดูแลงานเอกสารก่อนเข้าไร่ ห้องทำงานของเขาอยู่ด้านหน้า ติดกับห้องรับรองแขก ถ้ายังอยู่บ้านก็น่าจะอยู่ในห้องทำงานมากกว่าที่อื่น ความคิดนี้เอง เท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดทอดขึ้นสู่ระเบียงกว้างโอบรอบตัวบ้าน ก็เลยมีอันชะงักอยู่กับที่ ประตูไม้หนาหนักสองบานเปิดเอาไว้เพียงบานเดียว แต่ก็กว้างพอจะทำให้สามารถมองเข้าไปเห็นร่างสูงของเจ้าของบ้านยืนหันหลังมาทางระเบียง ห่างประตูไปหลายก้าว ไม่ได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดกับลูกสาวตัวน้อย เห็นแต่มือใหญ่ลูบศีรษะเล็กๆ ที่กำลังซบหลับอยู่กับไหล่ข้างหนึ่ง ด้วยกิริยาอ่อนโยน  รู้สึกผิดคาด เพราะคิดว่าถ้าเจ้าของบ้านยังไม่เข้าไร่ ก็คงอยู่ในห้องทำงาน  ไม่ทันนึกว่าจะมาพบเขาอุ้มลูกสาวตัวจ้อยพาดไหล่ อยู่ที่ห้องนั่งเล่นริมระเบียงหลังบ้านแบบนี้  เธอรู้มาพักใหญ่  ณัทธรอาจจะทั้งรักทั้งแค้นภรรยาที่จากไปอย่างไม่พอที่ แต่เขาก็รักลูกปานแก้วตาดวงใจ อนิลทิตายืนนิ่งมองภาพพ่อลูก ความรู้สึกอ่อนโยนค่อยๆ พุพุ่งขึ้นในอกใจ  เธอเดาว่าฝ่ายพ่อคงขับกล่อมลูกสาวตัวน้อยให้หลับคาอ้อมแขน และไม่กล้าวาง ด้วยกลัวกลัวแม่หนูจะตื่น  จู่ๆ เขาก็หันขวับมองหลัง อาจรู้สึกได้ว่ากำลังมีคนจ้องมองอยู่  อนิลทิตาตัวชาอยู่ราววินาที ก่อนความเก้อกระดากจะแผ่กระจายออกทั่วตัว   เธอกระแอมเหมือนมีอะไรติดคอ แต่ยังพูดไม่ออก เมื่อเห็นพี่เขย ที่ขณะนี้กลายเป็นม่ายแต่ยังหนุ่ม หรี่ตาลงนิดๆ ก่อนลืมกว้างขึ้นเป็นปกติ หลังจากหมุนร่างมาเผชิญหน้าเธอทั้งตัว  “เอ้อ... คือ...คุณแม่เห็นหลานเงียบไปหลายวัน เลยใช้อินมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า” พูดออกไปตะกุกตะกัก รู้สึกคล้ายคนที่เผลอเดินหลงเข้ามาสู่อาณาจักรความเป็นส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต “เมื่อคืนมีไข้นิดหน่อย เลยโยเยกวนคนเลี้ยงทั้งคืนแทบไม่ได้หลับได้นอนกัน”  อนิลทิตาก้าวขึ้นบันได เดินเข้าประตูไปข้างใน “ให้กินยาหรือพาไปหาหมอหรือยังคะ”    ถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ไม่ทันนึกว่าคำถามของตนจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ “แล้ว!   ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไม่เอาใจใส่ดูแลหลานสาวของอินอย่างดี อย่าลืมสิ พี่เป็นพ่อของแกนะ มีหรือจะไม่รักไม่ห่วงใยลูก” เธอนิ่วหน้ามองคมสันชวนมองงงๆ  แต่ก็ยิงคำถามตรงๆ “พี่ณัทประชดอินเรื่องอะไร?” “ไม่ได้ประชด แค่พูดให้อินเข้าใจ จะได้หมดกังวลก็เท่านั้นแหละ พี่ดูแลลูกพี่อย่างดีเสมอ แม้ว่าบางทีต้องรบกวนคุณยาย หรือน้าของเด็กบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดทอดทิ้งลูกชนิดไม่ยอมเหลียวแล” “ก็ไม่เคยมีใครว่าอะไรนี่คะ โดยเฉพาะเรื่องความเอาใจใส่ แล้วนั่นจะคอยอุ้มกันอยู่อย่างนั้นทั้งวันหรือคะ  พี่ณัทไม่ต้องทำงานทำการหรือยังไง” “ทำไงได้ล่ะ เวลานี้ยายหนูไม่เอาใครสักคน ร้องหาแต่พ่อ” “ส่งมาค่ะ อินจัดการเอง” “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวตื่นขึ้นก็คงร้องว๊ากๆ อีก นี่พี่ก็เพิ่งกล่อมให้หลับไปได้สักห้านาทีนี้เอง” “ส่งมา พี่ณัท” อนิลทิตาพูดเสียงเฉียบขาดไม่ต่างจากเวลาพูดกับหลาน ยามแม่หนูออกฤทธิ์ออกเดช “แต่ว่า...”    คุณพ่อลูกอ่อนมีท่าทีลังเล ณัทธรไม่ทันขยับ เด็กหญิงก็พลิกตะแคงหน้าจากที่หันออกเข้าหาซอกคอบิดา ก่อนลืมตาขึ้นแล้วแบะหน้าทำเสียงหงิงๆ อนิลทิตามองหลาน แต่พูดกับบิดาของเด็กหญิง “ส่งมาเถอะค่ะ พี่ณัท จะมาอุ้มแกตลอดเวลาอย่างนี้ไม่ได้หรอกนะคะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงต้องอุ้มกันตลอด วางไม่ได้เอาเลย” เห็นเขายังลังเล ก็พูดเสียงกระด้างขึ้น “ไม่ต้องกลัวไปหรอกว่าอินจะทำหลานหล่นมือ ถึงไม่เคยมีลูกมาก่อน อินก็พอดูแลเด็กเป็น คงยังไม่ลืมตลอดเดือนกว่าที่ผ่านมา อินดูแลยายหนูได้ไม่แพ้พี่ณัท หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยตามใจ หรือโอ๋แกผิดทางเพราะสงสารว่ากำพร้าแม่แต่อายุเท่านี้” “พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”  เกือบปรากฏรอยขันในน้ำเสียงของเขา  “ไม่ว่าก็ส่งมาค่ะ” ณัทธรขยับแขนจะทำตาม แต่ไม่ทันส่งร่างน้อยที่ซบหลับกับไหล่ให้มือเรียวบางที่ยื่นออกมารอรับ  คนตัวเล็กก็หลับหูหลับตาร้องประท้วงแว๊ดๆ “โอ๋...โอ๋ เงียบจ้ะเงียบ”    คุณพ่อผู้รักลูกขยับแขนโอบรัดร่างเล็กเข้าตามเดิม ปากก็พึมพำปลอบโยนไปตามประสาพ่อ-ลูกสื่อสารกัน      “ไม่มีอะไรนะ ไม่มีอะไร พ่ออยู่นี่แล้ว โอ๋ โอ๋” “ส่งมาให้อินค่ะพี่ณัท”    อนิลทิตาออกคำสั่ง  “เอ่อ พี่ว่า...”   “ส่งมา”   เธอพูดซ้ำ มองเขาอย่างเอาจริง นั่นแหละ คุณพ่อลูกอ่อนจึงยอมตัดใจแกะแขนเล็กที่โอบลำคอเขาอยู่ ส่งตัวบุตรสาวให้แก่หญิงสาว อนิลทิตารับเด็กหญิงจากมือแข็งแรงแต่กลับนุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อเวลาแตะสัมผัสร่างเล็กจ้อยของลูกสาวตัวน้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลจัดสบกับตาสีนิลเจียระไนแวบหนึ่งในระยะใกล้ โดยไม่ได้ตั้งใจทั้งคู่ หญิงสาวผงะศีรษะออกห่างคล้ายจะตกใจ ขณะฝ่ายชายยังมีท่าทีปกติ เว้นประกายตาคมเท่านั้นที่วาบขึ้นแวบหนึ่ง แม่หนูน้อยที่เกิดมามีหน้าตาแทบจะเรียกได้ว่าถอดพิมพ์น้าสาวออกมาทุกส่วน ส่งเสียงกรี๊ด เมื่อถูกดึงออกจากอ้อมแขนของบิดาที่แม่หนูคุ้นเคยกว่าใครในระยะหลังๆ มานี้      
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD