ม่านสวาท ตอนที่ 2

2715 Words
"ไม่เป็นไร...อย่ากลัว..." เขาปลอบพลางซุกไซ้ตามซอกคอเรื่อยไปถึงกกหู ดมดอมสูดเอาความหอมผ่านไรผมที่เปียกโชกด้วยความใคร่กระหาย แม้เจียระไนจะหลบหลีกปัดเลี่ยงเพียงใดก็มีหรือจะสู้แรงของอีกฝ่ายได้ เขากอดรัดคลำเคล้นตัวเธอทุกตารางนิ้วเท่าที่จะทำได้ ตัณหาคุกรุ่นเพิ่มองศากลบความเย็นจากสายน้ำหมดสิ้น ชายหนุ่มผละออกห่างชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าเธอดิ้นขัดขืนแรงขึ้น แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากสาวเจ้าเสียทีเดียว ราวกลัวแม่ตะเภาทองนางนี้จะหนีหายจากอ้อมแขนซึ่งโหยหาเธอเป็นที่สุด "ถามจริงๆ...คุณจะลากเจ้าขาลงกินในน้ำเนี่ยนะคะ" คำถามของเธอเล่นเอาเหมราชแทบสำลักขำ โถ...แม่คุณ ช่างเปรียบเสียเหลือเกิน ดูเหมือนหญิงสาวเองก็จงใจจะพูดมันออกมาเสียด้วยสิ เพราะเธอยิ้มกลั้นหัวเราะที่แอบแกล้งคืนได้เล็กๆ น้อยๆ "หึ หึ หึ...ช่างพูดดีนัก งั้นเราอย่ามาเสียเวลากันเลย เดี๋ยวจะสอนให้ว่าการกินในน้ำ เขาทำกันยังไง..." น้ำเสียงเขาทุ้มอบอุ่น มือใหญ่ปัดป่ายปอยผมให้ด้วยความอ่อนโยน ดวงตาสอดประสานไม่ห่างหาย สื่อความรู้สึกทั้งหมดไว้ในแววตานั้น ราวกับต้องมนต์สะกดทั้งคู่ยืนมองกันนิ่งๆ ซึมซับความรู้สึกที่ไม่ต้องใช้คำพูดใดเอื้อนเอ่ย "อืม..." เหมราชเป็นฝ่ายอดรนทนไม่ไหวก่อน เขาโน้มตัวจุมพิตกลีบปากบางเฉียบด้วยความเร่าร้อนดุดัน ทว่าแฝงความอ่อนโยนทะนุถนอมเอาไว้เต็มเปี่ยม สัมผัสเย้ายวนแนบชิดเรียกเสียงครางฮือจากหญิงสาว บ่งบอกถึงความพึงพอใจ แม้ศีลธรรมเบื้องลึกจะยังต่อต้านอยู่เนืองๆ กระนั้น...เธอก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ไม่อาจขัดขืน ไม่อาจผลักไสเขาออกจากตัว เหมือนตัวเองถูกเสกสาปเอาไว้จริงๆ อย่างไรอย่างนั้น... "เจ้าขา..." ชายหนุ่มครางชื่อ ผละริมฝีปากออกมาน้อยนิดแต่ก็ยังประชิดดื่มด่ำความหวานนุ่มลึกอยู่ไม่ห่าง เจียระไนหลับตาปรือเคลิ้มรอรับสัมผัสหวามไหว เขาจึงดุนดันปลายลิ้นสอดวนควานคว้าตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอให้ตอบสนอง รับการรุกรานของตัวเอง หญิงสาวอ้อยอิ่งกึ่งกลัวกึ่งกล้าในสาร์นท้านั้น แต่ก็โอนอ่อนให้เขาโดยสวัสดีไม่ได้ขัดขืนฝืนรั้น ใช่ว่ามีแต่เขา...ที่หลงในมนต์เสน่หาจนลืมหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง แม้แต่...ศีลธรรมอันดีงาม... "อืม เจ้าขา...เขาว่านางเงือกมีเวทมนตร์ สงสัยจะจริง..." ริมฝีปากและสายตายังไม่ละห่างจากสาวเจ้าเสียทีเดียว หัวใจของเขาเต้นระทึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางสงครามเก้าทัพ และคนตรงหน้าก็ช่างเชิญชวนให้ฟาดฟันดีเสียเหลือเกิน "ตกลงจะให้เป็นตะเภาแก้ว ตะเภาทอง หรือนางเงือกดีคะ" "อะไรที่เป็นเจ้าขา...ฉันก็อยากกินทั้งนั้น..." ใช่เพียงคำพูด การแสดงออกยังย้ำสนับสนุนวลีนั้นแจ่มชัด ร่างเล็กถูกรวบมากอดแนบเหมือนจะกลืนกินเป็นหนึ่งเดียว ลูบคลำขยำเฟ้นไปตามแนวแผ่นหลังบอบบาง เสื้อผ้าเปียกชื้นไม่ได้ช่วยปกปิดร่างกายให้พ้นภัยได้เลยแม้แต่น้อย ความร้อนระอุที่แผ่ซ่านพล่านพร่าอยู่ในตัวเหมราชลุกโชนโหนทะยานจนสติกระเจิดกระเจิง มุ่งหวังแต่จะเสพรักให้สมดั่งที่ใจปรารถนาเท่านั้น "มาทางนี้ที่รัก...ได้โปรด" ชายหนุ่มเชื้อเชิญด้วยสายตาที่กวาดมองไปยังหน้าผาหิน ซึ่งมีซอกลึกคล้ายถ้ำปรากฏอยู่ มันถูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ที่พันเลื้อยจนดูอึมครึม เจียระไนเข้าใจเจตนาของเขาได้ชัดเจนในทันที "เอ่อ...กลับไปต่อที่บ้านพักได้ไหมคะ" เมื่อรู้ตัวว่าอย่างไรเสียก็ไม่รอด ขอต่อรองเผื่อจะช่วยลดความคึกคะนองของคนตัวใหญ่ลงได้บ้าง "ไม่ทันแล้ว มันไกล" "ว้าย!!" ร่างแบบบางในชุดเปียกโชกถูกตวัดอุ้มเหนือระดับผิวน้ำเหมราชเดินดิ่งไปยังซอกหินซึ่งจะช่วยบดบังบทพิศวาสที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าให้พ้นจากสายตาของโลกกว้าง ไม่มีใครกล้าวนเวียนมาบริเวณนี้หรอก เขารู้ดี เพราะได้สั่งกำชับเอาไว้แล้วตอนที่กลับไปเอาผ้ามาให้เจียระไน แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ต้องป้องกันไว้ก่อนเพื่อรักษาเกียรติอันน้อยนิดของเธอเท่าที่เขาจะใจถึงทำไห้ได้ ร่างน้อยเกาะเกี่ยวต้นแขนแข็งแรงเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ภายในซอกหินกว้างและลึกพอสมควร เขาพาเธอแหวกผ่านม่านเถาวัลย์ที่พันเลื้อยระย้าโยงย้อยมาจนเกือบถึงผิวน้ำ ให้ตายเถอะ! มันไม่ได้ปลอดภัยสักนิดถ้ามีใครเดินผ่านมา เพราะไม้เลื้อยเหล่านั้นไม่ได้ทับกันหนามากพอจะบดบังให้มิดชิด หากแต่ถ้ามองเผินๆ ก็คงไม่ล่อตาล่อใจมากนัก "หรือจะเลือกโขดหินตรงตลิ่งนั้นก็ได้นะ..." เขาหยอก เมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าไม่มั่นใจในความปลอดภัยเมื่อได้สัมผัสสถานที่รังรัก เธอเลือกที่จะเงียบเพราะเริ่มสั่น มีอาการประหม่าแจ่มชัด เหมราชวางร่างเล็กลง เธอยืนพิงโหดหินก้อนใหญ่ เสียงน้ำไหลยังพริ้งเพราะเสนาะหู หากแต่เธอไม่ได้ยิน ไม่รับรู้ถึงความเป็นไปของมันอีกแล้ว ความรู้สึกแทบทั้งหมดจดจ่ออยู่กับคนตรงหน้า ว่าไม่รู้เขาคิดจะทำอะไรบ้าระห่ำไปมากกว่านี้อีกหรือเปล่า มือใหญ่สอดลึกล้วงเข้าในตัวเสื้อที่เปียกปอนแนบเนื้อสาวทันที ความนุ่มลื่นและหอมกรุ่นส่งผ่านทุกสัมผัสแสนคุ้นเคยแต่ไม่รู้จักเบื่อหน่าย ริมฝีปากสากหนาประกบจูบดูดดื่มอีกครั้ง พร้อมแล้วจะนำเธอดำดิ่งสู่ห้วงรักที่แสนจะน่าระทึก ท่ามกลางป่าเขา ท่ามกลางแมกไม้สายน้ำ อะไรก็ไม่งดงามเท่าเธอที่ยืนตัวอ่อนให้เขาประโลมโถมจูบอยู่ ณ ตอนนี้หรอก มือเล็กดันแผงอกเป็นการต่อต้านนิดๆ สื่อให้เห็นว่าหญิงสาวกำลังสับสน ไม่แน่ใจระคนเคลิบเคลิ้มไปกับรสเสน่หาที่เขาเพียรป้อน เสียงครางฮือเป็นระยะยามรุกล้ำและบุกหนักหน่วงในบางครั้ง เป็นตัวยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเธอโอนอ่อนศิโรราบต่อสัมผัสวาบหวามนี้ "ถอดนะ..." เหมือนจะขอแต่ไม่ได้เว้นช่วงจังหวะให้คนตอบได้ตั้งตัว เสื้อตัวเล็กเปียกน้ำก็ถูกดึงขึ้นทางศีรษะและหลุดหายไปจากตัว อกอวบทั้งสองข้างซึ่งยังมีบราเซียร์สีส้มอ่อนๆ ห่อหุ้มอวดโฉมสู่สายตาคมทันที ล่อตาล่อใจเหมือนดอกไม้ที่กำลังเย้ายวนชวนแมลงให้หลงเข้ามาดอมดมสูดกลิ่นและกลืนกินน้ำหวานอันโอชะ "อื้อ! อืม...คุณพอสคะ..." เจียระไนครางประท้วงเมื่อมือใหญ่ตะปบกำสองเต้าสล้างแล้วบีบเคล้นราวจะเค้นเอารสชาติมาดื่มกิน อุ้งปากร้อนระอุของเขาซุกซอนผ่านกกหูเรื่อยมาตามลำคอ ขบกัดเบาๆ สลับเม้มตามแรงหฤหรรษ์ที่พวยพุ่งสูงขึ้นทุกขณะ สองมือก็ประคองกอบกำความอวบหยุ่นของทรวงอก บีบขยำผ่านเนื้อผ้ายกทรงซึ่งยังไม่ถูกปลดถอด นิ้วหัวแม่มือรุกเขี่ยกดยอดถันที่ชูช่อแข็งขืนสนองตอบ ส่งผลให้ชายหนุ่มครางฮือด้วยความปวดแปลบช่วงกลางลำตัว ความหิวกระหายของเขามันดุนดันขยายตัวโหยหาอิสระและการแตกดับอย่างบ้าคลั่ง จนต้องละมือข้างหนึ่งจากฐานเต้าไปรั้งร่างเล็กมาให้ประชิดเข้าไปอีก ร่อนส่ายเบียดเสียดความเจ็บปวดกับเธอเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่ก่อตัวลุกโชนแทบจะเผาไหม้ตัวเองเป็นจุณ แต่ด้วยยังไม่บรรลุ...ต่อให้สิ้นลมตรงนี้ เขาก็ไม่อาจหยุดทุกอย่างไว้กลางคัน "คุณพอส...เจ้าขาเจ็บ เราพอกันก่อนเถอะค่ะ" หญิงสาววอนขอน้ำเสียงสั่นพร่าปนหอบกระเส่า ตัวเธอร้อนเหมือนไฟลน และเขาก็ยังคอยเติมเชื้อให้ไม่ผ่อนปรน เช่นนี้แล้วคงได้หลอมละลายไปพร้อมๆ กันเป็นแน่ หากแต่สติยังอยากยั้งใจเพราะด้วยสถานที่มันไม่เหมาะสมกับสิ่งที่กำลังจะทำร่วมกันเอาเสียเลย "จะฆ่าฉันหรือไง..." เหมือนเขาจะเค้นคำพูดออกมาได้เท่านั้น ชายหนุ่มซุกอุ้งปากกัดขบเบาๆ ที่หัวไหล่ขาวผ่องทันทีหลังจากนั้น ร่างเล็กสะดุ้งรับ ผ่อนมือที่ยันตัวเขามาค้ำก้อนหินด้านหลังเมื่อถูกบุกเบียดโถมหนักจนแทบหงายลงไปนอน ทั้งยังปวดหนึบตรงหน้าท้องจากการถูกถูไถไม่ปรานี อารมณ์ของเขาเตลิดหลุดลอยไปไกลเกินกว่าจะดึงกลับเสียแล้ว แน่นอน...ศีลธรรมและความถูกต้องไม่เคยมีอยู่ในจิตสำนึกของเหมราชมาตั้งแต่แรก เขาทำมามากกว่านี้ไม่รู้กี่พันเท่า มีหรือจะใส่ใจกับอีแค่เรื่องความเหมาะสมของสถานที่ หญิงสาวยังคงเป็นเครื่องรองรับความกระสันซ่านในตัวเขา ยิ่งใกล้ชิดยิ่งสนิทเนื้อ ยิ่งทำให้ความผ่าวร้อนแผ่ซ่านฉีดพล่านแทรกซึมแก่กันและกัน อารมณ์รัญจวนยิ่งกระพือโชติช่วงราวติดปีกบิน พร้อมพรั่งเสมอสำหรับการโฉบเฉี่ยวเกี่ยวพันพากันมุ่งสู่สวรรค์ชั้นฟ้า "อา...เจ้าขาของฉัน..." ใช่! เธอเป็นของเขา ทุกตารางนิ้ว ทุกอณูเนื้อ ไม่มีตรงไหนแม้แต่เศษเสี้ยวที่ไม่ใช่ของเขา และเขา...ย่อมมีสิทธิ์ถือครองโดยชอบธรรม บราเจ้าปัญหาที่ยังปิดบังความงามแห่งปทุมถันเอาไว้ถูกดึงทึ้งด้วยมือใหญ่สั่นเทา และในที่สุดมันก็หลุดออกจากเต้าสล้างโดยปริยาย เผยความงามล้ำขาวผ่องและอวบใหญ่ชูชัน เบ่งบานดั่งสาวแรกรุ่นอย่างที่ควรจะเป็น "อืม..." ไม่ต้องรอให้สติกลับคืนจากความเคลิ้มคล้อย เหมราชตวัดชิวหาร้อนรุ่มฉกปลายปทุมมาและใช้อุ้งปากครอบครองในทันที ความชื้นอุ่นร้อนผสมผสานกับหยาดน้ำที่เกาะผิวอ่อนของทรวงอก อุณหภูมิที่เปลี่ยนกะทันหันทำให้ขนอ่อนๆ ของสาวเจ้าหนาวสั่นลุกชันไปทั้งร่าง เธอครางรับสนองต่อสัมผัสหวามหวิวของเขา เขย่งปลายเท้าและเบียดเข้าหาใจกลางอย่างลืมตัว ดวงตาฉ่ำปรือกะพริบไปตามครรลองดั่งต้องมนต์ดำ สรรพสิ่งรอบด้านหยุดนิ่งไปเสียแล้ว เหลือไว้เพียงการบทเพลงแห่งรักที่บรรเลงอย่างเร่าร้อนทำให้รู้ว่า...ความรู้สึกนั้นยังอยู่ไม่จางหาย เพียงแต่สติสัมปชัญญะเท่านั้นที่สิ้นสูญไปมากกว่าครึ่งของที่เคยมีอยู่ มัน...ถูกความเสียวกระสันกลืนกินพร้อมๆ กับเต้าอวบใหญ่ที่กำลังถูกเล็มเลียปาดไล้และดูดกลืนอย่างเมามัน เหมราชไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยแบบเปล่าประโยชน์ เขาปลดตะขอและรูดซิปดึงกางเกงขาสั้น โดยที่หญิงสาวเองก็ยินยอมให้มันหลุดออกไปจากตัวอย่างว่าง่าย พร้อมแสดงความบ้าบิ่นด้วยการถอดเสื้อที่ชายหนุ่มสวมอยู่ทิ้งบ้างให้เสมอภาคเท่าเทียม ความซาบซ่านบงการจิตใจฝ่ายต่ำให้ทำทุกอย่างตามที่ปรารถนา ตักตวงแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขสม ปลดปล่อยตัวเองจากความอัดอั้นทรมานและร้อนรุ่มเจียนจะขาดใจนี้ให้เร็วที่สุด เธอร่อนสะโพกให้เนื้อสาวถูไถกับตัวตนของเขาอย่างบ้าบิ่น เหมราชลืมตามองการกระทำนั้นด้วยความฮึกเหิมลำพองในใจ เขาเบียดตัวกดประชิดเธอบ้างเป็นการตอบสนอง สองแขนเรียวเล็กโอบกอดเขาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวแทนการค้ำยันก้อนหินซึ่งอยู่ด้านหลัง ผิวกายของเธอยังเย็น แต่เขารับรู้ได้เป็นอย่างดีถึงไฟราคะที่แผดเผาอยู่ข้างใน มันเร่าร้อนเดือดพล่าน และคงมีแต่เขาที่จะทำให้อุณหภูมิสูงสุดนั้นแตกดับลงได้ดั่งใจเธอ และอยากให้เป็นเขา...ตลอดไปเหลือเกิน อุ้งปากร้อนผ่าวครอบครองสองปทุมถันสลับกันซ้ายขวาโดยใช้มือช่วยขยำกำเคล้นเมื่ออีกข้างว่างจากการถูกดูดกลืน ปลายลิ้นตวัดรัดเลียโดยทั่วให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รับเอาความหอมหวานทุกอณูเนื้ออวบด้วยความตะกละตะกลามและหยาบโลนขึ้นเรื่อยๆ รอยแดงปื้นเป็นจ้ำช้ำเลือดปรากฏให้เห็นประปรายตั้งแต่ฐานคอลงมา น่าแปลก...หญิงสาวกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ณ จุดนั้นสักนิด กลับเป็นหน้าท้องน้อยและช่วงกลางลำตัวต่างหากที่ปวดหนึบปั่นป่วนจวนจะสิ้น ร้อนรุ่มทุรนทุราย แม้หายใจยังติดขัด ยิ่งเหมราชดูดดันเธอมากเท่าไหร่ ร่างน้อยนี้ก็เหมือนจะแหลกยับด้วยความตึงเครียดที่ก่อกวนจนหัวใจแทบหยุดเต้นได้ทุกขณะ "คุณพอสคะ...เจ้าขาทรมานจังเลย" "เดี๋ยวก็หายแล้วนะที่รัก ขอเวลาหน่อยนะ ไม่บ่อยเลยที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้" จริงๆ ตัวติดกันเป็นตังเม ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่กิจกรรมรักกลางแจ้งนี่ต่างหากที่ชายหนุ่มหมายถึง ซึ่งเจียระไนก็ยังครางตอบอู้อี้ไม่เป็นภาษาราวจะไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่เขาปรารภมา เฝ้าแต่จะร่ำร้องครวญครางให้เขาช่วยขจัดความปั่นป่วนกวนตัวนี้ให้เลือนหายไปเสียที เหมราชคว้าเสื้อที่หญิงสาวถอดและยังกำจิกติดมือเล็กๆ ของเธอมาปูวางบนก้อนหินใหญ่ ยกร่างสาวให้ร่นขึ้นไปนั่งพิงบนนั้นก่อนจะรูดกางเกงตัวเล็กและชั้นในบางจิ๋วติดมือขว้างไปด้านบน สรีระแห่งวัยสาวเป็นอิสระ ท้าทายเชิญชวนและเรียกร้องการตอบสนองที่ล้ำลึกสุดหยั่งถึง สองแขนล่ำสันสอดเข้าเข้าใต้เข่าพับแล้วจับเธอยกครูดให้นอนอยู่บนก้อนหินเต็มตัว สาวเจ้าอุทานครางเสียงหลง พยายามป่ายมือหาที่ยึดเหนี่ยว เพราะความเสียวซ่านรัญจวนโจมตีผิวเนื้อบอบบางส่วนสงวนทันทีเมื่อสองขาเปิดแยกออกห่าง ลมเย็นปะทะเข้ากับความอุ่นชื้นซึ่งแม้เล่นน้ำแช่อยู่พักใหญ่แต่มันก็ยังไม่ได้สัมผัสกับโลกภายนอกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้จึงต้องมีการปรับตัวกัน โดยใช้ช่วงเวลาไม่นานนักทุกอย่างก็คงที่ เธอคุ้นเลยกับมันแล้ว...และกำลังเฝ้ารอ รอการสัมผัส! "สวยงามที่สุด..." เสียงพร่าพร่ำบอก เหมือนเสียงพรายที่กระซิบฝากสายน้ำมาถามถึง เลื่อนลอยแต่ทรงอานุภาพด้วยอารมณ์ที่กำลังปะทุดุเดือด หญิงสาวครางฮือปนสำลักความเสียวซ่านจนฟังไม่เป็นศัพท์ เมื่อความผิวเนื้ออุ่นชื้นที่เอ่อฉ่ำแสดงความพร้อมได้รับการเติมเต็มที่เฝ้ารอ แม้จะเป็นสิ่งที่คาดฝันเพราะเขาไม่เคยกระทำมาก่อน มันก็ยังความสุขสมไม่ใช่น้อย การถูกสัมผัส ณ จุดไหวต่ออารมณ์หวามทำให้ความเกร็งเครียดผ่อนคลายลง และในขณะเดียวกันก็ยิ่งทะยานไขว่คว้าให้เขารุกล้ำหนักหน่วงตามแรงปรารถนาที่พวยพุ่ง สะโพกพายโยกย้ายอยู่ไม่ติดพื้น ร่อนร่านรับการโอ้โลมด้วยปลายลิ้นสากหนาและริมฝีปากที่กำลังดูดเม้มไล้เลียตัวตนอย่างลืมตัว สูญสิ้นหมดแล้วสัมปชัญญะอันดีงาม คงเหลือไว้เพียงร่างกายที่พลิ้วไหวเตลิดหลงไปกับกามารมณ์ที่ใครก็ไม่อาจควบคุม ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองจนกว่าจะสิ้นสุดแนวทางของมันเอง เรียวลิ้นม้วนสอดเข้าหาร่องรอยผลิแยก สอดใส่ล้ำลึกส่งความหฤหรรษ์กระสันซ่านสู่โพรงเนื้ออ่อนที่หอมหวาน หญิงสาวสะดุ้งรับครางหนักหวีดหวิวกว่าเก่า หน้าท้องหดเกร็ง แขนขาจิกงอใบหน้าเผยอเชิดไปด้านหลัง ดวงตาหลับพริ้มกะพริบปรืออย่างคนกำลังล่องลอยคล้อยเคลิ้มไปกับสัมผัสรุกที่หนักหน่วงขึ้น เหมราชรู้สึกได้ว่าจุดบอบบางที่เขากำลังล่วงล้ำกลืนกินสั่นระริกพร้อมเสมอจะสนองทุกความต้องการของเขา ไม่ว่าจะส่งมอบให้ในรูปแบบไหน เร่าร้อนรุนแรง...หรืออ่อนหวานหวามไหว ให้ทาย...ว่าเขาพิศวาสอย่างไหนมากกว่ากัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD